AOT เตือนงดการจุด ปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควันภายเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ตามมาตราที่ 59/1 แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ.2497 ฝ่าฝืนมีบทลงโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) กล่าวว่า ช่วงเทศกาลลอยกระทง หรือเทศกาลยี่เป็ง ซึ่งตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 หน่วยงานหรือประชาชนในบางพื้นที่อาจมีการจัดกิจกรรมปล่อยโคมลอย ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อการทำการบินได้
ดังนั้น ในส่วนของ AOT ผู้บริหารท่าอากาศยานในความรับผิดชอบ 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ขอย้ำเตือนอันตรายจากการปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน พลุ ตะไล บั้งไฟ ดอกไม้ไฟ ลูกโป่ง
รวมถึงการปล่อยโดรน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่ออากาศยาน และการมองเห็นของนักบิน ได้แก่ เครื่องบินสูญเสียการควบคุม ทำให้เครื่องบินเกิดอุบัติเหตุ หรือหากเข้าเครื่องยนต์หรือโดนถังน้ำมันเครื่องบิน อาจเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง บดบังทัศนวิสัยของนักบินและรบกวนสมาธิของนักบิน ตลอดจนการฉายลำแสงเลเซอร์ขึ้นบนท้องฟ้า (Laser Beam) ซึ่งรบกวนสายตาของนักบิน
AOT จึงขอความร่วมมือประชาชนงดการจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นที่คล้ายคลึงกันขึ้นสู่อากาศภายในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ตามมาตราที่ 59/1 แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ.2497 ได้ห้ามไว้ หากฝ่าฝืนมีบทลงโทษสูงสุด คือจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และหากมีการทำให้อากาศยานในระหว่างบริการเสียหาย จนไม่สามารถทำการบินได้หรืออาจเกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างบิน ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกตั้งแต่ 15 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 600,000 บาท ถึง 800,000 บาท
สำหรับพื้นที่นอกเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ขอให้ผู้ที่ต้องการจุด และปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นที่คล้ายคลึงกันขึ้นสู่อากาศ จะต้องขออนุญาตจากเจ้าพนักงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง