
อนันตรา โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท เปิดตัว ”Anantara Jewel Bagh Jaipur“ โรงแรมหรูแห่งแรกในอินเดีย ผสมผสานระหว่างการออกแบบราชวงศ์-ความหรูหราร่วมสมัย ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ของสวนและสถาปัตยกรรมอันงดงาม
อนันตรา โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท แบรนด์โรงแรมระดับลักเซอรี่ ภายใต้ ไมเนอร์ โฮเทลส์ (Minor Hotels) เปิดตัว อนันตรา จิวเวลบาห์ จัยปูร์ (Anantara Jewel Bagh Jaipur) โรงแรมอนันตราแห่งแรกในอินเดียที่นับเป็นประตูสู่แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของนครสีชมพูอันเงียบสงบ ตัวโรงแรมซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์เขียวขจีและสถาปัตยกรรมอันงดงาม
ผสมผสานการออกแบบสไตล์ราชวงศ์และวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของท้องถิ่น สะท้อนให้เห็นถึงยุคอดีตของราชวงศ์โบราณแห่งอินเดียซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะนักรบผู้ทรงเกียรติและผู้อุปถัมภ์ศิลปะที่เคยปกครองราชสถาน (Rajasthan)
อนันตรา จิวเวล บาห์ จัยปูร์ โดดเด่นด้วยการตกแต่งอันวิจิตรตระการตา เปรียบเสมือน ‘สวนแห่งอัญมณี’ สมดังชื่อที่ได้รับการขนานไว้ ซึ่งสถาปนิกได้รังสรรค์งานออกแบบเพื่อบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของสถานที่แห่งนี้
โดยได้แรงบันดาลใจจากพระราชวังโบราณของราชสถาน ผสานมรดกแห่งราชวงศ์เข้ากับความหรูหราร่วมสมัยอันเป็นเอกลักษณ์ของอนันตรา มีซุ้มประตูโค้งสวยงามช่วยเสริมความโดดเด่นให้กับด้านหน้าอาคาร เคียงคู่กับหน้าต่างทรงโค้งแบบโบราณที่เรียกว่า จาโรคา (Jharokhas)
ซึ่งไม่เพียงเพิ่มความงามและเสน่ห์แบบคลาสสิกให้กับตัวอาคาร แต่ยังเปิดรับแสงธรรมชาติและทัศนียภาพอันงดงามโดยรอบ ส่วนชายคา หรือฉัจชา (Chhajaas) นอกจากจะเพิ่มความประณีตในการตกแต่งแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นร่มเงาได้อย่างลงตัว
ห้องพักและห้องสวีตจำนวน 150 ห้อง มองเห็นทิวทัศน์ของสวนภายในโรงแรมหรือวิวเมือง ให้แขกผู้เข้าพักได้ดื่มด่ำกับยุคอดีตอันรุ่งเรืองผ่านงานหัตถศิลป์อันประณีต อาทิงานแก้วติกรี (tikri) อันละเอียดอ่อน งานแกะสลักไม้ด้วยมือ และการตกแต่งด้วยทองคำเปลว นอกจากนี้ ห้องพักระดับพรีเมี่ยมและเดอลุกซ์ ยังตกแต่งด้วยผ้าทอหรูในโทนสีกลางช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้ดูนุ่มนวล และห้องเดอลุกซ์ แฟมิลี่ ได้รับการออกแบบให้รองรับแขกทุกช่วงวัย
ด้วยการผสานความสะดวกสบายแบบร่วมสมัยเข้ากับความหรูหราตามแบบฉบับดั้งเดิม นักเดินทางที่เลือกพักในห้องจิวเวล บาห์ สวีต แบบหนึ่งห้องนอน ขนาด 70 ตารางเมตร จะได้สัมผัสกับห้องนั่งเล่นที่แยกเป็นสัดส่วน พร้อมเตียงริมหน้าต่างแสนสบาย เหมาะสำหรับการพักอ่านหนังสือและจิบชาหลังจากการทำกิจกรรมมาตลอดทั้งวัน
นอกจากนี้ อนันตรา เทอร์เรซ สวีท แบบหนึ่งห้องนอน ขนาด 65 ตารางเมตร มาพร้อมระเบียงส่วนตัวที่โปร่งสบายเหมาะสำหรับช่วงฤดูหนาวเพื่อรับอากาศอบอุ่น และเพลิดเพลินกับมื้ออาหารท่ามกลางวิวพาโนรามาอันงดงาม อีกทั้งยังสามารถผ่อนคลายไปกับการแช่ตัวในจากุซซี่ และห้องเพรสซิเดนเชียล สวีต ขนาดสองห้องนอน ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางถึง 173 ตารางเมตร ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการสัมผัสทั้งความหรูหราภายในห้องพักและการเชื่อมต่อกับพื้นที่กลางแจ้งได้อย่างลงตัว
เชฟสุนิล จาจอเรีย (Sunil Jajoria) หัวหน้าเชฟประจำโรมแรม นำประสบการณ์กว่า 20 ปีในการพัฒนาฝีมือด้านตำรับอาหารอินเดียดั้งเดิม มารังสรรค์เมนูที่ผสมผสานรสชาติร่วมสมัยเข้ากับเทคนิคการปรุงแบบโบราณของราชสถาน
โดยความเชี่ยวชาญของเชฟถูกถ่ายทอดออกมาอย่างสุดฝีมือ ณ ห้องอาหารซิกเนเจอร์ของโรงแรมชีช มาฮาล (Sheesh Mahal) หรูหราด้วยการตกแต่งด้วยกระจกโมเสกและแก้วสีสันสดใส ที่ได้แรงบันดาลใจจากพระราชวังกระจก (Mirror Palace) อันโด่งดังของราชสถาน
ซึ่งนอกจากอาหารท้องถิ่นและอาหารนานาชาติแล้ว ห้องอาหารแห่งนี้ยังเสิร์ฟเครื่องดื่มคราฟต์รสเลิศ เช่น Jewel of Jaipur วิสกี้ซาวร์แบบทวิสต์ Pink City Punch น้ำฝรั่งผสมเลมอนกับเตกีล่า และ Royal Tesa เหล้ากัปตัน มอร์แกนผสมมาซาล่าชาและลูกพลัม
อมฤต มาฮาล (Amrit Mahal) ห้องอาหารที่เหมาะสำหรับครอบครัว เปิดให้บริการตลอดทั้งวัน สดใสด้วยสีสันในบรรยากาศเป็นกันเอง โดยมีครัวเปิดให้เพลิดเพลินกับอาหารมื้อสบาย ๆ ทั้งแบบในร่มและริมสระว่ายน้ำ พร้อมหลากหลายเมนูให้เลือกสรร ตั้งแต่บุฟเฟต์นานาชาติไปจนถึงอาหารอินเดียแบบอะลาคาร์ต
โดยในช่วงอาหารเช้าจะมีดนตรีฟลูตบรรเลงสด เพื่อเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดชื่น ห้องอาหาร ราชปุตานา จาวก์ (Rajputana Chowk) ซึ่งเป็นจุดพบปะสังสรรค์ ให้แขกผู้เข้าพักได้ผ่อนคลายไปกับกาแฟและชาที่คัดสรรมาอย่างดี หรือน้ำมะนาวสดชื่น ท่ามกลางบรรยากาศที่ชวนให้นึกถึงจาวก์ (chowks) หรือตลาดแบบดั้งเดิมของอินเดีย
สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์แบบหรูหรา ดีไซเนอร์ ไดนิ่ง บาย อนันตรา (Designer Dining by Anantara) พร้อมนำเสนอมื้อค่ำสุดพิเศษด้วยอาหาร 4 คอร์ส รังสรรค์โดยเชฟส่วนตัวพร้อมบัตเลอร์คอยให้บริการประจำใน 4 สถานที่ ซึ่งแต่ละแห่งให้บรรยากาศพิเศษแตกต่างกันไป
อนันตรา จิวเวล บาห์ จัยปูร์ เชิญแขกผู้เข้าพักมาสำรวจมรดกทางวัฒนธรรมของราชสถาน ผ่านประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์ทั้งภายในและภายนอกโรงแรม ด้วยกิจกรรมการเดินทางชมมรดกทางศิลปะและวัฒนธรรม โดยศิลปินประจำโรงแรมจะนำชมภาพจิตรกรรมฝาผนังและโมเสกที่วาดด้วยมือในห้องบอลรูม รังมาฮาล (Rang Mahal) ก่อนที่จะได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะของตนเองในช่วงเวลาส่วนตัวแสนพิเศษ
นอกจากนี้ ยังสามารถเรียนรู้และลงมือทำอาหารผ่านคลาส สไปซ์ สปูนส์ (Spice Spoons) ที่เริ่มจากการเลือกวัตถุดิบในตลาดท้องถิ่น เพื่อนำมาปรุงเป็นมื้ออาหารตามตำรับดั้งเดิม พร้อมอิ่มอร่อยกับมื้ออาหารในสไตล์แบบราชสถานอย่างแท้จริง ด้วยการนั่งบนตั่งเตี้ยและรับประทานอาหารด้วยมือตามประเพณี
สำหรับแขกที่หลงใหลการผจญภัย สามารถจองทัวร์ซาฟารีส่วนตัวพร้อมทัวร์ชมมรดกวัฒนธรรม ที่จะพาสำรวจอุทยานแห่งชาติรันธัมบอร์ (Ranthambore National Park)เพื่อชมเสือเบงกอลและสัตว์ป่านานาชนิด จากนั้นทัวร์ป้อมปราการรันธัมบอร์อันทรงคุณค่า ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก พร้อมพักผ่อนกับมื้ออาหารกลางวันท่ามกลางวิวทิวทัศน์ของผืนป่าอันกว้างใหญ่
และแขกผู้มาเยือนยังจะได้เรียนรู้ศิลปะการปั้นหม้อและการโพกผ้าโบราณจากช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญ พร้อมชมการแสดงพื้นเมืองและร่วมสนุกกับงานเลี้ยงแบบดั้งเดิมที่หมู่บ้านวัฒนธรรมโชกี ธานี (Chokhi Dhani) นอกจากนี้ ยังมีทัวร์ส่วนตัวพาชมป้อมปราการแอมเบอร์ (Amber Fort) สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านด้วยการรีดนมวัวในหมู่บ้านท้องถิ่น และใกล้ชิดกับเหล่าช้างที่หมู่บ้านช้าง
อนันตรา สปา ผสานศาสตร์การดูแลสุขภาพแบบไทยเข้ากับภูมิปัญญาท้องถิ่นได้อย่างลงตัว พร้อมให้บริการร้านซาลอนและห้องทรีตเมนต์ 5 ห้อง ที่มอบประสบการณ์การปรับสมดุลร่างกายด้วยศาสตร์อายุรเวทแบบดั้งเดิม และทรีตเมนต์ผ่อนคลายระดับพรีเมี่ยม
รวมถึงการบำบัดอันเป็นเอกลักษณ์อย่าง การเผายา ไปจนถึงสปาคลาสสิกยอดนิยม เช่น สปาคู่รักแสนโรแมนติก ทางสปายังได้จัดเตรียมบริการพิเศษไว้สำหรับเด็ก ไม่ว่าจะเป็นการสครับผิวด้วยผลไม้หอมหวาน และการนวดผ่อนคลาย
พร้อมกันนี้ยังมีคลาสโยคะทุกวันท่ามกลางบรรยากาศอันสงบร่มรื่นที่อาเมร์ บาห์ (Amer Bagh) และศูนย์ออกกำลังกายที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้แขกผู้เข้าพักสามารถรักษากิจวัตรการดูแลสุขภาพได้อย่างต่อเนื่อง
ด้วยทำเลที่ตั้งอันโอ่อ่าและเงียบสงบทำให้โรงแรมแห่งนี้เหมาะกับการเป็นสถานที่จัดงานแต่งงานและการจัดงานเลี้ยง ซึ่งแขกสามารถเลือกจัดงานในสวนสวยทั้ง 5 แห่ง โดยสวนที่ใหญ่ที่สุดได้แก่ อาเมร์ บาห์ สามารถรองรับแขกได้ถึง 1,000 ท่าน
ในขณะที่ห้องบอลรูม โคอินัวร์ มาฮาล (Kohinoor Mahal) ที่มีพื้นที่โล่งกว้างไร้เสาสามารถรองรับงานในร่มได้ถึง 300 ท่าน สำหรับงานที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในบรรยากาศอันผ่อนคลายและงดงามตระการตา สามารถเลือกจัดงานที่บาวดิ บาห์ (Bawdi Bagh) พื้นที่สวยริมสระน้ำ หรือที่มอร์ บาห์ (Mor Bagh) สนามหญ้าสีมรกตอันแสนรื่นรมย์ได้อีกด้วย