
ฟิลิปปินส์แอร์ไลน์ ก้าวสู่ยุคใหม่ของการบิน เลือกใช้ระบบ “S.FP+” ของแอร์บัส เพิ่มประสิทธิภาพการบำรุงรักษาเครื่องบิน-ลดค่าใช้จ่าย-ยกระดับความปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สายการบินฟิลิปปินส์แอร์ไลน์ (Philippine Airlines : PAL) และสายการบินในเครืออย่าง พีเอแอล เอ็กซ์เพรส (PAL Express) ได้เลือกใช้ชุดซอฟต์แวร์ S. Fleet Performance + (S.FP+) ของแอร์บัส เพื่อสนับสนุนการบํารุงรักษาเชิงคาดการณ์ (Predictive Maintenance) และติดตามสภาพความสมบูรณ์ของเครื่องบินในฝูงบินแอร์บัสทั้งหมดของบริษัท
การตัดสินใจครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาขีดความสามารถด้านการปฏิบัติการของเครือสายการบินฟิลิปปินส์แอร์ไลน์ และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่าง PAL และแอร์บัสให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
โดยการประกาศข้อตกลงครั้งนี้ เกิดขึ้นระหว่างการประชุมด้านการบํารุงรักษาอากาศยานเชิงคาดการณ์ (Predictive Aircraft Maintenance Conference) ซึ่งจัดขึ้นวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 ที่เมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์
ภายใต้ข้อตกลงนี้ ฝูงบินของ PAL ซึ่งรวมถึงเครื่องบินตระกูล A320 (A321ceo และ A321neo), A330ceo และ A350 จะได้รับการติดตั้งโซลูชั่น S.FP+ ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยลดเหตุการณ์ด้านการบำรุงรักษาอากาศยานที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้าและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง
โดย S.FP+ จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ฝูงบินของ PAL และเสริมประสิทธิภาพการดำเนินงาน แนวทางเชิงรุกนี้จะช่วยให้ PAL สามารถจัดการกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้โดยการคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า และช่วยรักษามาตรฐานการดำเนินงานของฝูงบินให้อยู่ในระดับสูง
Philippine Airlines เป็นสายการบินแรกในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่เลือกใช้ระบบ S.FP+ ในระดับความสามารถขั้นสูง หรือระดับ Enhance ซึ่งสามารถใช้การวิเคราะห์เชิงพยากรณ์เพื่อคาดการณ์ถึงการสึกหรอหรือการชำรุดของชิ้นส่วนเครื่องบินได้ล่วงหน้า
พร้อมทั้งให้ข้อมูลเชิงลึกที่ครอบคลุมถึงสภาพความสมบูรณ์ของฝูงบิน การผสานเทคโนโลยีล่าสุดของ Airbus Skywise Core Platform ได้ทำให้ S.FP+ เป็นโซลูชั่นที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลซึ่งสามารถระบุและจัดลำดับความสำคัญปัญหาเชิงเทคนิคได้ โดยคำนวณจากพื้นฐานของผลกระทบด้านการปฏิบัติการและผลเชิงเศรษฐกิจเป็นสำคัญ
“กัปตันโรแลนด์ นาร์ซิโซ” (Capt. Roland Narciso) รองประธานอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการ สายการบิน Philippine Airlines กล่าวว่า การเป็นพันธมิตรของเรากับแอร์บัสในการนำระบบ S.FP+ มาใช้งาน จะช่วยยกระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติการให้กับ Philippine Airlines นอกจากนี้ การใช้ประโยชน์จากโซลูชั่นการบํารุงรักษาเชิงคาดการณ์ของแอร์บัสจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ และยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานของฝูงบินของเราให้อยู่ในระดับสูง
“บาลินดา จาง” (Balinda Zhang) หัวหน้าฝ่ายบริการเชิงพาณิชย์ ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก แอร์บัส กล่าวว่า ความร่วมมือกับ Philippine Airlines ครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการยกระดับประสิทธิภาพการบริหารจัดการฝูงบินด้วยระบบข้อมูล
สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ ยังนับเป็นก้าวสำคัญที่เสริมความแข็งแกร่งให้กับบทบาทของแอร์บัสในด้านการให้บริการโซลูชั่นที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และสร้างแนวทางให้การใช้เทคโนโลยีการบำรุงรักษาขั้นสูงเกิดขึ้นอย่างแพร่หลายในภูมิภาคต่อไป