
สรวงศ์ รมว.การท่องเที่ยวฯ เผย ครม.เห็นชอบปรับมาตรการส่งเสริมกองถ่ายหนังต่างประเทศ เพิ่มเงินคืนเป็น 15-30% พร้อมไม่จำกัดวงเงินคืน รองรับแนวโน้มผู้สร้างรายใหญ่เข้ามาถ่ายหนัง
นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบทบทวนมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย โดยการปรับเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขมาตรการส่งเสริม 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 ปรับอัตราการคืนเงิน (Cash Rebate) จากเดิม 15-20% เป็น 15-30% โดยสิทธิประโยชน์หลักอยู่ที่ 15% เมื่อมีการลงทุนในประเทศไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ส่วนสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมรวมแล้วไม่เกิน 15%
หลังจากนี้ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะดำเนินการปรับปรุง ประกาศกรมการท่องเที่ยวในส่วนของเงื่อนไขการรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมดังกล่าว จะส่งผลต่อการฟื้นฟูกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย กระจายรายได้สู่เมืองรอง การเพิ่มการจ้างงานคนไทย การเพิ่มมูลค่า ค่าใช้จ่ายในประเทศ ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและประชาชนโดยตรง ส่งเสริม soft power ของไทยไปยังต่างประเทศ
ส่วนที่ 2 ยกเว้นการจำกัดวงเงินคืนต่อเรื่อง เพื่อเป็นการรองรับกับแนวโน้มที่คณะถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ ที่เข้ามาในไทยเป็นผู้สร้างรายใหญ่ เงินทุนสูง เพิ่มความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ต่างประเทศ
“สำหรับงบประมาณในส่วนที่เพิ่มขึ้น อาจของบฯกลางจากปัจจุบันใช้เงินของกรมการท่องเที่ยว ส่วนการดำเนินการในเรื่องนี้จะเร่งดำเนินการให้ทัน 1 ม.ค. 2568 นี้เป็นต้นไป”
นายสรวงศ์ กล่าวว่า สำหรับความจำเป็นที่ต้องมีการทบทวนมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ เนื่องจากปัจจุบันประเทศต่าง ๆ เห็นประโยชน์จากธุรกิจถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ จึงได้ออกมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำในรูปแบบการคืนเงิน (Cash Rebate) หรือคืนภาษี (Tax Rebate/Tax Credit) เพื่อดึงดูดผู้สร้างภาพยนตร์ให้เข้าไปถ่ายทำในประเทศตนอย่างต่อเนื่อง ไทยจึงจำเป็นต้องปรับเกณฑ์และเงื่อนไขให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ และการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงไป
สำหรับรายได้จากการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย ปี 2567 มีจำนวน 9 เรื่อง วงเงินลงทุน 2,241 ล้านบาท ปี 2566 ถ่ายทำ 14 เรื่อง วงเงิน 3,813 ล้านบาท และปี 2565 จำนวน 12 เรื่อง เงินลงทุน 2,499 ล้านบาท
ขณะที่ 7 ปีย้อนหลัง ตั้งแต่ปี 2560-2567 มีภาพยนตร์ต่างประเทศเข้าร่วมการส่งเสริมการถ่ายทำในไทย จำนวน 72 เรื่องวงเงินลงทุน 16,102 ล้านบาท พิจารณาคืนเงินแล้ว 52 เรื่อง ลงทุน 9,669 ล้านบาท คืนเงิน 1,534 ล้านบาท ส่วนปี 2566-67 มีจำนวน 20 เรื่อง เงินลงทุน 6,433 ล้านบาท คืนเงิน 1,310 ล้านบาท