พลัง ‘Soft Power’ ดัน ‘สงกรานต์’ สู่เวทีโลก

Soft Power Songkran

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานภาพรวมการเดินทางท่องเที่ยวทั่วประเทศในช่วงเทศกาลสงกรานต์ (12-16 เมษายน 2568) ว่า รวม 5 วัน สร้างรายได้รวมกว่า 28,723 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 17 จากปีก่อนหน้า

ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 421,394 คน สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวรวม 6,450 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า โดยตลาดหลักที่ขยายตัวสูงสุด ได้แก่ ยุโรป เพิ่มขึ้นร้อยละ 42 รองลงมาคือ โอเชียเนีย เพิ่มขึ้น 29% เอเชียใต้ เพิ่มขึ้น 22% และอเมริกา เพิ่มขึ้น 13%

ส่วนตลาดคนไทยมีจำนวนรวมกว่า 5.27 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศสูงถึง 22,273 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26

โดยพื้นที่ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีนักท่องเที่ยวกว่า 1.17 ล้านคน เติบโตร้อยละ 28 รองลงมา ได้แก่ ภาคกลางและภาคเหนือ ซึ่งมีอัตราการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวร้อยละ 18

ขณะที่ภาคตะวันออกแม้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวไม่สูงที่สุด แต่กลับสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวได้สูงเป็นอันดับสอง รองจากกรุงเทพฯ อยู่ที่ 4,044 ล้านบาท

ส่วนภาคเหนือมีการเติบโตของรายได้สูงที่สุดถึงร้อยละ 30 คิดเป็นรายได้ 2,536 ล้านบาท สะท้อนถึงแนวโน้มการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวสู่เมืองรองและแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมมากขึ้น

ADVERTISMENT

สำหรับงาน “Maha Songkran World Water Festival 2025” ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ บริเวณท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 11-15 เมษายน 2568 นั้น “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” ผู้ว่าการ ททท.ให้ข้อมูลว่า สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้กว่า 1.1 ล้านคน คิดเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยร้อยละ 90 และชาวต่างชาติร้อยละ 10

สร้างรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจถึง 4,097.17 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้ทางตรงต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว 1,589.36 ล้านบาท และผลกระทบทางเศรษฐกิจทางอ้อม 2,507.81 ล้านบาท ถือเป็นการเติบโตกว่าร้อยละ 40 จากการจัดงานในปี 2567 ที่ผ่านมา

และกลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการยกระดับเทศกาลสงกรานต์ไทยสู่ระดับนานาชาติ โดยมีจุดแข็งจากการนำเสนอวัฒนธรรม ประเพณี และความร่วมสมัยผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ภายในงาน ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถกระตุ้นการใช้จ่ายทั้งในกรุงเทพฯ และพื้นที่โดยรอบอย่างเป็นรูปธรรม

สำหรับในส่วนของการเดินทางนั้นพบว่า ท่าอากาศยานหลัก 6 แห่งภายใต้การบริหารของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ได้แก่ สุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, เชียงใหม่, แม่ฟ้าหลวง เชียงราย, ภูเก็ต และหาดใหญ่ สงขลา ประมาณการว่าในช่วงระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2568 มีเที่ยวบินระหว่างประเทศ 267,603 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.1% และมีเที่ยวบินภายในประเทศ 213,792 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 22.7%

ในด้านผู้โดยสาร ภาพรวมประเมินว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้น 18.3% แบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 14.1% และผู้โดยสารภายในประเทศเพิ่มขึ้น 25.5%

ขณะที่ท่าอากาศยานภายใต้การบริหารของกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ที่ระบุว่า ระหว่าง 11-17 เมษายน 2568 มีผู้โดยสารภายในประเทศ 267,368 คน ผู้โดยสารเดินทางระหว่างประเทศ 14,035 คน รวมมียอดผู้โดยสารเดินทางทั้งหมด 301,403 คน เพิ่มขึ้นจากเทศกาลสงกรานต์ 2567 ร้อยละ 14.43

และมีเที่ยวบินภายในประเทศ 2,003 เที่ยวบิน เที่ยวบินระหว่างประเทศ 121 เที่ยวบิน รวมเที่ยวบินทั้งหมด 2,124 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากเทศกาลสงกรานต์ 2567 ร้อยละ 12.17

จากสถิติภาพรวมการเดินทางดังกล่าวสะท้อนถึงความต้องการเดินทางภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ขณะเดียวกันยังสะท้อนถึงพลังของ “Soft Power” ไทย ในการยกระดับสงกรานต์สู่เวทีโลกด้วย