ประมูล “ดิวตี้ฟรี สุวรรณภูมิ” เอกชนรุม “เขย่าทีโออาร์” ยันนาทีสุดท้าย

ขยับไทม์ไลน์มาเป็นระยะสำหรับโครงการประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ หรือร้านค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่สัญญาเดิมระหว่างบริษัท ท่าอากาศไทย หรือ ทอท. กับบริษัท คิง เพาเวอร์ จำกัด กำลังจะสิ้นสุด ก.ย.2563 นี้

จากแผนเดิมที่ ทอท. จะกำหนดกรอบและรายละเอียดทีโออาร์ให้แล้วเสร็จในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ต่อมาได้ขยับช่วงเวลามาอย่างต่อเนื่องเป็น เดือน มี.ค., เม.ย., พ.ค. ฯลฯ เพื่อให้มีเวลาในการพิจารณาที่จะเสนอตัวเข้าร่วมประมูล และคัดเลือกได้ภายในก.ย. ให้ผู้ประกอบการที่ได้รับคัดเลือกมีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้า 2 ปี ก่อนที่สัญญาเดิมจะสิ้นสุดลง

ล่าสุด ทอท.ประกาศเลื่อนออกร่างทีโออาร์มาเป็นช่วง ก.ค.-ส.ค.อีกรอบ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปมปัญหาที่การประมูลพื้นที่ดิวตี้ฟรี ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รอบนี้ถูกจับตามองจากหลายฝ่ายเป็นผลมาจากการที่กลุ่มทุนล็อตเต้ ดิวตี้ฟรีรายใหญ่จากเกาหลีตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยตามคำเชิญชวนของรัฐบาลไทยเมื่อปลายปี 2558 แต่ติดปัญหาไม่มีจุดส่งมอบสินค้าสาธารณะ (pick up counter)

ปรากฏการณ์ “เขย่า” สัญญาสัมปทานดิวตี้ฟรี ของ ทอท. จึงเริ่มขึ้นเป็นต้นมา บวกกับสัมปทานดิวตี้ฟรี สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิที่กำลังจะหมดสัญญาลงพอดี

ชื่อ “รวิฐา พงศ์นุชิต” อดีตรองอธิบดีกรมสรรพากร ปรากฏขึ้นในฐานะนายกสมาคมการค้าร้านค้าปลอดอากรไทย พร้อมทั้งยังได้ผนึกกำลังกับ “สมาคมค้าปลีกไทย” ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้หน่วยงานที่กำกับดูแล ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวฯ กระทรวงคมนาคม กรมศุลกากร รวมถึง ทอท.เข้ามาดูแลและรับผิดชอบ และเปิดจุดส่งมอบสินค้าให้กับผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ สามารถใช้ได้ด้วย

ขณะที่ ทอท.ยังยึดแนวปฏิบัติตามสัญญาเดิม พร้อมประกาศชัดว่า “หมดสัญญาสัมปทานเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน”
ความเคลื่อนไหวเพื่อเขย่า “สัมปทานดิวตี้ฟรี” ยิ่งทวีดีกรีเพิ่มขึ้นไปอีก

“รวิฐา” ในฐานะนายกสมาคมการค้าร้านค้าปลอดอากรไทย ผู้นำการเคลื่อนไหวอาศัยความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายเขย่า ทอท. ต่อเนื่องทั้งเขย่าด้วยตัวเอง จับมือกับสถาบันการศึกษา นักวิชาการด้านกฎหมาย ทีดีอาร์ไอ รวมถึงภาคธุรกิจที่มีแนวร่วมเดียวกัน

มีเป้าหมายผลักดันให้ “สัมปทานดิวตี้ฟรี” ในสนามบินหลักของไทย เปลี่ยนไปในทิศทางเดียวกับนานาประเทศ และไม่ผูกขาด ล่าสุด สมาคมร้านค้าปลอดอากรไทย (TDFA) สมาคมผู้ค้าปลีกไทย (TRA) รวมพลังอีกระลอกใหญ่

คราวนี้เป็นการยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. เพื่อชี้แจงถึงแนวทางปฏิบัติ พร้อมข้อเสนอแนะในการทำร่างทีโออาร์ประมูลร้านค้าดิวตี้ฟรี

จดหมายดังกล่าวได้เสนอให้ ทอท.พิจารณาให้สัมปทานตามหมวดสินค้า ซึ่งเป็นสัมปทานที่ให้กับผู้ประกอบการหลายราย เพราะเป็นรูปแบบที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากประเทศชั้นนำทั่วโลก ที่สำคัญ พื้นที่ที่ ทอท.จะเปิดประมูลมีขนาดใหญ่พอที่จะให้สัมปทานตามหมวดสินค้า ทั้งเป็นรูปแบบที่ทำให้เกิดการแข่งขันส่งผลต่อรายได้ที่เพิ่มขึ้น

พร้อมระบุว่า เพื่อให้ขั้นตอนการคัดเลือกผู้ได้รับสัมปทานโปร่งใสมีประสิทธิภาพ จึงเสนอให้ ทอท.เปิดเผยชื่อกลุ่มที่ปรึกษาในกรณีการให้สัมปทานดิวตี้ฟรี และพื้นที่เชิงพาณิชย์พร้อมประกาศกำหนดการคัดเลือกผู้ได้รับสัมปทานเป็นทางการและชัดเจน ป้องกันความคลาดเคลื่อนจากการติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านการให้สัมภาษณ์ของผู้บริหาร รวมถึงประกาศเชิญชวนผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียให้ร่วมออกความคิดเห็น

ฟาก “นิตินัย ศิริสมรรถการ” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ยืนยันเมื่อปลายมิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ยังอยู่ในกระบวนการศึกษาข้อดี-ข้อเสียของสัญญาสัมปทาน ทั้งให้ในรูปแบบสัมปทานรายใหญ่รายเดียว, สัมปทานตามกลุ่มสินค้า รวมถึงให้สัญญาสัมปทานตามโลเกชั่น อย่างละเอียดและรอบคอบ

และที่ผ่านมาก็มีผลการศึกษาออกมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่สมบูรณ์นัก ซึ่งพบว่าแต่ละรูปแบบมีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนั้น ทอท.จึงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ เพื่อรอดูผลการศึกษาที่สมบูรณ์อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ในเดือน ก.ค.-ส.ค.นี้ ร่างทีโออาร์ประมูลจะเสร็จสมบูรณ์แน่นอน และจะพยายามดำเนินการให้ได้ผู้ประกอบการในสิ้นปีนี้

“ทอท.” จะคลอดทีโออาร์และฝ่าด่าน “ความโปร่งใส” ที่หลายฝ่ายจับจ้องอยู่ได้ตามแผนหรือไม่ และปฏิบัติการ “เขย่า” ทีโออาร์ของกลุ่มตัวแทนภาคเอกชนที่ยืดเยื้อมากว่า 2 ปี มาจนถึงนาทีสุดท้ายนี้

จะผลิดอกออกผลแค่ไหน อีกไม่นานรู้กันแน่นอน !