
จากกรณีที่นายศิษฏิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) ให้สัมภาษณ์ถึงปรากฏการณ์ของบริษัททัวร์ของจีนที่ใช้คนไทยเป็นนอมินี ได้นำกรุ๊ปทัวร์นักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยในรูปแบบ “ราคาต่ำที่สุด” เพื่อทุบตลาดทำให้บริษัทคนไทยไม่สามารถแข่งขันได้
พร้อมทั้งบีบบังคับ ข่มขู่ให้นักท่องเที่ยวซื้อสินค้าเพื่อนำไปชดเชยกับต้นทุนเพื่อให้มีกำไร ซึ่งสร้างความเสื่อมเสียแก่ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยอย่างมาก
ล่าสุด “เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา บอกว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ และได้สั่งการให้กรมการท่องเที่ยวเร่งแก้ปัญหาโดยด่วนแล้ว
“จาตุรนต์ ภักดีวานิช” อธิบดีกรมการท่องเที่ยว ให้ข้อมูลว่า สำหรับการแก้ปัญหา “ทัวร์นอมินี” และ “ทัวร์ต่ำกว่าทุน” นั้น กรมการท่องเที่ยวได้ดำเนินการอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม โดยการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมแก้ไขปัญหาการประกอบธุรกิจท่องเที่ยว โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง หรือ “ศปต.” ซึ่งร่วมมือกับ 5 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสอบสวนคดีพิเศษ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
โดยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา กรมการท่องเที่ยว โดย ศปต. ได้เร่งดำเนินการตรวจสอบในทุกพื้นที่ท่องเที่ยว เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบธุรกิจนำเที่ยวกว่า 30 ราย พบการกระทำความผิด จึงสั่งเพิกถอนใบอนุญาตและสั่งปิดบริษัทจำนวน 10 ราย
โดยคนไทยที่เป็น “นอมินี” จะถูกตัดสิทธิไม่ให้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว 5 ปี และจะถูกลงโทษตาม กฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ถูกจำคุกทั้งคนที่เป็นนอมินีและคนต่างด้าว
นอกจากนี้ ยังได้ขยายผลดำเนินคดีไปถึงชาวต่างชาติที่ลักลอบประกอบอาชีพมัคคุเทศก์เถื่อนให้กับบริษัทเหล่านี้อีกกว่า 10 ราย
อย่างไรก็ดี กรมการท่องเที่ยว ยังมีแผนเข้าตรวจสอบผู้ประกอบการที่เข้าข่ายมีพฤติการณ์ต้องสงสัยอีกนับสิบราย
หากใครที่พบเห็นการกระทำความผิดในรูปแบบทัวร์นอมินี ทัวร์ต่ำกว่าทุน หรือทัวร์ทุบตลาด สามารถแจ้งเรื่องมาได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการร่วมแก้ไขปัญหาการประกอบธุรกิจท่องเที่ยว โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง หรือ ศปต. ได้โดยตรง…