“คลัง” ลั่น ! สนับสนุนเต็มที่

กว่า 4 ปีที่ “การบินไทย” สายการบินแห่งชาติเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการตามคำสั่งศาลล้มละลาย ล่าสุดตัวเลข 9 เดือนแรกของปี 2567 พบว่า การบินไทยมีกำไรจากการดำเนินงานถึง 2.4 หมื่นล้านบาท

ผลประกอบการที่ดีต่อเนื่องนี้ทำให้กระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ยื่นขอแก้แผนฟื้นฟูกิจการและขอเพิ่มผู้บริหารแผนฟื้นฟู 2 คน

โดยในประเด็นดังกล่าวนี้ “พรชัย ฐีระเวช” ผู้บริหารแผนฟื้นฟูบริษัท การบินไทย ในฐานะตัวแทนกระทรวงการคลัง บอกว่า การบินไทยจะเป็นบริษัทเอกชนซึ่งมีกรรมการที่มาจากผู้ถือหุ้น กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และมีทีมบริหาร (ชุดปัจจุบัน)

โดยทีมบริหารชุดนี้จะเป็นกลุ่มขับเคลื่อนการบินไทย และทำงานควบคู่กับกรรมการชุดใหม่ที่จะมีการแต่งตั้งเข้ามาบริหารในอนาคต และมีส่วนผลักดันให้ “การบินไทย” ก้าวสู่วิสัยทัศน์ใหม่ที่ว่า “การบินไทย สู่ขอบฟ้าใหม่…แห่งความภูมิใจ”

“เราจะเห็นภาพการบินไทยสามารถเดินออกจากแผนฟื้นฟู และดำเนินการในรูปแบบของบริษัทเอกชนแบบเต็มตัว และพร้อมที่จะบินทะยานสู่ของฟ้าใหม่อีกครั้ง”

พร้อมบอกว่า ที่ผ่านมากระทรวงการคลังในฐานะเจ้าหนี้ได้ร่วมทำแผนกับเจ้าหนี้อื่น ๆ มีการพูดคุยกับเจ้าหนี้รายอื่น ๆ ฯลฯ โดยกระบวนการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อให้การบินไทยกลับมาผงาดในน่านฟ้าใหม่ได้

ดังนั้น เมื่อเข้ามาเป็นคณะกรรมการเจ้าหนี้กระทรวงการคลังก็เห็นชอบในแผนฟื้นฟู พร้อมทั้งตัดสินใจเป็นเจ้าหนี้รายเดียวที่ตกลงว่าจะแปลงหนี้เป็นทุน 100% ซึ่งสะท้อนชัดเจนแล้วว่ากระทรวงการคลังเล็งเห็นความสำคัญของการบินไทย จึงได้เขียนระบุไว้ในแผนตั้งแต่ต้น

อย่างไรก็ตาม ในการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิมและพนักงานหลังจากนี้ (6-12 ธันวาคม 2567) ทางกระทรวงการคลังคงต้องพิจารณาว่าจะลงทุนเพิ่มทุนส่วนนี้เท่าไหร่ ซึ่งยังตอบตอนนี้ไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่กระทรวงการคลังโดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ต้องนำไปพิจารณา

ทั้งนี้ ตามแผนพื้นฟูมีระบุไว้ว่า ไม่ให้ภาครัฐถือหุ้นต่ำกว่า 25% และในการปรับโครงสร้างทุนหรือเพิ่มทุนนั้นจะต้องไม่ทำให้การบินไทยกลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งหมายถึงต้องถือหุ้นต่ำกว่า 50%

นั่นหมายความว่า สัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังจะถือหุ้นได้ในสัดส่วน 25-49.99% หรือถ้าจะให้ปลอดภัยที่สุดคือต้องอยู่ระหว่าง 25-49%

“ก่อนปรับโครงสร้างทุนกระทรวงการคลังถือหุ้น 47.9% รัฐวิสาหกิจ 2.1% กองทุนวายุภักษ์ 7.6% ผู้ถือหุ้นอื่น ๆ 42.4% แต่โครงสร้างการถือหุ้นหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในเบื้องต้นกระทรวงการคลังถือหุ้นอยู่ 33.4% ถ้ารวมภาครัฐด้วยจะประมาณ 37% ฉะนั้นที่เหลืออยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจต้องนำเรียนรัฐมนตรีพิจารณา”

และยอมรับว่า ปัจจัยที่ทำให้การบินไทยขับเคลื่อนมาได้ถึงปัจจุบันมี 3 อย่าง คือ 1.พนักงานและผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพ 2.ระบบ และ 3.กรรมการ โดยกรรมการชุดใหม่ก็จะเข้ามากำกับดูแลตามกฎหมายนั้นต้องรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้น พนักงาน องค์กรภายใต้กติกาของแผนธุรกิจ

เรียกว่า ทุกอย่างมีทางเดินของมันอยู่แล้ว

พร้อมย้ำว่า ในส่วนของกระทรวงการคลังนั้น พร้อมที่จะสนับสนุนการบินไทยอย่างเต็มที่แน่นอน