“กอบกาญจน์” ปิ๊งไอเดียญี่ปุ่น เล็งชงครม.ประเดิม 35 พื้นที่ประดับไฟ ทำ “ไนท์ทัวร์ริสซึ่ม”

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงเตรียมนำร่องดึง 35 ชุมชนมาพัฒนา เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงเวลาค่ำคืน หรือไนท์ทัวร์ริสซึ่ม หนึ่งในแผนใหญ่แนวทางส่งเสริมโครงการปีแห่งการท่องเที่ยวไทย 2561 ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในเดือนสิงหาคมนี้ โดยแผนนี้จะชูไฮไลต์ประดับประดาแสงไฟสวยงามในแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงดึงพื้นที่ชุมชนโดยรอบสถานที่ประดับไฟ ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น จัดพื้นที่ตลาดนัดชุมชนยามค่ำ เส้นทางปั่นจักรยานในยามค่ำคืน เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวเข้าชุมชนเพิ่มขึ้น รวมถึงยังช่วยขยายเวลาการท่องเที่ยวจากเพียงช่วงกลางวันเป็นช่วงกลางคืนได้ ตั้งเป้าเพิ่มวันพำนักของนักท่องเที่ยวเฉลี่ยจากปัจจุบัน 9 วันเป็น 10 วัน

“สาเหตุที่มีแนวคิดเรื่องประดับไฟ เพราะปัจจุบันแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทยส่วนใหญ่จะท่องเที่ยวได้ในช่วงเวลากลางวัน แต่จากรูปแบบการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นมีหลายๆ เมืองที่ประดับไฟสวยงาม มีคนไปท่องเที่ยวถ่ายรูปตอนกลางคืนได้ด้วยจึงมองว่าตรงนี้น่าสนใจ ที่จะเอามาพัฒนาส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยว โดย 35 จุดแรก จะเน้นชุมชนในกรุงเทพไปจนถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เช่น วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร นอกจากประดับไฟแล้ว ชุมชนโดยรอบจะสนับสนุนให้มีการปั่นจักรยาน เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับพื้นที่ชุมชน เป็นต้น”

นางกอบกาญจน์ กล่าวและว่า ซึ่งล่าสุด ผู้บริหารเมืองนางาซากิยังได้มาจัดงานโปรโมทในเมืองไทยด้วย ภายใต้ชื่อ “เจแปน ไนท์ วิว ทัวร์ริสซึ่ม เฟสติวัล 2017 อินแบงค็อก” ตั้งเป้ามีคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นชมวิวของเมืองในยามค่ำคืนถึง 1 ล้านคนในปีนี้

นางกอบกาญจน์กล่าวว่า นอกจากมีแนวคิดประดับไฟในวัดวาอารามแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์ และอุทยานประวัติศาสตร์บางแห่งที่จะเปิดไฟสวยงามในตอนกลางคืนด้วย ก่อนจะขยายไปอีก 99 ชุมชนต้นแบบที่ทำร่วมกับองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. สำหรับค่าใช้จ่ายเรื่องค่าไฟ กรมการท่องเที่ยวจะช่วยจ่ายราว 5 หมื่นบาทต่อเดือน


ที่มา : มติชนออนไลน์