
ททท.เผยสัญญาณลบตลาดจีนเริ่มนิ่ง เร่งทุกสำนักงานกระตุ้นตลาดทั้งในเมืองหลัก-เมืองรอง เตรียมโรดโชว์ 3 เมืองใหญ่ “เซี่ยเหมิน-อู่ฮั่น-เฉิงตู” ปลายมีนาคมนี้ พร้อมผนึกบริษัททัวร์-สายการบินในจีนกระตุ้นการเดินทางกลุ่มกรุ๊ปทัวร์ ตอบโจทย์ด้านวอลุ่ม ชี้ยอดจองการเดินทางล่วงหน้าเข้าไทยเริ่มกระเตื้อง มั่นใจจีนเริ่มกลับมาเที่ยวไทยคึกคักอีกครั้งในช่วงวันหยุดวันแรงงานต้นเดือน พ.ค.นี้
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ ททท.เตรียมแผนกระตุ้นและส่งเสริม (Boost up) ตลาดนักท่องเที่ยวจีน โดยทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนในการสร้างความเชื่อมั่นในรูปแบบการจัดงานโรดโชว์ทั้งในเมืองหลักและเมืองรอง รวมถึงการสนับสนุนเที่ยวบินเช่าเหมาลำและการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ตลาดนักท่องเที่ยวจีนชะลอตัวลงต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
โดยยังเชื่อมั่นว่าประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยและน่าเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวทุกประเทศ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มีการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
“การชะลอตัวของนักท่องเที่ยวจีนในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นผลจากการลดลงของเที่ยวบินเช่าเหมาลำประมาณ 20% และกระแสข่าวต่าง ๆ เช่น การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยบางประการ ซึ่งมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวชาวจีนในกลุ่มที่ไม่เคยเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยมาก่อน” นางสาวฐาปนีย์กล่าวและว่า
สำหรับผู้ที่เคยมาเยือนเมืองไทยแล้วจะรับรู้ว่าประเทศไทยยังคงเป็นประเทศที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว และมั่นใจในความปลอดภัยของการเดินทางเหมือนเดิม
สำนักงานในจีนเร่งบูสต์รอบทิศ
นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ยอมรับว่าที่ผ่านมาตลาดจีนได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องตั้งแต่หลังเทศกาลตรุษจีน ซึ่ง ททท.มอนิเตอร์และปรับแผนการทำการตลาดให้สอดรับกับสถานการณ์มาเป็นระยะ โดยล่าสุดพบว่าบรรยากาศโดยรวม (Sentiment) ของตลาดจีนเริ่มนิ่งและมีสัญญาณเชิงบวกที่ดีขึ้น และเริ่มมีนักท่องเที่ยวกรุ๊ปอินเซนทีฟ (MICE) จากธุรกิจเครื่องมือแพทย์ เครื่องสำอาง ฯลฯ เดินทางเข้ามาเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ 500-1,000 คนแล้ว

ขณะเดียวกันทั้ง 5 สำนักงานในจีนได้ขยับทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้น ทั้งทำงานร่วมกับสายการบิน บริษัทนำเที่ยว และบริษัทออนไลน์ แทรเวล เอเย่นต์ (OTA) เพื่อวางแผนกระตุ้นตลาดร่วมกัน เช่น สำนักงานกว่างโจว ทำงานร่วมกับกลุ่ม KOL (Key Opinion Leader) และอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ชาวจีน เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของประเทศและการท่องเที่ยวของไทยอย่างต่อเนื่อง
สำนักงานปักกิ่ง โฟกัสการส่งเสริมการตลาดกลุ่มแต่งงาน ฮันนีมูน คู่รัก ฯลฯ และเร็ว ๆ นี้คือในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ยังมีแผนจัดคาราวานจากเมืองคุณหมิงเข้ามาร่วมฉลองเทศกาลสงกรานต์ที่เชียงใหม่ เป็นต้น
โรดโชว์ “เซี่ยเหมิน-อู่ฮั่น-เฉิงตู”
ขณะเดียวกัน ททท.สำนักงานใหญ่ยังมอนิเตอร์กระแส ทิศทางและแนวโน้มของตลาดอย่างใกล้ชิด รวมถึงพูดคุยกับภาคเอกชนเพื่อเตรียมแผนการกระตุ้นตลาดจีนเชิงรุกร่วมกัน โดยหลัก ๆ ประกอบด้วย 3 เรื่อง ได้แก่ 1.เตรียมแผนจัดโรดโชว์ใน 3 เมืองใหญ่ของจีน ได้แก่ เมืองเซี่ยเหมินงอู่ฮั่น และเฉิงตู ในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2568 นี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวจีนเริ่มกลับมาช่วงเทศกาลสงกรานต์ในเดือนเมษายน และส่งโมเมนตัมต่อไปถึงช่วงวันหยุดยาววันแรงงานของจีนในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้
ทั้งนี้ จะเน้นประชาสัมพันธ์กิจกรรมแกรนด์ สงกรานต์ แกรนด์ พริวิเลจ ซึ่ง ททท.ได้ร่วมมือกับพันธมิตรส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวเหนือระดับ ด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษ ผ่านสิทธิพิเศษต่าง ๆ ให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดเดือนเมษายน 2568 อาทิ ส่วนลดสูงสุดถึง 80% ณ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร สวนสนุก การคมนาคม สปา ร้านสะดวกซื้อ ร้านของที่ระลึก ที่เข้าร่วมรายการ และรถเช่าในราคาพิเศษ
รวมถึงลุ้นรางวัลรับของที่ระลึกที่สะท้อนความเป็นไทยและเข้ากับบรรยากาศเทศกาลสงกรานต์ ณ เคาน์เตอร์กิจกรรมในท่าอากาศยานหลัก ประกอบด้วย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต เป็นต้น
“ในส่วนของการจัดโรด์โชว์นั้นที่ผ่านมาเราได้คุยกับทางสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือสมาคมแอตต้า เพื่อร่วมกันจัดอีกครั้งในช่วงเดือนพฤษภาคม เพื่อกระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง และดึงนักท่องเที่ยวจีนกลับมาในช่วงปิดภาคเรียนเดือนสิงหาคมและช่วงวันหยุดโกลเด้นวีก หรือวันชาติจีนในเดือนตุลาคม” นางสาวภัทรอนงค์กล่าว
ผนึกบริษัททัวร์ดึง “กรุ๊ปทัวร์”
นางสาวภัทรอนงค์กล่าวว่า นอกจากแผนจัดโรดโชว์แล้ว เรื่องที่ 2 คือ การทำงานร่วมกับบริษัทนำเที่ยวในจีน หรือคนขายด่านหน้า (Frontliner) ซึ่งเป็น กลุ่มที่มีผลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวกลุ่มกรุ๊ปทัวร์ รวมประมาณ 500 คน มาดูบรรยากาศในภาพรวมและความปลอดภัยของการท่องเที่ยวไทยทั่วประเทศ เพื่อตอบโจทย์ในด้านจำนวนนักท่องเที่ยว
และ 3.การกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีน โดยร่วมกับอาลีเพย์ อำนวยความสะดวกในด้านการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว พร้อมให้ส่วนลดต่าง ๆ หากใช้จ่ายผ่านอาลีเพย์ รวมถึงร่วมกับซีทริป (Ctrip) ทำเรื่องราคาตั๋วราคาพิเศษ เนื่องจากปัจจัยเรื่องราคาตั๋วในการเดินทางมาประเทศไทยยังค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเดสติเนชั่นของประเทศคู่แข่ง
บุ๊กกิ้งล่วงหน้า พ.ค.เริ่มขยับ
นางสาวภัทรอนงค์กล่าวต่อไปอีกว่า หากประเมินจากบรรยากาศ หรือ Sentiment โดยรวมในขณะนี้เชื่อว่าตลาดจีนเริ่มอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น ปัจจัยที่เป็นสัญญาณลบนิ่งและเริ่มมองเห็นปัจจัยบวกแล้ว โดยเฉพาะอัตราการจองการเดินทางล่วงหน้าเริ่มขยับชะัดเจน โดยเฉพาะในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2568 ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาววันแรงงานจีน และคาดว่าถ้าไม่มีปัจจัยลบที่นอกเหนือการควบคุมเกิดขึ้นอีก นักท่องเที่ยวจีนจะเริ่มทยอยกลับมาตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้เป็นต้นไป
“ภาพรวมของเดือนมีนาคมนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวจีนอาจใกล้เคียงกับเดือนกุมภาพันธ์ แต่มั่นใจอย่างมากว่าจะดีขึ้นอย่างชัดเจนในต้นเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป” นางสาวภัทรอนงค์กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ททท.ยังคงทำงานโดยมีเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนรวมสำหรับปี 2568 จำนวน 8-9 ล้านคนตามเป้าหมายเดิม เนื่องจากยังมีเวลาในการกระตุ้นสำหรับปีนี้อีกถึง 9 เดือนเต็ม