ไฮซีซั่นท่องเที่ยวคึก ! บุ๊กกิ้งล่วงหน้าโรงแรม 2 เดือนสุดท้ายไฮซีซั่นพุ่งแรง “กรุงเทพฯ-ภูเก็ต” ฮอตสุด ตุนยอดจองกันแล้ว 70-80% รายใหญ่ 5-6 ดาวตีปีกรับอานิสงส์ เร่งจ้างแรงงานชั่วคราวเสริมทีม รายเล็กโอดแรงงานขาดเสียโอกาสทำเงิน “ภูเก็ต” เผยอัตราเข้าพักเฉลี่ยตลอดปีนี้เกิน 85% หนุนรายได้ทะลุ 5 แสนล้านบาทแซงหน้าก่อนโควิด “พัทยา-ชลบุรี” รับขาดแรงงาน แต่บุ๊กกิ้งยังพุ่ง “เชียงใหม่” รับอานิสงส์สายการบินเปิดไฟลต์บินตรง
นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บรรยากาศการจองโรงแรมที่พักล่วงหน้าในช่วง 2 เดือนสุดท้าย (พฤศจิกายน-ธันวาคม) ของไฮซีซั่นปีนี้คึกคักแล้ว โดยพบว่าขณะนี้โรงแรมที่พักในกรุงเทพฯ และในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะภูเก็ตมีอัตราการจองล่วงหน้า (Forward Booking) เฉลี่ยที่ประมาณ 70-80% และเชื่อว่าจะมีเติมเข้ามาเรื่อย ๆ เนื่องจากพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจะจองล่วงหน้าในเวลาสั้นลง
ขณะที่ในภาคเหนือก็เริ่มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และเชื่อว่าจากมาตรการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวของรัฐบาล อาทิ โครงการแอ่วเหนือคนละครึ่ง เป็นต้น รวมถึงปัจจัยเรื่องฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงจะยิ่งเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยขับเคลื่อนให้อัตราการเข้าพักของโรงแรมที่พักในภาคเหนือปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่องเช่นกัน
รายใหญ่แห่จ้างงาน “ชั่วคราว” เสริม
นายกสมาคมโรงแรมไทยกล่าวด้วยว่า ยอมรับว่าประเด็นเรื่องขาดแคลนแรงงานในภาคการท่องเที่ยวยังคงเป็นปัญหาต่อเนื่อง โดยในส่วนของโรงแรมใหญ่ระดับ 4-5 ดาวขึ้นไปที่มีความพร้อมในด้านการจ้างงาน แต่ก็ยังมีความจำเป็นต้องจ้างงานในรูปแบบ “ชั่วคราว” เข้ามาเสริมทีมในช่วงที่มีงานอีเวนต์ หรืองานประชุมสัมมนา รวมถึงช่วงที่เป็นไฮซีซั่น
“เรื่องแรงงานผมว่าปีนี้ไม่ค่อยกระทบเท่าไหร่เพราะส่วนใหญ่ปรับตัวกันได้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ที่สำคัญทุกคนก็จะหาวิธีจูงใจเพื่อดึงดูดแรงงานเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน ค่าเซอร์วิสชาร์จ ฯลฯ ซึ่งรายเล็กก็อาจลำบากนิดหนึ่ง แรงงานที่มีความเชี่ยวชาญมีประสบการณ์ก็จะเปลี่ยนงานไปอยู่โรงแรมในระดับ 4-5 ดาว” นายกสมาคมโรงแรมไทยกล่าว
สอดรับกับแหล่งข่าวในธุรกิจโรงแรมรายหนึ่งที่กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ผู้ประกอบการโรงแรมรายเล็กในระดับ 3 ดาว หรือ 4 ดาวลงมา ยังประสบปัญหาแรงงานขาดแคลนค่อนข้างมาก เนื่องจากไม่สามารถแข่งขันเรื่องค่าจ้างแรงงานกับรายใหญ่ได้ โดยแรงงานที่มีประสบการณ์ก็จะย้ายไปอยู่กับผู้ประกอบการรายใหญ่แทน ซึ่งที่ผ่านมาก็มีโรงแรมขนาดใหญ่และรายใหม่ ๆ เกิดขึ้นต่อเนื่อง ทำให้เสียโอกาสในการทำธุรกิจในช่วงไฮซีซั่นนี้
“พนักงานถือเป็นต้นทุนสูงสุดอันดับ 1 ของธุรกิจโรงแรม ซึ่งหลังโควิดผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะจ้างงานในสัดส่วนที่น้อยลง เพื่อคุมต้นทุน และเลือกใช้รูปแบบการจ้างงานแบบชั่วคราวเข้ามาเสริมในช่วงที่มีลูกค้ามากแทน” แหล่งข่าวกล่าว
ภูเก็ตคาดรายได้ 5 แสนล้าน
นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ททท.ประเมินไว้ว่าภาพรวมการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตในช่วงไฮซีซั่นนี้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเท่ากับหรือใกล้เคียงกับปี 2562 แต่รายได้จะมากกว่าปี 2562 หรือประมาณ 5 แสนล้านบาท เนื่องจากตลาดภูเก็ตได้เปลี่ยนเป็น Destination ของนักท่องเที่ยวคุณภาพ มีการใช้จ่ายต่อคนมากขึ้น
ขณะเดียวกันปีนี้ยังมีหลายสายการบินใช้เส้นทางบินตรงเข้ามากขึ้น ส่งผลให้อัตราเข้าพักปีนี้มีอัตราเฉลี่ยเกิน 85% ตลอดทั้งปี ทั้ง Low Season และ High Season
ขณะที่นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ที่กล่าวว่า ในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา จังหวัดภูเก็ตได้มีการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวชุมชนเน้นเศรษฐกิจฐานราก ทำให้มียอดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตรวมกว่า 9 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 3 แสนล้านบาท และคาดว่าตลอดทั้งปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาภูเก็ตเกิน 14 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 4 แสนล้านบาท
โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้แจ้งข้อมูลว่าในช่วงไฮซีซั่นมีการจองโรงแรมมาแล้วกว่า 90% ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรป ขณะที่สถิตินักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในเดือนตุลาคม 2567 อันดับที่ 1 คือ จีน รองลงมาคือ รัสเซีย และอินเดีย มีเที่ยวบินขาเข้าและขาออกต่างประเทศในเดือนตุลาคม 2567 จำนวน 4,642 ไฟลต์ ส่วนใหญ่บินตรงจากยุโรปและเอเชียตะวันออก และเที่ยวบินในประเทศจำนวน 4,017 ไฟลต์
หมดปัญหา “แรงงาน” ขาด
ด้านนายรังสิมันตุ์ กิ่งแก้ว อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในส่วนของแรงงานนั้น จังหวัดภูเก็ตได้รับการแก้ปัญหาไปตั้งแต่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ปีนี้มีปัญหาเรื่องขาดแคลนแรงงานค่อนข้างน้อย แรงงานมีการเข้า-ออกปกติ ต่างกับปีที่ผ่านมา ๆ คือ ประกาศรับสมัครให้ค่าจ้างแพง ๆ แต่ก็หาคนไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงพีกที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก เช่น ช่วงคริสต์มาส-10 มกราคม โรงแรมหลายแห่งอาจจะมีจ้างพนักงานรายวัน (Casual) เป็นการจ้างชั่วคราวระยะสั้น ๆ โดยอาจจะให้ค่าตอบแทนที่สูง เช่น การจ้างแม่บ้านปูเตียงวันละ 1,000 บาท เป็นต้น” นายรังสิมันตุ์กล่าวและว่า
ประกอบกับหลังเกิดโควิด-19 สถานประกอบการหลายแห่งปรับลักษณะการจ้างงาน โดยรับพนักงานประจำน้อยลง แต่ปีนี้หลายแห่งเริ่มสรรหาบุคลากร (Recruit) กลับเข้ามาทำงานใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 แต่ยังอยู่ระดับประมาณ 80-90% ของปี 2562 และมีการปรับด้านฟังชั่นการทำงาน เสริมด้วยนักศึกษาฝึกงาน และจ้างพนักงานชั่วคราวเข้ามาช่วย
“พัทยา-ชลบุรี” ยอดจอง 80-100%
นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี นายกสมาพันธ์ท่องเที่ยวชลบุรี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ภาพรวมสถานการณ์การท่องเที่ยวไฮซีซั่นของชลบุรี-พัทยา ปี 2567 ดีกว่าปีที่ผ่านมา และดีกว่าช่วงก่อนโควิด-19 โดยโรงแรมบางแห่งที่อยู่ในทำเลที่ดี เช่น ริมทะเล เดินทางสะดวกใกล้แหล่งท่องเที่ยว แหล่งช็อปปิ้ง มีอัตราการจองเข้าพัก 80-100% ดีกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ส่วนโรงแรมที่อยู่ในทำเลห่างไกล โดยเฉพาะโรงแรมที่รับทัวร์จีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว สถานการณ์ยังไม่ฟื้นตัว
ทั้งนี้ ชลบุรีมีตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวสะสม 9 เดือนของปี 2567 (มกราคม-กันยายน) มีจำนวนนักท่องเที่ยวรวม 19,558,753 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 13.20% คิดเป็นรายได้รวม 208,875.86 ล้านบาท
“ในประเด็นของปัญหาการขาดแคลนแรงงานนั้น ทางพัทยา-ชลบุนีก็มีเหมือนกันแต่ไม่มาก เนื่องจากผู้ประกอบการทุกคนได้ปรับตัวตั้งแต่ช่วงหลังโควิด-19 เช่น หาแรงงานต่างชาติมาทำงาน หรือการจ้างพนักงานชั่วคราวมาช่วย ในช่วงที่มีผู้มาใช้บริการมาก”
แอร์ไลน์แห่บินตรง “เชียงใหม่”
ด้านนางละเอียด บุ้งศรีทอง ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมรติล้านนา ริเวอร์ไซด์ สปา รีสอร์ท เชียงใหม่ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ยอดจองห้องพักโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ช่วงไฮซีซั่นปีนี้ (พฤศจิกายน 2567-กุมภาพันธ์ 2568) เฉลี่ยอยู่ที่ 75-80% ซึ่งมีดีมานด์ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากการมีเส้นทางบินตรงจากต่างประเทศเข้ามาเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันมีมากกว่า 10 เส้นทาง ล่าสุดคือ เส้นทางบินจากมะนิลา ถือเป็นตลาดใหญ่ที่สามารถทดแทนตลาดจีนที่ยังไม่กลับมา 100% ในตอนนี้ได้
นางละเอียดกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า สำหรับเชียงใหม่นั้นก็เป็นพื้นที่ที่ไม่มีปัญหาเรื่องแรงงานในภาคบริการท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่นเช่นกัน เนื่องจากโรงแรมหลายแห่งปรับตัวมาตั้งแต่ช่วงโควิด โดยในส่วนของโรงแรมรติล้านนา ได้ปรับลดจำนวนคน โดยให้พนักงาน 1 คนควบหลายตำแหน่งที่สามารถทำได้หลายบทบาทหน้าที่ และเน้นการนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นเครื่องมือหลักในการทำงานด้วย
10 เดือน นทท.ต่างชาติ 28.6 ล้านคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเป้าหมายในด้านจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากการท่องเที่ยวนั้น ปีนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติไว้ที่ 35-36 ล้านคน และมีรายได้รวมที่ประมาณ 2.7-3 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ จากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวกีฬาระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-30 ตุลาคม 2567 ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาสะสมแล้ว 28.65 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วกว่า 1.3 ล้านล้านบาท
โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน (5.70 ล้านคน) มาเลเซีย (4.11 ล้านคน) อินเดีย (1.69 ล้านคน) เกาหลีใต้ (1.51 ล้านคน) และรัสเซีย (1.28 ล้านคน) และคาดว่าในช่วงสัปดาห์ถัดไปจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น จากปัจจัยส่งเสริมการเดินทาง ได้แก่ การมีวันหยุดในเทศกาลดิวาลีในหลายประเทศ อาทิ มาเลเซีย และสิงคโปร์ รวมถึงการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long Haul) โดยเฉพาะตลาดภูมิภาคยุโรป