ธุรกิจริมน้ำเจ้าพระยาโตยกแผง บิ๊กอีเวนต์หนุน-โรงแรมหรูบุ๊กกิ้งพุ่ง

fireworks

ธุรกิจริมน้ำ 2 ฝั่งเจ้าพระยาสุดร้อนแรง บิ๊กอีเวนต์ “ลอยกระทง-วิจิตรเจ้าพระยา-เคานต์ดาวน์ไอคอนสยาม” ปลุกสีสันโค้งท้ายปลายปีคึกคัก โรงแรมหรูริมน้ำ “เพนนินซูล่า-ฮิลตัน-คาเพลลา-โฟร์ซีซั่นส์” ยอดจองพุ่งแตะ 85-90% ยาวยันสิ้นปี วงในชี้ “ไอคอนสยาม” ติดลมบนขึ้นแท่นท็อป 5 เดสติเนชั่นเคานต์ดาวน์โลก สมาคมการค้าธุรกิจในแม่น้ำเจ้าพระยาเผยเรือดินเนอร์ ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวโตตามยกแผง คาดปีนี้นักท่องเที่ยวทะลัก 2 เท่าตัว การใช้จ่ายเติบโตไม่ต่ำกว่า 50%

แหล่งข่าวในธุรกิจโรงแรมหรูรายหนึ่งเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า นับตั้งแต่เริ่มต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา บรรยากาศการท่องเที่ยวในพื้นที่ริม 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามีสีสันและคึกคักขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งโรงแรม ศูนย์การค้า เรือดินเนอร์ครุยส์ รวมถึงร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวและชุมชนท่องเที่ยวในย่านเจริญกรุง ฝั่งธนบุรี และเจริญนคร ซึ่งได้กลายเป็นแหล่งธุรกิจใหม่ของกรุงเทพฯไปเรียบร้อยแล้ว

รร.หรูอัพราคา-ยอดจองพุ่ง 90%

โดยโรงแรมกลุ่มลักเซอรี่ในพื้นที่ดังกล่าวได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและคนไทยเพิ่มขึ้นทั้งที่เป็นกลุ่มทุนรายเดิมและกลุ่มทุนใหม่ โรงแรมส่วนใหญ่มียอดการจองห้องพักล่วงหน้ามากันตั้งแต่เดือนกันายน-ตุลาคมที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น เดอะ เพนนินซูล่า กรุงเทพฯ, มิลเลนเนียม ฮิลตัน, คาเพลลา กรุงเทพฯ, โฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ, แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ, แชงกรี-ลา กรุงเทพฯ ฯลฯ รวมถึงโรงแรมขนาดเล็ก หรือบูทีคโฮเทลบางส่วนด้วย

“หลังจากที่มีข่าวยืนยันจากทางศูนย์การค้าไอคอนสยามว่า ศิลปินชื่อดัง ลิซ่า มาร่วมงานเคานต์ดาวน์ที่ไอคอน ดีมานด์การจองห้องพักในโซนดังกล่าวยิ่งเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน และไม่เพียงแค่ยอดการจองที่ไหลเข้าเท่านั้น โรงแรมทุกแห่งยังปรับราคาขึ้นกันแบบยกแผงด้วย” แหล่งข่าวกล่าวและว่า ล่าสุดพบว่าโรงแรมหลายแห่งมีอัตราการจองที่พักเฉลี่ยไปอยู่ในระดับ 85-90% แล้วนับตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งมีเทศกาลลอยกระทง

ท็อปเดสติเนชั่นเคานต์ดาวน์โลก

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ปัจจุบันในพื้นที่ดังกล่าวยังมีงาน “VIJIT CHAO PHRAYA 2024” งานที่สร้างปรากฏการณ์แห่งแสง สี บริเวณสถานที่สำคัญริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมร้อยเรื่องราวของความงามในพื้นที่ริมน้ำของกรุงเทพฯ ที่จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน-15 ธันวาคม 2567 ซึ่งเป็นหนึ่งในบิ๊กอีเวนต์สำคัญภายใต้เทศกาล Thailand Winter Festivals 2024 ที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และพันธมิตรจัดขึ้นเพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวส่งท้ายปี

“งานนี้ ททท.ได้คาดการณ์ว่า ตลอด 1 เดือนของการจัดงาน ‘วิจิตรเจ้าพระยา’ นี้จะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 500,000 คน และจะสร้างรายได้หมุนเวียนทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท” แหล่งข่าวกล่าวและว่า

ADVERTISMENT

หลังจบงาน “VIJIT CHAO PHRAYA 2024” ในพื้นที่ดังกล่าวยังมีอีเวนต์ใหญ่ส่งท้ายปี คือ งาน Amazing Thailand Countdown 2025 ณ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม ที่กำหนดจัด 3 วัน 3 คืน (29-31 ธันวาคม 2567) มีการแสดงพลุแบบอลังการและโชว์เดี่ยวของ “ลิซ่า ลลิษา มโนบาล” ศิลปินระดับโลก ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า ไอคอนสยาม และพื้นที่ริม 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นท็อป 5 เดสติเนชั่นเคานต์ดาวน์ระดับโลก

“ในมุมของคนทำธุรกิจโรงแรมเรามองว่า สำหรับในพื้นที่กรุงเทพฯ ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ยอดบุ๊กกิ้งห้องพักในย่านริมแม่น้ำเจ้าพระยาคึกคักมากที่สุด โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี หรือตั้งแต่ 27-28 ธันวาคม 2567 ไปจนถึงต้นปี 2568 จัดว่าร้อนแรงมากที่สุด ย่านดาวน์ทาวน์ที่มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ ดิ เอ็มโพเรียม และเอ็มสเฟียร์ รวมกันพลังปีนี้ ยังแรงไม่เท่าย่านริมน้ำ” แหล่งข่าวกล่าว

ADVERTISMENT

ท็อป 5 โลเกชั่นเคานต์ดาวน์โลก

สอดรับกับ นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด ที่กล่าวว่า ปีนี้ศูนย์การค้าไอคอนสยามได้ยกระดับการทำการตลาดเพื่อรองรับบิ๊กอีเวนต์ที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ โดยเฉพาะงาน Amazing Thailand Countdown 2025 ซึ่งบริษัทมีแผนสนับสนุนและส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวสู่หนึ่งในจุดหมายปลายทาง Global Countdown Destination ระดับโลก โดยไฮไลต์ของปีนี้คือการแสดงจาก “ลิซ่า ลลิษา มโนบาล” ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2567

“จากข้อมูลที่มีตอนนี้พบว่าโรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน และโรงแรมเพนนินซูล่า ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มียอดจองห้องพักสูงถึง 95% แล้ว สะท้อนถึงความสนใจต่องานปีนี้อย่างชัดเจน”

น้องใหม่ UHG รับอานิสงส์

นายวุฒิพล ถาวรธวัช กรรมการผู้จัดการ เออร์เบิน ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป (Urban Hospitality Group : UHG) หรือยูเอชจี ผู้ลงทุนและบริหารโรงแรมภายใต้แบรนด์ The Quarter by UHG เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สำหรับทำเลในย่านริมแม่น้ำเจ้าพระยานั้น กลุ่ม UHG ได้เปิดให้บริการโรงแรมไปเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาภายใต้ชื่อ The Quarter Chaophraya by UHG เป็นรีสอร์ตหรูขนาด 250 ห้อง ตั้งอยู่ติดรถไฟฟ้าสายสีทองต่อจาก ICONSIAM เพียง 1 สถานี

โดยปีนี้โรงแรม The Quarter Chaophraya by UHG ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างประเทศและชาวไทยเช่นกัน ปัจจุบันมียอดการจองล่วงหน้าและสามารถทำราคาได้ในระดับที่น่าพอใจมาก อย่างไรก็ตาม บริษัทจะกำหนดสัดส่วนการขายล่วงหน้าให้อยู่ในระดับประมาณ 70% ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 30% จะกันไว้สำหรับการขายในช่วงเวลาใกล้ช่วงปลายปี เพื่อวางระดับราคาให้สอดรับกับดีมานด์ที่เกิดขึ้น

“เดอะ ควอเตอร์ เจ้าพระยา เป็นโรงแรมใหม่ในกลุ่ม เราเปิดให้บริการมาได้ประมาณ 2 ปี ปีนี้ได้รับการตอบรับที่ดีมาก เนื่องจากโรงแรมเราตั้งอยู่ในทำเลที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ทุกห้อง” นายวุฒิพลกล่าว

“บิ๊กอีเวนต์-รถไฟฟ้า” ปัจจัยหนุน

ด้านนาวาโทปริญญา รักวาทิน นายกสมาคมการค้าธุรกิจในแม่น้ำเจ้าพระยา กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพรวมของธุรกิจการค้าบริเวณ 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้คึกคักและมีสีสีนเพิ่มขึ้นอย่างมาก โรงแรมหลายแห่งมีอัตราการจองห้องพักในคืนเคานต์ดาวน์เกือบ 100% แล้ว

ทั้งนี้ มองว่ามาจาก 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1.กิจกรรมที่ส่งเสริมโดยภาครัฐ อาทิ งานลอยกระทง เฟสติวัล ที่จบไป งานวิจิตรเจ้าพระยา ที่ประดับและโชว์แสง สี เสียง ตามจุดสำคัญต่าง ๆ เช่น ป้อมวิชัยประสิทธิ์ วัดอรุณราชวราราม สวนสันติชัยปราการ สะพานพระราม 8 ฯลฯ ไปถึงกลางเดือนธันวาคม และปิดท้ายปีด้วยงานเคานต์ดาวน์ 2025 ณ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม

และ 2.การคมนาคมที่สะดวก โดยเฉพาะรถไฟฟ้าที่มีถึง 3 สาย คือ สายสีม่วง สายสีน้ำเงิน และสายสีเขียว ขณะเดียวกันโครงสร้างพื้นฐานในส่วนท่าเรือของกรมเจ้าท่าที่ได้พัฒนาปรับปรุงให้มีความปลอดภัย ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติสามารถเดินทางเข้าไปเที่ยวในพื้นที่ริมเจ้าพระยาได้ง่ายขึ้น

ร้านอาหาร-เรือดินเนอร์โตยกแผง

นาวาโทปริญญากล่าวด้วยว่า ด้วยปัจจัยบวกในด้านการเดินทางและโลเกชั่นที่เป็นที่รู้จักในระดับโลก ทำให้ธุรกิจการค้าในพื้นที่ 2 ฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยามีการเติบโตอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่หลังวิกฤตโควิด ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร เรือดินเนอร์ ฯลฯ ซึ่งคาดว่ามีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30% เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนวิกฤตโควิด

“ในด้านแหล่งท่องเที่ยวนั้น วันนี้ไอคอนสยามเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่น่าจะสวยที่สุดในระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังมีที่อื่น ๆ อีก เช่น เอเชียทีค หรือแหล่งท่องเที่ยวตามย่านชุมชนต่าง ๆ ที่มีการรวมตัวกันจัดขึ้น เช่น บางรัก ที่เป็นดิสทริกแอเรีย อินโนเวชั่น เป็นต้น สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนช่วยดึงให้คนเริ่มเดินทางเข้ามาในช่วงนี้มากขึ้น” นาวาโทปริญญากล่าวและว่า

ขณะที่งานเคานต์ดาวน์ที่ไอคอนสยามปีนี้ จัดเป็น Global Countdown ซึ่งทางศูนย์การค้าได้ประชาสัมพันธ์ไปแล้วว่า ประเทศไทยติด 1 ใน 5 ของโลกที่จะเป็นจุดที่มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกในการนับถอยหลังสู่การเริ่มต้นปีใหม่

เช่นเดียวกับบรรยากาศการแข่งขันของเรือดินเนอร์ครุยส์ในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่วันนี้มีให้บริการมากถึง 38-40 ลำ สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึงประมาณ 12,600 คนต่อวัน หรือร้านอาหารและภัตตาคารริมน้ำที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก

นักท่องเที่ยวเพิ่ม 2 เท่าตัว

นาวาโทปริญญากล่าวเพิ่มเติมอีกว่า บรรยากาศที่คึกคักและมีสีสันเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนนี้ ทำให้สมาคมการค้าธุรกิจในแม่น้ำเจ้าพระยาคาดการณ์ว่า ในช่วงปลายปีนี้ในพื้นที่ดังกล่าวนี้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยเพิ่มขึ้นได้ประมาณ 2 เท่าตัว เมื่อเทียบกับในช่วงเวลาปกติ ส่วนวันเคานต์ดาวน์ก็คาดว่าจะเพิ่มเป็น 2 เท่าเช่นกัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ส่วนด้านมูลค่าการจับจ่ายในพื้นที่นั้น คาดว่าจะมีมูลค่ารวมเติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 50% เมื่อเทียบกับในช่วงปกติ ทั้งนี้ เป็นผลจากการแข่งขันของซัพพลายไซด์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับเงื่อนไขการใช้จ่ายที่ดีขึ้นกว่าเดิม

“แม้ว่าอัตราการเติบโตของมูลค่าการใช้จ่ายในพื้นที่จะไม่ได้เพิ่มในสัดส่วนใกล้เคียงกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยว แต่การแข่งขันที่มากขึ้นนี้ทำให้ตลาดรวมมีสีสันขึ้น ที่สำคัญ ยังทำให้ผู้ประกอบการหันมายกระดับมาตรฐานการให้บริการมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยด้วย” นาวาโทปริญญากล่าว