
จากรายงานของบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) คาดการณ์ว่าในปี 2568 อุตสาหกรรมการบินในประเทศจะฟื้นตัวอย่างชัดเจน ซึ่งคาดว่าจะมีเที่ยวบินทั่วประเทศเพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่ให้บริการเที่ยวบินรวม 981,270 เที่ยวบิน เป็น 1 ล้านเที่ยวบิน ใกล้เคียงกับปี 2562 ที่ประมาณ 1.04 ล้าน เที่ยวบิน
โดยกระทรวงคมนาคมมีแผนพัฒนาท่าอากาศยานและระบบเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อรองรับการเติบโตให้สอดคล้องกับภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งได้มอบหมายให้บริษัทวิทยุการบินฯ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชน ภายใต้แนวคิด I-SMART ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม
พร้อมทั้งประยุกต์ใช้ระบบเทคโนโลยีมาบริหารจัดการ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวให้มีความรวดเร็ว ปลอดภัย และรองรับปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น และไม่เกิดเที่ยวบินล่าช้า ลดความแออัดของเที่ยวบิน รวมถึงอำนวยความสะดวกด้านข้อมูลสภาพการจราจรทางอากาศและข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้สายการบินอย่างรวดเร็วและทั่วถึง
สำหรับในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่นี้ “มนพร เจริญศรี” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า จะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยคาดว่าจะมีปริมาณเที่ยวบินให้บริการในช่วงระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567-2 มกราคม 2568 รวม 7 วัน รวม 18,280 เที่ยวบิน เฉลี่ย 2,611 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
“ณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. บอกว่า วิทยุการบินฯ ได้เตรียมมาตรการรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ตามนโยบายของรัฐบาล โดยได้ดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานทางวิ่ง (High Intensity Runway Operation) หรือ HIROs ซึ่งจะจัดระยะห่างของอากาศยานขาเข้าและขาออกให้กระชับตามกฎเกณฑ์มาตรฐานและสัมพันธ์กับค่าการใช้เวลาบนทางวิ่งของอากาศยาน (Runway Occupancy Time)
ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถรองรับปริมาณเที่ยวบินได้มากที่สุด สามารถใช้ทางวิ่งร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเพิ่มข้อกำหนดทางขับ (Preferred-Exit Taxiway) ที่เหมาะสมให้อากาศยานใช้ในการออกจากทางวิ่ง เพื่อใช้เวลาบนทางวิ่งน้อยที่สุด เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจราจรทางอากาศ
ยกตัวอย่างเช่น ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิหลังดำเนินโครงการ HIROs ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบินได้ถึง 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง จากเดิมรองรับได้ 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง หรือท่าอากาศยานดอนเมืองสามารถเพิ่มได้ถึง 57-60 เที่ยวบินต่อชั่วโมง จากเดิม 52 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เป็นต้น
ขณะที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ให้ข้อมูลว่า ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนวางแผนล่วงหน้าเพื่อเดินทางในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2568 ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากราคาค่าโดยสารอาจมีการปรับตัวสูงขึ้นตามปริมาณความต้องการเดินทางที่มากขึ้น จนกลับมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 แต่จำนวนเครื่องบินที่ให้บริการยังคงมีน้อยกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ถึง 25%
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ส่งผลให้ราคาค่าโดยสารปรับตัวสูงขึ้นตามกลไกการตลาด และทำให้ตั๋วเครื่องบินราคาไม่สูงจำหน่ายหมดเร็วกว่าปกติ ซึ่งปัญหาดังกล่าว CAAT ได้เร่งรัดประสานผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อให้สายการบินต่าง ๆ สามารถเพิ่มจำนวนเครื่องบินได้มากขึ้น เช่น การเร่งรัดกระบวนการอนุมัติ อนุญาตต่าง ๆ เพื่อให้มีผู้ประกอบการและอากาศยานในระบบเพิ่มมากขึ้น เป็นต้น
โดยกระทรวงคมนาคมและ CAAT ได้เพิ่มมาตรการแก้ปัญหาราคาตั๋วแพงในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 โดยการประสานกับสายการบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มเที่ยวบินระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม 2567-5 มกราคม 2568 จำนวนรวม 73,388 ที่นั่ง ใน 16 เส้นทางบินทั่วประเทศ และนำตั๋วจากเที่ยวบินพิเศษมาลดราคาสูงสุด 30% จำนวนมากถึง 50,000 ที่นั่ง ซึ่งเปิดให้สำรองที่นั่งไปแล้ว
พร้อมย้ำว่า ในช่วงเทศกาลที่มีความต้องการในการเดินทางสูงนั้น ผู้โดยสารควรวางแผนเดินทางท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนาด้วยการจองตั๋วโดยสารล่วงหน้า เพื่อให้ได้ราคาที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด เพราะหากจองในช่วงใกล้วันเดินทาง ค่าโดยสารอาจปรับตัวสูงขึ้นตามกลไกตลาดได้