ไมเนอร์ เดินหน้าแผน 5 ปี ขยายโรงแรมครบ 1,000 แห่ง

ไมเนอร์ เดินหน้าขยายตามแผน 5 ปี 1,000 โรงแรม มั่นใจการเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลกระยะยาวยังแกร่ง มองซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 กระแสแรง ดันราคาที่พักเพิ่มขึ้นถึง 40%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายดิลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT) เปิดเผยว่าแผนธุรกิจ 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2568-2570 จะขยายโรงแรมเพิ่มอีก 280 แห่ง และร้านอาหารมากกว่า 1,500 แห่ง ภายใต้เงินลงทุนปีละ 11,000-12,000 ล้านบาทต่อปี โดยงบลงทุนหลัก ๆ จะใช้ไปกับการปรับปรุงโรงแรมเป็นหลัก และเพื่อตอบโจทย์เป้าหมายระยะ 5 ปี ภายในปี 2572 จะขยายโรงแรมให้ครบ 1,000 แห่ง จากปัจจุบันอยู่ที่ 562 แห่ง

โดย 80% เป็นการดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ภายใต้โมเดลธุรกิจที่ลดการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร (Asset-light Model) หรือเป็นการเข้ารับบริหารโรงแรมให้กับเจ้าของโรงแรมเป็นหลัก โดยเฉพาะการขยายไปในประเทศเป้าหมายคือ อเมริกา แมกซิโก แอฟริกา เติร์ก โปรตุเกส ตะวันออกกลาง

อย่างซาอุดิอาระเบีย บาร์เรน การ์ต้า โอมาน อินเดียตลอดจนญี่ปุ่น และสิงคโปร์ รวมถึงเป้าหมายในการขยายธุรกิจร้านอาหารให้ได้มากกว่า 4,500 แห่งทั่วโลก ภายในปี 2572 จากปัจจุบันมีทั้งหมด 2,699 แห่ง

นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมาย 3 ปี ทั้งอัตราการเติบโตของรายได้ต่อปีเฉลี่ย ปีละ 9%,การเติบโตของกำไรสุทธิจากการดำเนินงานที่ปีละ 15-20% โดยปีที่แล้วทำได้ 18%, อัตราผลตอบแทนต่อเงินลงทุนมากกว่า 12% ซึ่งปีที่ผ่านมาทำได้ 10.5%

สำหรับในปี 2568 จะเป็นอีกหนึ่งปีที่แข็งแกร่งของบริษัท โดยใช้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากการเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากซีรีส์เรื่อง The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งขณะนี้เพิ่งเริ่มออกอากาศในอเมริกา ทาง HBO และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง “Max”

แต่ค่าเฉลี่ยอัตราค่าห้องพัก หรือ ADR เพิ่มขึ้นไปแล้ว 40% ใน 4 โรงแรมที่เป็นสถานที่ถ่ายทำ ประกอบด้วยโรงแรมโฟร์ซีซั่น รีสอร์ท เกาะสมุย, อนันตรา ไม้ขาว ภูเก็ต วิลล่า รวมถึงโรงแรมโฟร์ซีซั่น Maui at Wailea, Hawaii และ โรงแรมโฟร์ซีซั่น Taormina อิตาลี ทั้งนี้หลังจากซีรีส์ดังกล่าวมีการออกอากาศทั่วโลก คาดว่า ADR จะพุ่งขึ้นได้อีก

“ในปีนี้ความต้องการเดินทางทั่วโลกที่ยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ตั้งแต่ปี 2567-2575 ตลาดท่องเที่ยวยุโรปคาดว่าจะเติบโต 4% ไทยเติบโต 8% และตะวันออกกลางเติบโต 8% อย่างไรก็ดีแม้ว่าปัจจุบันเศรษฐกิจโลกจะมีความท้าทายจากนโยบายทรัมป์ และค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ยังช่วยให้นักท่องเที่ยวชาวอเมริกาออกเดินทางในต่างประเทศเป็นผลเชิงบวกต่อธุรกิจท่องเที่ยวและร้านอาหารของเราอย่างแน่นอน”