
“ชัย อรุณานนท์ชัย” ขาใหญ่ท่องเที่ยวสมุทรปราการ คว้าตำแหน่งประธานสภาท่องเที่ยวคนใหม่ ประกาศเดินหน้า 3 นโยบายหลัก กระจายอำนาจให้สมาชิกมีบทบาทอย่างทั่วถึง บริหารงาน โปร่งใส เป็นธรรม พร้อมยกระดับ สทท.ให้เป็นที่ยอมรับในทุกองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) หรือสภาท่องเที่ยว ชุดใหม่ พร้อมเลือกประธานคนใหม่เมื่อวานนี้ (14 มกราคม 2568) พบว่านายแพทย์สมชัย เจียรนัยศิลป์ ประกาศถอนตัวจากการเสนอตัวเป็นประธานสภาท่องเที่ยวตั้งแต่โค้งแรก ทำให้เหลือ 3 คนคือ นายชัย อรุณานนท์ชัย นางวิรินทร์ตรา ปภากิจยศพัฒน์ และนายธเนศ วรศรัณย์
บรรยากาศการเลือกตั้งดุเดือดตั้งแต่เริ่มต้น โดยบางกลุ่มอยากให้ใช้วิธีการเลือกแบบเบ่งตามเขตและสาขาอาชีพ (ตามระเบียบ ข้อบังคับ) บางส่วนเสนอให้เลือกแบบยกทีมแบบเปิดเผย สุดท้ายประธานการเลือกตั้งขอพิจารณาให้เลือกตามระเบียบ ข้อบังคับ จึงเกิดเสียงบางส่วนตัดค้านไม่เห็นด้วย กระทั่งประธานเลือกตั้งประกาศขอถอนตัว
สุดท้ายเมื่อตกลงกันได้การดำเนินการเลือกตั้งก็ดำเนินต่อไป แต่ละฝ่ายและทีมต่างปรับกลยุทธ์กันแบบนาทีต่อนาที โดยเลือกกลุ่มสาขาอาชีพ 13 คนก่อน จากนั้นจึงเลือกกลุ่มเขตพื้นที่อีก 13 คน เมื่อได้กรรมการ 26 คนแล้วจึงเสนอชื่อกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีก 8 คน รวมเป็น 34 คนตามข้อบังคับแล้วจึงเลือกประธาน
โดยผลคือ นายชัย อรุณานนท์ชัย ขาใหญ่ท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรปราการ และรองประธานสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (TFOPTA) ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาอุตสาหากรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) คนใหม่ มีวาระการบริหารงานประจำปี 2568-2570
นายชัย อรุณานนท์ชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) คนใหม่ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า วางนโยบายขับเคลื่อน สทท.ไว้ 3 เรื่องใหญ่ ๆ ประกอบด้วย 1. กระจายอำนาจหน้าที่การทำงานให้สมาชิกมีบทบาทอย่างทั่วถึง 2. มุ่งมั่นบริหารงาน สทท.อย่างโปร่งใส เป็นธรรม เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม และ 3. ยกระดับบทบาทของ สทท.ให้เป็นที่ยอมรับในทุกองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน
พร้อมทั้งบูรณาการความร่วมมือองค์กรด้านการท่องเที่ยวทุกหน่วยงาน และผลักดันงบประมาณ นำเสนอโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวในทุกมิติให้กระจายไปสู่ภูมิภาค และเชื่อมโยงสมาชิกทุกพื้นที่และสาขาอาชีพ โดยมุ่งมั่นการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสู้ความยั่งยืน
นอกจากนี้ จะเร่งแก้ปัญหาต่าง ๆ ในภาคการท่องเที่ยว เพื่อให้โอกาสนำเสนอแผนและนโยบายเข้า กรอ.จังหวัด รวมถึงนำเทคโนโลยีใหม่มาพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อเป็นเครื่องมือทำการนำเสนอสินค้าและบริการใหม่ ๆ และการตลาดในรูปแบบใหม่ที่สอดรับกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว
“งานแรกของผมคือจะพยายามรวมคนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้เป็นหนึ่งเดียว ด้วยการดึง 7-8 สมาคมหลัก ๆ ที่แยกตัวออกไปก่อนหน้านี้กลับมาอยู่ภายใต้สภาท่องเที่ยวอีกครั้ง เพื่อให้การขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวร่วมกับภาครัฐเดินไปในทิศทางเดียวกัน และพร้อมทำงานเพื่อดูแลใส่ใจ สนับสนุนกิจการของสมาชิกทุกรายให้เกิดการพัฒนาไปพร้อม ๆ กัน โดยถือเอาประโยชน์สูงสุดของสมาชิกเป็นสำคัญ” นายชัยกล่าว