AWC ทุ่มหมื่นล้านพลิกโฉม Lannatique อัพเชียงใหม่สู่ฮับไมซ์–ท่องเที่ยวยั่งยืนโลก

AWC ทุ่มหมื่นล้านบาทพลิกโฉมโครงการ “Lannatique” แลนด์มาร์กไลฟ์สไตล์แห่งใหม่บริเวณถนนช้างคลาน หวังขับเคลื่อนเชียงใหม่สู่จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก ล่าสุดเปิดให้บริการ “Plaii Ballroom” ห้องอิมเมอร์ซีฟบอลรูมแห่งแรกของโลก ที่โรงแรมเชียงใหม่ แมริออท โฮเทล ยกระดับสู่ศูนย์กลาง Innovative MICE รองรับทุกการจัดกิจกรรมระดับเวิลด์คลาส พร้อมเชื่อมโยงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทั่วเมืองด้วยโครงการ “Chiang Mai Tram”

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า บริษัทมุ่งมั่นเป็นส่วนหนึ่งตามนโยบายความยั่งยืนของเมืองเชียงใหม่ เพื่อสร้างคุณค่าองค์รวมในทุกมิติ และสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ สังคม และชุมชน ผ่านการลงทุนและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบโจทย์แผนการพัฒนาเมือง และขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตของคนเชียงใหม่ให้เติบโตไปด้วยกัน สู่การเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยั่งยืนแห่งความภาคภูมิใจของทั้งคนเชียงใหม่และประเทศไทยบนเวทีโลก

โดยมีแผนลงทุนเพิ่มกว่า 11,950 ล้านบาท พัฒนาโครงการ “Lannatique” ใน 3 พื้นที่สำคัญ ได้แก่ 1.Lannatique Kalare ครอบคลุมพื้นที่ศูนย์การค้ากว่า 17,500 ตารางเมตร ถ่ายทอดเสน่ห์แห่งศิลปวัฒนธรรมล้านนาและศิลปะสมัยใหม่ผ่าน 3 หมู่บ้านศิลป์ ได้แก่ Thai Craftsmanship Village หมู่บ้านศิลปะไทยและหัตถกรรมทรงคุณค่า Cultural Village หมู่บ้านวัฒนธรรมหลากหลายของชาติพันธุ์ และ Creative Art Village หมู่บ้านสร้างสรรค์ศิลปะแบบใหม่

และพื้นที่ Experiential Shop ซึ่งเป็นครั้งแรกกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์จากไทยที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ในการเรียนรู้ ผ่านกิจกรรมที่กระตุ้นทุกประสาทสัมผัส เพื่อให้ผู้มาเยือนได้เข้าถึงเรื่องราว แนวคิด และคุณค่าที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังแต่ละผลิตภัณฑ์อย่างลึกซึ้ง โดยจะเปิดให้บริการเฟสแรกในปี 2568 พร้อมปูรากฐานสู่การพัฒนาโรงแรมระดับโลกขนาด 55,000 ตารางเมตร ที่จะผสานกับ Attraction ระดับโลกขนาดใหญ่เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

2.Lannatique Bazaar ครอบคลุมพื้นที่ศูนย์การค้ากว่า 22,500 ตารางเมตร ภายใต้แนวคิด Contemporary Art กับพื้นที่ศิลปะร่วมสมัย รวมถึงโครงการโรงแรมที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 25,000 ตารางเมตร และ 3.Lannatique Market ครอบคลุมพื้นที่ศูนย์การค้ากว่า 87,000 ตารางเมตร ที่อยู่ระหว่างการศึกษาภายใต้คอนเซ็ปต์ในการสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากชุมชนเพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างยั่งยืน

“เราเดินหน้าตามนโยบายของจังหวัดเชียงใหม่และ ททท. โดยร่วมสร้างการท่องเที่ยวยั่งยืนของเมืองเชียงใหม่ ด้วยรูปแบบ Innovative and Sustainable Tourism และ โมเดล AWC’s Lifestyle Destination ที่โครงการ Lannatique เชื่อมต่อ Innovative MICE Facility ของโรงแรมในกลุ่ม AWC คือโรงแรมเชียงใหม่ แมริออท โฮเทล ด้วยการเปิดห้องอิมเมอร์ซีฟบอลรูมแห่งแรกของโลก Plaii Ballroom ต่อเนื่องห้องประชุมรูปแบบหลากหลาย” นางวัลลภากล่าว

รวมถึงอาคารประชุมขนาดใหญ่ของโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง โฮเทล และ Lifestyle MICE ของโรงแรมมีเลีย เชียงใหม่ ที่พร้อมรองรับทุกการจัดกิจกรรมระดับเวิลด์คลาส ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความแข็งแกร่งของเชียงใหม่ในฐานะจุดหมายปลายทางการประชุมสัมมนาระดับโลก

ต่อเนื่องถึงโครงการ “Chiang Mai Tram by Lannatique” รถแทรมไฟฟ้าล้อยางนำเที่ยวแห่งแรกของประเทศที่ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด Innovative and Sustainable Tourism เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม และชุมชนท้องถิ่น รวมถึงร้านอาหาร คาเฟ่ ชื่อดัง รวมกว่า 40 แห่งตลอดสาย อาทิ ประตูท่าแพ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ตลาดวโรรส คลองแม่ข่า โครงการ Lannatique พันธุ์ทิพย์ และโรงแรมในเครือ AWC เป็นต้น

“การลงทุนดังกล่าวถือเป็นการพลิกโฉมย่านพื้นที่ประมาณ 21 ไร่ บริเวณถนนช้างคลาน จ.เชียงใหม่ สู่ศูนย์กลางศิลปวัฒนธรรมระดับโลกภายใต้ชื่อโครงการ Lannatique ซึ่งจะเป็นแลนด์มาร์กศิลปวัฒนธรรมแห่งใหม่ที่ผสานอัตลักษณ์ล้านนาและเครือข่ายนานาชาติเข้ากับศิลปะร่วมสมัย ภายใต้แนวคิด The Heart of Lanna Art Movement ร่วมส่งเสริมคุณค่าท้องถิ่นไทยสู่เวทีโลก” นางวัลลภากล่าว

นางวัลลภากล่าวด้วยว่า เพื่อผลักดันให้เชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยั่งยืนเชิงสร้างสรรค์และการอนุรักษ์ระดับโลกตามเป้าหมาย บริษัทจึงเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้กับโครงการ Lannatique ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรระดับแนวหน้าของไทยที่มีความเชี่ยวชาญในด้านศิลปะ การแสดง และอาหาร เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างครบวงจร

โดยเปิดพื้นที่ให้ศิลปิน ผู้ประกอบการ และชุมชนท้องถิ่นที่มีวิสัยทัศน์เข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนและสร้างสรรค์ประสบการณ์พิเศษ เริ่มด้วยพันธมิตรชั้นนำที่จะส่งต่อคุณค่าของไทยสู่นักเดินทางจากทั่วโลก อาทิ 6ixcret Show โดยกันตภณ เนียมมณี นักออกแบบการแสดง เจ้าของผลงานสร้างสรรค์ในเชียงใหม่ และระดับประเทศ เข้าร่วมพัฒนาภายในโครงการ Lannatique Kalare เพื่อเปิดโรงละครภายใต้แบรนด์ STARGANZA LIVE นำเสนอการแสดง Cabaret Show ร่วมสมัยที่หลอมรวมศิลปะ แฟชั่น วัฒนธรรมล้านนาท้องถิ่น ยกระดับการแสดงศิลปะในเชียงใหม่สู่มาตรฐานระดับสากล บนพื้นที่รวมมากกว่า 500 ตารางเมตร

ร้านเอกฉันท์ โดยเชฟเอก เอกพล พิชวงค์ ผู้สร้างสรรค์อาหารไทยท้องถิ่นชื่อดังจากมิชลินไกด์ในเชียงใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบจากแหล่งออร์แกนิกท้องถิ่น และรสชาติที่สะท้อนเอกลักษณ์ของภูมิภาค เป็นต้น