
นับตั้งแต่การยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางในมาเก๊าเมื่อปีที่แล้ว สำนักงานการท่องเที่ยวของรัฐบาลมาเก๊าก็ได้เปิดตัวแคมเปญการตลาดระหว่างประเทศ รวมถึงการโฆษณาออนไลน์และออฟไลน์ โรดโชว์ งานแสดงสินค้า การท่องเที่ยว ฯลฯ
โดยมีการออกโครงการริเริ่มส่งเสริมการท่องเที่ยวต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงเหนืออย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศและฟื้นฟูเศรษฐกิจ
45 เที่ยวบิน/สัปดาห์
“มาเรีย เฮเลน่า เดอ เซนน่า เฟอร์นานเดซ” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวมาเก๊า ระบุว่า การท่องเที่ยวมาเก๊าให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในการทำตลาดต่างประเทศ (ยกเว้นจีน) ในการที่จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นตลาดที่มีการฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

โดยสัดส่วนของนักท่องเที่ยวทั้งหมดของมาเก๊า ประกอบด้วย จีน 70% ตามด้วยฮ่องกง 20% ไต้หวัน 2% และอื่น ๆ รวม 7% (เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย)
สำหรับประเทศไทยปัจจุบันมีเที่ยวบินที่เดินทางจากไทยสู่มาเก๊าสัปดาห์ละ 45 เที่ยวบิน จาก 21 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยก่อนสถานการณ์โควิดปี 2562 คนไทยเดินทางเที่ยวมาเก๊า 151,521 คน และใช้เวลาอยู่ในมาเก๊าเฉลี่ย 1.4 คืนต่อคนต่อครั้ง
ในปี 2566 เดินทางไป 102,163 คน ใช้เวลาอยู่นานมากขึ้นที่ 2.3 คืนต่อคนต่อครั้ง ยอดการใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 300 ดอลลาร์ต่อคน หรือราว 10,800 บาท ขณะเดียวกัน ชาวมาเก๊าก็ชื่นชอบการมาเที่ยวไทยเป็นจำนวนมากเช่นกัน จากที่ก่อนโควิดชาวมาเก๊าเดินทางมาไทย 83,873 คนต่อปี และปี 2566 อยู่ที่ 40,842 คน
โฟกัสกลุ่มเที่ยวกันเอง
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวมาเก๊า บอกว่าพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยนิยมเดินทางด้วยตัวเอง ไม่ผ่านเอเย่นต์ทัวร์ การท่องเที่ยวจึงเน้นการตลาดบนโซเชียลมีเดีย ทำคอนเทนต์โปรโมตบนแพลตฟอร์ม เนื่องจากคนวางแผนเดินทางผ่านการศึกษาบนโซเชียล
โดยที่ผ่านมาพยายามจะโปรโมตสถานที่ที่เป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะการท่องเที่ยวสายมู มีการเดินทางไหว้ขอพรวัดดัง สะท้อนจากในช่วง “วันเปิดกระเป๋ารับทรัพย์” มีนาคมที่ผ่านมา มีคนไทยไปต่อคิวเพื่อเข้าสักการะเจ้าแม่กวนอิมก่อนวัดเปิดถึง 300 คน
โหมเมกะโรดโชว์ 5 ประเทศ
ล่าสุดสำนักงานการท่องเที่ยวรัฐบาลมาเก๊า (MGTO) รุกตลาดนักท่องเที่ยวไทยด้วยการจัดงานเมกะโรดโชว์ “Experience Macao” ในเกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และไทย นำโดย 6 กลุ่มโรงแรมรีสอร์ต (Intergrated Resort) ได้แก่ MGM, Galaxy, Wynn Macau, Melco, Sands และ SJM
รวมทั้งกลุ่มตัวแทนท่องเที่ยวในมาเก๊า Macao Trade and Investment Promotion Insitute และ Economic Development Bureau of Hengqin (เหิงฉิน) จากจีน
พร้อมชูแนวคิด “Tourism 1+4” เป็นแผนระยะยาว 5 ปีที่นำการท่องเที่ยวมาผสมผสานกับสิ่งที่โดดเด่นในมาเก๊า ไม่ว่าจะเป็นอาหาร วัฒนธรรม กีฬา รวมทั้งเทคโนโลยี เพื่อสร้างความหลากหลายในผลิตภัณฑ์ เพื่อเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวในทุกไลฟ์สไตล์ กระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงรุก
แกแล็กซี่ฯ เปิด Capella ปี’68
แหล่งข่าวจากแกแล็กซี่ มาเก๊า เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ (Galaxy Macau) ให้ข้อมูลว่า แกแล็กซี่ มาเก๊า เป็นที่รวมตัวของโรงแรมระดับ 5 ดาวและพร้อมสนับสนุนและให้ความร่วมมือกับรัฐบาลมาเก๊าในการเดินหน้าขยายตลาดไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ Galaxy Macau มีแผนเปิดตัวโรงแรม Capella ในช่วงกลางปี 2568 โดยภายในโรงแรมจะมีศูนย์การประชุมใหม่ล่าสุดของ Galaxy Entertainment Group ที่มีการขยายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และพร้อมเป็นสถานที่จัดงานกิจกรรมระดับโลก ในพื้นที่ 40,000 ตร.ม. รวมถึง Galaxy Arena สถานที่จัดกิจกรรมในร่ม ที่พร้อมรองรับผู้ชมมากถึง 16,000 คน
MGM โหมทำตลาดไทย
ด้าน “แพนซี่ โฮ” ประธานกรรมการบริหารและผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร MGM ไชน่าโฮลดิ้งส์ จำกัด หรือ MGM Macau บอกว่า พร้อมเปิดตัวแคมเปญส่งเสริมการขายในต่างประเทศเป็นครั้งแรกที่กรุงเทพฯ เมื่อ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อแสดงถึงเอกลักษณ์ของ MGM ในการผสมผสานศิลปะสุดคลาสสิกและความบันเทิงในระดับโลก
นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรม “ส่งเสริมการขายอาหารมาเก๊า” ณ โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ช่วง 15-29 มิถุนายนนี้ เพื่อนำอาหารมาคันนีสอันเป็นเอกลักษณ์ของมาเก๊า ซึ่งเป็นอาหาร “ฟิวชั่น” รายการแรกของโลกที่ได้รับการยอมรับจาก UNESCO มาแนะนำให้คนไทยได้รู้จักและลิ้มลอง และในอนาคตยังมีแผนจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่ปรับให้เข้ากับความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวไทย
รวมถึงเข้าโรดโชว์ “Experience Macao Roadshow in Bangkok” ร่วมกับการท่องเที่ยวมาเก๊า และพันธมิตรโรงแรมรีสอร์ตครบวงจรของมาเก๊าด้วยเช่นกัน