ททท.ยกระดับรุกตลาดอินเดีย นำผู้ประกอบการร่วมงาน SATTE 2025

นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม

ททท.ยกระดับรุกตลาดอินเดีย หวังดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพ นำผู้ประกอบการ 50 ราย ร่วมงาน South Asia Travel and Tourism Exchange (SATTE) 2025

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมงาน South Asia Travel and Tourism Exchange (SATTE) 2025 งานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในสาธารณรัฐอินเดียและภูมิภาคเอเชียใต้

นำผู้ประกอบการไทย 50 ราย เข้าร่วมเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐอินเดียและทั่วโลก ระหว่างวันที่ 19-21 กุมภาพันธ์ 2568 ณ Yashobhoomi India International Convention & Expo Centre กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย มุ่งส่งเสริมและกระตุ้นการเดินทาง เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ ดันตลาดนักท่องเที่ยวอินเดียสร้างรายได้กว่า 1 แสนล้านบาทในปี 2568

นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจํากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า เนื่องในโอกาสต้อนรับปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 รัฐบาลยังคงสานต่อนโยบาย Ease of Traveling เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างประสบการณ์ที่ดีทุกย่างก้าวแก่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะตลาดอินเดียซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

ซึ่งได้รับแรงเสริมจากมาตรการยกเว้นการตรวจลงตราให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาอินเดียเดินทางเข้าประเทศไทย เพื่อการท่องเที่ยวและติดต่อธุรกิจระยะสั้น ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นมา

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสนับสนุนอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มการตัดสินใจในการเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายสำหรับนักท่องเที่ยวอินเดีย ได้แก่ นโยบายส่งเสริมให้พลเมือง ออกเดินทางของรัฐบาลอินเดีย และความตื่นตัวของสายการบินหลังจากมีการเพิ่มเพดานความจุโดยสารเที่ยวบินระหว่างไทย-อินเดียในเดือนมีนาคม 2567 ทำให้จำนวนที่นั่งโดยสารเครื่องบินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากในปี 2567

ADVERTISMENT

ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 2.9 ล้านที่นั่ง คาดว่าจะเพิ่มสู่ 3.5 ล้านที่นั่งในปี 2568 นอกจากนี้ ยังมุ่งส่งเสริมตลาดร่วมกับพันธมิตรบริษัทนำเที่ยวและสายการบินตลอดปี 2568 เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวอันทรงคุณค่าและน่าประทับใจในปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวว่า ตลาดอินเดียถือเป็นหนึ่งในตลาดดาวรุ่งของตลาดระยะใกล้ (Short-haul Market) นับเป็นตลาดที่มีแนวโน้มในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 มีนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยกว่า 2 ล้านคน ซึ่งถือเป็นจำนวนสูงที่สุดในประวัติการณ์ ในปี 2568

ADVERTISMENT

ททท. จึงวางทิศทางส่งเสริมการตลาดโดยมุ่งเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพในตลาดอินเดีย ได้แก่ กลุ่ม Family, Incentive, Wedding & Celebrations, Lady Travelers, Active Senior, Millennials, Luxury Leisure และ Golf ควบคู่กับการทำการตลาด นักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ที่มีศักยภาพ (New Segment) ได้แก่ Women Travelers, Senior Citizen, Celebrations, Self-drive, Rejuvenating และ Adventure ผ่านการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวของสาธารณรัฐอินเดีย

ทั้งนี้ เพื่อเป็นเวทีเจรจุรกิจที่สามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการไทยในการนำเสนอแพ็กเกจท่องเที่ยวที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย กระตุ้นให้เกิดการเดินทางครั้งแรกของนักท่องเที่ยวอินเดีย (First Visitor) เพื่อกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวพร้อมทั้งผลักดันนักท่องเที่ยวอินเดียสู่เป้าหมาย 2,300,000 คน และสร้างรายได้กว่า 1 แสนล้านบาทในปี 2568

นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม

งาน South Asia Travel and Tourism Exchange (SATTE) 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-21 กุมภาพันธ์ 2568 ณ India International Convention & Expo Centre กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย โดยในปีนี้มีคูหาจัดแสดงกว่า 1,200 คูหาจากทั่วโลก จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 32 และนับเป็นครั้งที่ 16 ที่ ททท. ได้เข้าร่วมงาน

โดยในปีนี้ ททท. นำทีมผู้ประกอบการไทยจำนวน 50 ราย ประกอบด้วย ผู้ประกอบการโรงแรมที่พัก 26 ราย ผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยว Destination Management Company (DMC) 14 ราย ผู้ประกอบการธุรกิจสวนสนุกและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ 8 ราย และผู้ประกอบการบริษัทเรือเฟอรี่/เรือนำเที่ยว 2 ราย เพื่อเข้าร่วมเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการตลาดอินเดีย พร้อมนำเสนอสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยคาดว่าจะเกิดจำนวนการนัดหมายเจรจาธุรกิจภายในงานกว่า 5,000 นัดหมาย

สำหรับคูหาประเทศไทยขนาด 300 ตารางเมตร ททท. ได้นำเสนอแบรนด์ Amazing Thailand ชูเสน่ห์ไทย 5 Must Do in Thailand สร้างสรรค์ด้วยแนวคิด “Sustainable and Luxury” ที่มุ่งนำเสนอเอกลักษณ์ความเป็นไทยที่ทันสมัย มีคุณค่า ควบคู่กับการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยการออกแบบและตกแต่งจากวัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่นที่แสดงถึงภูมิปัญญาของคนไทย รวมถึงภาพแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวอินเดีย ผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารสินค้าทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย

ภายในคูหาจัดกิจกรรม ประกอบด้วย การเจรจาธุรกิจทางการท่องเที่ยวระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจทางการท่องเที่ยวไทยกับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวต่างประเทศ พื้นที่ให้ข้อมูลข่าวสารสินค้าทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย และกิจกรรมสาธิตศิลปวัฒนธรรมไทย ได้แก่ กิจกรรมการเพนต์ร่มบ่อสร้าง เขียนลวดลายลงบนร่มแบบล้านนา ถือเป็นภูมิปัญญาด้านศิลปะและวัฒนธรรมของชาวไทยภาคเหนือ เพื่อเผยแพร่แก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไปในสาธารณรัฐอินเดียที่เข้าร่วมงาน

นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม

ตลาดอินเดียถือเป็นหนึ่งในตลาดเป้าหมายหลัก โดยในปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางเข้าประเทศไทยทั้งสิ้น 2,129,149 คน อยู่ใน TOP 5 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทยมากที่สุด โดย ร้อยละ 77 เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตนเอง หรือ FIT และรูปแบบทัวร์ ร้อยละ 23 รวมทั้งเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยครั้งแรกถึงร้อยละ 68 โดยมีจำนวนวันพักเฉลี่ย 6.58 คืน และมีค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวต่อทริปโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 34,920 บาทต่อคนต่อทริป

นิยมเดินทางท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ชื่นชอบการทำกิจกรรมชายหาด รับประทานอาหารไทย ชมแสงสียามค่ำคืน แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี กระบี่ ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี โดยในปี 2568 ตัวเลขนักท่องเที่ยวอินเดีย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-18 กุมภาพันธ์ 2568 มีนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 290,092 คน

นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม