ทูตอิสราเอลเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย มุ่งแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการท่องเที่ยว พร้อมจัดกีฬากระชับมิตรไทย-อิสราเอล สานความร่วมมือระหว่างประเทศ
วันที่ 1 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ได้เข้าเยี่ยมคารวะและแสดงความยินดีแก่นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมทั้งหารือความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและกีฬาไทย-อิสราเอล ณ ห้องรับรอง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในการนี้ได้มีนายมงคล วิมลรัตน์ รองปลัดกระทรวง
การท่องเที่ยวและกีฬาเข้าร่วมหารือ โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้
1.รมว.การท่องเทียวฯกล่าวแสดงความขอบคุณเอกอัครราชทูตอิสราเอลและแสดงความยินดี เนื่องในวันครบรอบ 76 ปี ของการสถาปนาประเทศอิสราเอล และชื่นชมในความสัมพันธ์ทางการทูตที่ดีของสองประเทศที่มีต่อกันมาในทุกระดับกว่า 70 ปี โดยเฉพาะมิติด้านการท่องเที่ยว ซึ่งประเทศไทย ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางอันดับแรกของการท่องเที่ยวระยะไกลของนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล โดยตั้งแต่มกราคมถึงมิถุนายน 2567 มีนักท่องเที่ยวอิสราเอลเข้ามาท่องเที่ยวในไทยกว่า 107,863 คน ถึงแม้ว่าอิสราเอลยังอยู่ในภาวะสงคราม
2.ออท.อิสราเอลกล่าวว่านักท่องเที่ยวอิสราเอลรู้สึกปลอดภัยและสัมผัสถึงความเป็นมิตรของคนไทย โดยคาดว่าจะมี นทท.อิสราเอลมาเยือนไทยในปีนี้จำนวนเท่ากับก่อนโควิด
ทั้งนี้ รมว.การท่องเทียวฯได้ยืนยันว่าประเทศไทยยังคงยืนหยัดในเรื่องความเสมอภาค ทั้งด้านศาสนา ความเชื่อ และสัญชาติ โดยไม่มีความโน้มเอียงประเด็นทางการเมือง และให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวทุกคน
3.ออท.อิสราเอลได้เสนอข้อริเริ่ม 3 ข้อ ได้แก่ ส่งเสริมให้สายการบินของประเทศไทยบินตรงไปอิสราเอล เนื่องจาก ณ ปัจจุบันสายการบินแอล อัน (EI AI) จากอิสราเอล ซึ่งให้บริการโดยสารไปยังอิสราเอลวันละ 2 เที่ยว ไม่สามารถรองรับความต้องการของผู้โดยสายได้อย่างเพียงพอ
นอกจากนี้ ยังมีข้อริเริ่มโครงการบ้านพี่เมืองน้อง (Twin Cities) ซึ่งเป็นรูปแบบความสัมพันธ์พิเศษของเมืองสองเมืองที่มีความคล้ายคลึง มีการแบ่งปันความรู้และช่วยเหลือการพัฒนาระหว่างกัน โดยทางอิสราเอลได้ชื่นชมเกาะสมุยของประเทศไทยว่าเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและมีชายหาดที่สวยงาม
พร้อมเสนอให้มีการจัดสัมมนาแลกเปลี่ยนความรู้ Startup ด้านการท่องเที่ยว และ Tourism for All ซึ่งอิสราเอลมีความรู้และความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ ทั้งนี้ รมว.กก.ได้กล่าวขอบคุณข้อเสนอดังกล่าว และจะได้หารือมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการให้มีผลเป็นรูปธรรม
ส่วนในประเด็นความร่วมมือด้านการกีฬา เอกอัครราชทูตกล่าวว่า คนอิสราเอลนิยมมวยไทยเป็นอย่างมาก และประสงค์ที่จะให้มีการจัดกีฬากระชับมิตรไทย-อิสราเอล ซึ่ง ออท.ได้พบหารือกับ กกท.แล้วต่อข้อเสนอดังกล่าว ในการนี้ รมว.กก.เห็นชอบและจะให้การสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมดังกล่าวต่อไป