AOT เพิ่มศักยภาพแข่งขัน ขึ้นท็อป 20 สนามบิน ดีที่สุดของโลก

AOT

งบประมาณ 2567 (1 ตุลาคม 2566-30 กันยายน 2567) ที่ผ่านมา บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ผู้บริหารท่าอากาศยานหลักจำนวน 6 แห่งของไทย ระบุว่า มีปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT มีผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 119.29 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.22 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในจำนวนนี้แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 72.67 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.82 และผู้โดยสารภายในประเทศ 46.62 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.01 ในส่วนของเที่ยวบินพบว่ามีเที่ยวบินรวม 732,690 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.5 แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 416,190 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.63 และเที่ยวบินภายในประเทศ 316,500 เที่ยวบิน ลดลงร้อยละ 0.73

คาดปี’68 ผู้โดยสาร 29.9 ล้าน

“ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) (AOT) บอกว่า สำหรับปีงบประมาณ 2568 (1 ตุลาคม 2567-30 กันยายน 2568) นั้น AOT ได้ประมาณการปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งภายใต้การบริหาร

ประกอบด้วย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (สงขลา) จะมีผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 129.97 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.95 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 78.61 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.17 และผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 51.36 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.18 และในส่วนของเที่ยวบินคาดว่าจะมีเที่ยวบินรวมประมาณ 808,280 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.32 แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 453,750 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.02 และเที่ยวบินภายในประเทศประมาณ 354,530 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.02

ปีใหม่’68 เที่ยวบินฟื้น 100%

จากประมาณการดังกล่าวจะเห็นได้ว่าตัวเลขผู้โดยสารฟื้นตัวใกล้เคียงกับปริมาณผู้โดยสารช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของปีนี้ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 AOT คาดว่าระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2567-4 มกราคม 2568 จะมีผู้โดยสารเดินทางมาใช้บริการท่าอากาศยาน 6 แห่ง ประมาณ 2.86 ล้านคน ฟื้นตัวร้อยละ 92.9 เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 (29 ธันวาคม 2562-4 มกราคม 2563)

ADVERTISMENT

ในจำนวนนี้เป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 1.83 ล้านคน ฟื้นตัวร้อยละ 95.3 และผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 1.03 ล้านคน ฟื้นตัวร้อยละ 88.8

และคาดว่าจะมีเที่ยวบินประมาณ 17,410 เที่ยวบิน ฟื้นตัวร้อยละ 97.5 เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 (29 ธันวาคม 2562-4 มกราคม 2563) เป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 10,370 เที่ยวบิน ฟื้นตัวร้อยละ 102 หรือฟื้นตัวเท่ากับช่วงก่อนโควิด-19 แล้ว และเที่ยวบินภายในประเทศประมาณ 7,040 เที่ยวบิน ฟื้นตัวร้อยละ 91.6

ADVERTISMENT

AOT

เร่งเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน

“ดร.กีรติ” บอกด้วยว่า AOT มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง เพื่อการรองรับการจราจรทางอากาศที่จะเติบโตในอนาคต เชื่อมโยงท่าอากาศยานกับโครงข่ายการเดินทางทั่วประเทศ และพัฒนาอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องรองรับศูนย์กลางการเดินทางภูมิภาค

อาทิ ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (Maintenance Repair and Overhaul : MRO) และท่าอากาศยานสำหรับเครื่องบินส่วนบุคคล (Private Jet) เพื่อจูงใจสายการบินทั่วโลกให้เข้ามาเปิดเส้นทางใหม่และรองรับการเติบโตที่ก้าวกระโดดของตลาดการบินเอเชีย-แปซิฟิก

“เราตั้งเป้าพัฒนาและผลักดันให้สนามบินในความรับผิดชอบมีมาตรฐานสากล สะดวกสบาย ผู้โดยสารได้รับการบริการที่รวดเร็วและปลอดภัย โดยล่าสุดเว็บไซต์ Skytrax ซึ่งเป็นเว็บไซต์จัดอันดับการให้บริการของท่าอากาศยาน ได้ประกาศท่าอากาศยานที่ดีที่สุดโลก ประจำปี 2567 พบว่าสุวรรณภูมิ ติดอันดับที่ 58 ขยับขึ้นมา 10 อันดับ จากอันดับที่ 68 ในปี 2566 และดอนเมืองติดอันดับ 10 ของท่าอากาศยานสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำที่ดีที่สุดโนโลก”

พัฒนาสนามบินทั้ง 6 แห่ง

ทั้งนี้ AOT ได้เตรียมแผนการรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศ และผู้โดยสารจากหลากหลายภูมิภาคทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งเร่งดำเนินการพัฒนาท่าอากาศยานเพื่อรองรับการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวของประเทศตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ดังนี้

1.โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 งานก่อสร้างอาคาร SAT-1 พร้อมทั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติเชื่อมต่อระหว่างอาคาร SAT-1 กับอาคารผู้โดยสารหลัก ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเปิดให้บริการแล้วเมื่อเดือนกันยายน 2566 ทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นจาก 45 ล้านคนต่อปี เป็น 60 ล้านคนต่อปี

และในปีนี้ได้เปิดใช้ทางวิ่งเส้นที่ 3 แล้ว เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางวิ่งให้รองรับเที่ยวบินได้เพิ่มขึ้นจาก 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีแผนก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก (East Expansion) เพื่อเพิ่มที่การให้บริการ โดยเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้อีก 15 ล้านคนต่อปี โดยคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2570

AOT

2.โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 จะก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และปรับปรุงอาคารผู้โดยสารอาคาร 1 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจาก 30 ล้านคนต่อปี เป็น 50 ล้านคนต่อปี ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการออกแบบ คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2573

3.โครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1 จะก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และปรับปรุงอาคารผู้โดยสารอาคารหลังเดิมเป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเพศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจาก 8 ล้านคนต่อปี เป็น 20 ล้านคนต่อปี ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการออกแบบ คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2571

4.โครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต ระยะที่ 2 จะก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจาก 12.5 ล้านคนต่อปี เป็น 18 ล้านคนต่อปี ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำข้อกำหนดการจ้าง (TOR) จ้างผู้ออกแบบ คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2572

5.โครงการพัฒนาท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ระยะที่ 1 จะดำเนินการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจาก 3 ล้านคนต่อปี เป็น 6 ล้านคนต่อปี ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำ TOR จ้างผู้ออกแบบ คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2572

และ 6.ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (สงขลา) ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการทบทวนแผนแม่บทให้สอดคล้องกับปริมาณการจราจรทางอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลง

ท็อป 20 สนามบินดีที่สุดในโลก

นอกจากนี้ ยังมีความพร้อมในการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินของโลก เชื่อมโยงการขนส่งทางอากาศและเชื่อมต่อการเดินทางแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกตามนโยบายของรัฐบาล โดยมีเป้าหมายผลักดันท่าอากาศยานของไทยให้ติดอันดับ 1 ใน 20 ท่าอากาศยานที่ดีที่สุดในโลก

รวมทั้งเพิ่มขีดศักยภาพการรองรับผู้โดยสาร และเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าแห่งภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดเป็น 1 ใน 10 ของโลกด้วย