กรมท่าอากาศยานเจรจา 16 สายการบินจัดสรรตารางบินฤดูหนาว

นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน เปิดเผยถึงผลการเจรจาการจัดสรรตารางการบินของท่าอากาศยานในสังกัดกรมท่าอากาศยาน ในฤดูหนาว 2018/19 ในการประชุม IATA SLOT Conference ครั้งที่ 142 ณ เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ระหว่างวันที่ 19-20 มิถุนายน 2561

โดยกรมท่าอากาศยานได้เจรจาร่วมกับ 16 สายการบินที่มีความจำเป็นในการขอรับการจัดสรรเวลา สรุปผลได้ดังนี้

1) การจัดสรรเวลาให้แก่สายการบินใหม่ กรมท่าอากาศยานได้พิจารณาจัดสรรเวลาให้แก่สายการบินใหม่ ทำการบินมายังท่าอากาศยานกระบี่ ในฤดูหนาว 2018/19 จำนวน 3 สายการบิน คือ

• สายการบิน Norwegian Air (DY) จะเปิดเส้นทางการบินประจำ (schedule flight) 3 เส้นทาง คือ บินจากเมือง Copenhagen ประเทศเดนมาร์ค เมือง Oslo ประเทศนอร์เวย์ และ เมือง Stockholm ประเทศสวีเดน มายังท่าอากาศยานกระบี่ รวมสัปดาห์ละ 6 เที่ยวบิน

• สายการบิน Siberia Airline (S7) จะเปิดเส้นทางการบินประจำ (schedule flight) จาก เมืองNovosibirsk ประเทศรัสเซีย มายังท่าอากาศยานกระบี่ สัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน

• สายการบิน Vietjet จะเปิดเส้นทางการบินประจำ (schedule flight) จาก เมือง Ho Chi Minh City ประเทศเวียดนาม มายังท่าอากาศยานกระบี่ สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน

2) การปรับเปลี่ยนเวลาให้สายการบินเดิม กรมท่าอากาศยานได้พิจารณาปรับเปลี่ยนเวลา ให้แก่สายการบินบางส่วน เนื่องจากสายการบินมีความจำเป็น ที่จะต้องจัดโครงข่ายเส้นทางการบินเพื่อเชื่อมโยงหลายประเทศ ทำให้ต้องมีการเจรจาเวลาการบินใหม่ให้สอดคล้องกับทุกท่าอากาศยาน ซึ่งผลการเจรจามีรายละเอียดดังนี้

• ปรับเปลี่ยนเวลาเข้า-ออก ใหม่ จำนวน 7 สายการบิน

• ขอเวลาสำหรับเที่ยวบินใหม่/จุดบินใหม่ จำนวน 5 สายการบิน

3) สายการบินที่อยู่ระหว่างการพิจารณาเส้นทางการบิน จำนวน 1 สายการบิน คือ สายการบิน Thai Vietjet มีแผนที่จะทำการบินจากท่าอากาศยานเชียงใหม่และเชียงรายมายังท่าอากาศยานกระบี่ ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดหาอากาศยานเพิ่มเติม

อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวต่อถึงการประชุมในครั้งนี้ว่า ภาพรวมของการประชุมและเจรจาเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งกรมท่าอากาศยานจะได้นำแนวทางที่เป็นสากลนี้ ไปปรับใช้กับการจัดสรรเวลาให้สายการบินในท่าอากาศยานอื่นๆ ในสังกัดกรมท่าอากาศยาน รวมถึงในปีนี้กรมท่าอากาศยานได้เข้าร่วมการประชุม การสัมมนาในเวทีระดับโลกอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำประสบการณ์มาพัฒนาการให้บริการประชาชนให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลต่อไป