
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชี้แจงกรณีผู้โดยสารเจอกัญชาผิดกระเป๋าระหว่างเดินทางไปญี่ปุ่น ปัดข้อกล่าวหาทุกประการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีสื่อสังคมออนไลน์แชร์ภาพกัญชาในกระเป๋าเดินทางของผู้โดยสารที่เดินทางจากท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี มายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเดินทางต่อไปยังปลายทางประเทศญี่ปุ่น
ตามที่ได้มีการเผยแพร่ข่าวผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับประเด็นผู้โดยสารชาวไทยที่เดินทางจากท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานีมายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) และได้เดินทางต่อไปยังประเทศญี่ปุ่น
โดยเมื่อถึงท่าอากาศยานที่ประเทศญี่ปุ่น ผู้โดยสารพบว่ากระเป๋าใบดังกล่าวไม่ใช่ของตนเอง และเมื่อเปิดกระเป๋าแล้วพบกัญชาบรรจุอยู่ภายใน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่สนามบิน ส่งผลให้ผู้โดยสารเกิดปัญหาในการผ่านขั้นตอนการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นนั้น
จากกรณีดังกล่าว ทสภ.ได้ตรวจสอบข้อมูลและขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้
1.ผู้โดยสารดังกล่าวเดินทางภายในประเทศ มาจากท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี มายัง ทสภ. โดยเมื่อถึง ทสภ.ได้หยิบสัมภาระซึ่งมาจากเที่ยวบินดังกล่าวจากสายพานรับกระเป๋าภายในประเทศ (ซึ่งทราบภายหลังว่าไม่ใช่สัมภาระของตนเอง) จากนั้นได้เช็กอินและโหลดสัมภาระใบดังกล่าวออกเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น
2.จากการตรวจสอบสัมภาระใบดังกล่าว พบชื่อเจ้าของสัมภาระเป็นผู้โดยสารชาวต่างชาติ ซึ่งเบื้องต้นได้มาแสดงตนและติดตามสัมภาระใบดังกล่าวกับสายการบินที่เดินทางมาจากสุราษฎร์ธานีแล้ว
3.ผลการตรวจสอบตามมาตรการรักษาความปลอดภัยสัมภาระใบดังกล่าวนั้นอยู่ในสถานะ “Clear” คือไม่พบสารระเบิด สัมภาระใบดังกล่าวจึงผ่านการตรวจสอบและนำบรรทุกขึ้นอากาศยานต่อไป
4.การดำเนินการตรวจค้นสัมภาระที่บรรทุกไปกับอากาศยาน หรือสัมภาระลงทะเบียน ตามกฎหมาย และกฎ ระเบียบ และข้อกำหนดของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เพื่อป้องกันการนำอาวุธ วัตถุระเบิด หรือวัตถุที่อาจเป็นเหตุให้เกิดการก่อการร้ายต่ออากาศยาน
โดย ทสภ.ติดตั้งเครื่องตรวจวัตถุระเบิด (EDS) ในระบบการตรวจสอบกระเป๋าสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง (Hold Baggage Screening System) ที่ถูกออกแบบตามมาตรฐานของ Transportation Security Administration (TSA) ของสหรัฐอเมริกา และ European Civil Aviation Conference (ECAC) ของสหภาพยุโรป และได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย รวมทั้งผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานตรวจสอบทั้งในและนอกประเทศ
5.ทั้งนี้ ทสภ.ได้ประชาสัมพันธ์แก่ผู้เดินทางบริเวณเคาน์เตอร์เช็กอิน แนะนำให้ผู้โดยสารตรวจสอบกฎหมายของประเทศปลายทางในการนำกัญชาเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ เนื่องจากหลายประเทศยังคงกำหนดให้กัญชาเป็นสิ่งผิดกฎหมาย อาจนำไปสู่การถูกดำเนินคดีตามกฎหมายของแต่ละประเทศ
อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทสภ.ได้ให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) ภายใต้โครงการสกัดกั้นยาเสพติดผ่านท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Task Force : AITF) โดยการปฏิบัติงานจากการได้รับการข่าว
ทั้งให้การสนับสนุนข้อมูล การดำเนินการตรวจสอบร่วม ตลอดจนการเฝ้าระวังและติดตามผู้ต้องสงสัยร่วมกัน นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังประกอบด้วย กรมศุลกากร และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ที่มีบทบาทสำคัญในการให้การสนับสนุนโครงการ
ทสภ.ดำเนินการด้านการรักษาความปลอดภัยตลอดจนการตรวจสอบสัมภาระตามแนวทางที่กำหนด โดยเน้นย้ำการปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและอากาศยานเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด