รัฐเร่งฟื้นเชื่อมั่น”ท่องเที่ยว” ทุ่มงบฯยกมาตรฐานเซฟตี้ กรมเจ้าท่าขอ100ล้าน ติดตั้งระบบติดตามเรือ

วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา

รัฐ-เอกชนรวมพลังฟื้นความเชื่อมั่น “แอตต้า” ชี้เหตุเรือท่องเที่ยวล่มภูเก็ตกระทบระยะสั้น ฝ่ายจีนพอใจมาตรการเยียวยา “วีระศักดิ์” ลั่นสร้างมาตรฐานใหม่ด้านความปลอดภัย ผู้ว่าการ ททท.ระบุต่างชาติยกเลิกห้องพักภูเก็ต-สมุย 10-20% ส่วนกรมเจ้าท่าของบฯ 100 ล้าน ติดตั้งระบบติดตามเรือ

นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรณีเรือรับส่งนักท่องเที่ยวชาวจีนเกิดอุบัติเหตุล่มกลางทะเลในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2561 แม้จะกระทบความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว แต่น่าจะมีผลในระยะสั้น ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มการท่องเที่ยวทางเรือ ซึ่งขณะนี้พบว่ามีนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งที่วางแผนการเดินทางมาท่องเที่ยวในเส้นทางภูเก็ต ขอเปลี่ยนโปรแกรมการเดินทางบ้างแล้ว เช่น กรุงเทพฯ, เชียงใหม่, พัทยา เป็นต้น

ชี้กระทบระยะสั้น

“เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นอุบัติเหตุร้ายแรง สิ่งที่ทั้งรัฐบาลและเอกชนให้ความสำคัญมากที่สุดหลังจากเกิดเหตุ คือ การระดมกำลังช่วยเหลือผู้ประสบภัย และดูแลญาติพี่น้องผู้ประสบภัย รวมถึงคณะสื่อจากจีนที่เดินทางมาทำข่าว ซึ่งฝ่ายจีนค่อนข้างพึงพอใจกับการบริหารจัดการและการดูแลของฝ่ายไทย จึงมั่นใจว่าจะไม่กระทบความเชื่อมั่นในระยะยาว”

ต้องรอประเมินสถานการณ์อีก 1 สัปดาห์ ดูกระแสของสื่อจีนที่จะกลับไปเผยแพร่ข่าวสารว่าจะออกในมุมไหน อย่างไร หากเมสเสจสื่อสารออกมาในมุมที่เป็นอุบัติเหตุ สุดวิสัย ความเชื่อมั่นจะกลับมาได้เร็ว และไม่ส่งผลกระทบในระยะกลาง หรือระยะยาว เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่ยังคงนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในไทย เมืองท่องเที่ยวหลักที่ได้รับความนิยมสูงสุด 5 อันดับแรก คือ กรุงเทพฯ พัทยา ตามด้วย ภูเก็ต, เชียงใหม่, กระบี่ และสมุย ตามลำดับ

นายสุรวัช อัครวรมาศ ที่ปรึกษาสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว กล่าวในทิศทางเดียวกันว่า เชื่อมั่นว่าผลกระทบจะเกิดในระยะเวลาสั้น ๆ ประเด็นหลักอยู่ที่การดูแลผู้ประสบภัยและการช่วยเหลือของรัฐบาลไทยว่าจะเป็นที่พึงพอใจรัฐบาลจีนหรือไม่ ที่ผ่านมารัฐบาลจีนไม่ได้ออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวจีนในการเดินทางมาท่องเที่ยวไทย เหตุการณ์นี้จึงไม่กระทบระยะยาว

จุดเปลี่ยนสู่ตลาดคุณภาพ

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวจีนมองว่าเป็นช่วงของการปรับฐานครั้งสำคัญเพื่อมุ่งสู่ตลาดคุณภาพ เพราะการทำตลาดคุณภาพ คือ หนึ่งในความรับผิดชอบของทุกฝ่าย ทั้งผู้ให้บริการ นักท่องเที่ยว และสังคม ขณะนี้อาจเร็วไปที่จะประเมินว่าเหตุการณ์โศกนาฏกรรมทางทะเลครั้งที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง รองจากสึนามิ กระทบตลาดนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งใหญ่สุดเป็นอันดับ 1 มากน้อยแค่ไหน เนื่องจากมีเรื่องการกระทำของบุคคลเกี่ยวข้องด้วย ไม่ใช่ธรรมชาติเพียงส่วนเดียว ดังนั้นที่จะลดแรงกระแทกต่อเหตุการณ์คือ การร่วมกันรับผิดชอบอย่างตรงไปตรงมา และความกล้าหาญที่จะตัดสินใจแก้ไขเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ

ไล่เช็กบิลธุรกิจ “นอมินี”

ส่วนกรณีที่ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวประกาศจะปราบนอมินีธุรกิจท่องเที่ยวนั้น จะเป็นประเด็นที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่คดีเดียว แต่จะไล่ต่อเป็นวงกว้างขึ้น ให้เห็นว่าการประกอบธุรกิจที่ไม่เป็นไปในทิศทางที่ควรจะเป็น ต้องได้รับการดูแลและบริหารจัดการให้เกิดความเป็นธรรมแก่คนในวงการธุรกิจ นักท่องเที่ยว ผู้บริโภค และเป็นธรรมต่อทั้งซัพพลายเชน เป็นเรื่องการปรับฐานของทิศทางอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับระบบของนอมินีทั้งหมด

ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในภูเก็ตได้จัดหาห้องพัก 500 ห้อง จาก 50 โรงแรม เพื่อรองรับญาตินักท่องเที่ยวจีนที่ประสบเหตุเรือล่มเดินทางมาหาญาติ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมจัดรถบริการ 30 คัน มีล่ามอำนวยความสะดวก

“เราจะไม่ต่อรองเรื่องความปลอดภัย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะผลักดันให้ภาคท่องเที่ยวไทยเร่งสร้างมาตรฐานความปลอดภัยขึ้นมา เพื่อเป็นสัญลักษณ์ใหม่”

ยกเลิกห้องพัก 10-20%

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบระยะสั้นบ้าง ขณะนี้ได้รับรายงานว่ามีการยกเลิกห้องพักในพื้นที่ท่องเที่ยวทางทะเล 10-20% เพราะนักท่องเที่ยวปรับแผนเลือกพักบนฝั่งแทน สำหรับพื้นที่อื่น ๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ส่วนจะกระทบภาพรวมนักท่องเที่ยวจีนตลอดทั้งปีหรือไม่นั้น ในแง่จำนวนไม่น่ากระทบ แนวโน้มนักท่องเที่ยวจีนมาไทยปีนี้น่าจะไม่ต่ำกว่า 11 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 5.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ซึ่งปิดไป 9.8 ล้านคน รายได้กว่า 5 แสนล้านบาท ถือเป็นตลาดที่มีการใช้จ่ายด้านท่องเที่ยวดี เกือบ 5 หมื่นบาท/คน/ทริป ส่วนปี 2562 ททท.ตั้งเป้านักท่องเที่ยวจีนมาไทยไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน มุ่งเพิ่มการใช้จ่าย 4% เทียบกับปีนี้

“เป็นปกติที่นักท่องเที่ยวที่ตั้งใจมาไทยในช่วงนี้และมีโปรแกรมไปเที่ยวตามเกาะจะกังวล ตัดสินใจยกเลิกไปก่อน ได้รับรายงานว่าบางพื้นที่ เช่น สมุย และภูเก็ต ยกเลิกห้องพักในสัดส่วนน้อยเพียง 10-20% ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงโลว์ซีซั่น ที่ต้องเตรียมตัวคือการรับมือในไฮซีซั่นต่อไป”

ททท.เร่งฟื้นเชื่อมั่น

ผู้ว่าการ ททท.กล่าวด้วยว่า ความไม่ปลอดภัยถือเป็นเรื่องใหญ่ ก่อนหน้านี้ก็มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวหลาย ๆ ครั้ง มีผลต่อขีดความสามารถในการแข่งขันด้านความปลอดภัย โดยไทยอยู่อันดับ 118 จาก 136 ประเทศ นี่คือเรื่องเร่งด่วนที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ควรจะหยิบยกเรื่องความปลอดภัยเป็นวาระแห่งชาติ เพราะไม่มีใครอยากไปเที่ยวในที่ที่ไม่ปลอดภัย

ทั้งนี้ ทางกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีนได้สั่งการให้ตรวจสอบว่าแพ็กเกจไหนที่มีความเสี่ยงก็ขอให้ผู้ประกอบการตัดออกจากโปรแกรมท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นเรื่องดี เพราะบางครั้งหากยังมีการขายแพ็กเกจที่ยึดเรื่องราคา อาจเสี่ยงเรื่องความปลอดภัย

คาดจีนเที่ยวไทยพุ่ง 11 ล้านคน

ขณะที่นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า นักท่องเที่ยวจีนยังเป็นตลาดใหญ่อันดับ 1 ของไทย คาดว่าตลอดทั้งปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวไทย 11 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่ 9.8 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นกว่า 10%

ทั้งนี้ ตัวเลขของกรมการท่องเที่ยว ในปี 2560 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวในไทย 9.8 ล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวรวมทั้งหมด 35.38 ล้านคน สร้างรายได้คิดเป็นมูลค่ารวม 5.61 แสนล้านบาทช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.) ปีนี้ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย 16.43 ล้านคน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 12.44% เป็นนักท่องเที่ยวจีน 5.03 ล้านคน สัดส่วน 30.6% ขยายตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 27.58% สร้างรายได้รวม 2.67 แสนล้านบาท เดือน ก.พ. 2561 ซึ่งตรงกับเทศกาลตรุษจีน มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาสูงสุดที่ 1.2 ล้านคน

ทำตลาดช่องทางออนไลน์

นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า เหตุการณ์เรือล่มยังไม่ส่งผลกระทบชัดเจน ไม่มีการยกเลิกการจองโรงแรม แต่เริ่มมีคำถามความปลอดภัยของการท่องเที่ยวทางทะเลภูเก็ต อย่างไรก็ตาม เมื่อเหตุการณ์นี้กระทบต่อภาพลักษณ์ ททท.ได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการโรงแรมเก็บข้อมูล หากมีการยกเลิกห้องพัก รวมถึงจับมือกับสมาคมโรดโชว์ทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์สร้างภาพความปลอดภัยให้กลับมา

ด้านนายสถิรพงศ์ ณ ตะกั่วทุ่ง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวเช่นเดียวกันว่า ช่วงนี้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังเป็นชาวจีน และยังไม่มีการยกเลิกการจองทัวร์ แต่หากไม่รีบกระตุ้นความมั่นใจอาจส่งผลกระทบ เพราะภูเก็ตไม่ใช่จังหวัดเดียวที่จีนมาเที่ยว อาจเปลี่ยนที่เที่ยวได้ ขณะเดียวกันเรื่องภัยธรรมชาติ อยากให้รัฐเปลี่ยนจากคำว่า ประกาศเตือน เป็นประกาศห้าม ในวันที่พีกของคลื่นและลม หากเรือลำใดฝ่าฝืน ให้เจ้าท่าตรวจสอบที่ท่าเรือเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

ทุ่มงบฯซื้อเครื่องติดตามเรือ 

ด้านนายณัฐ จับใจ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งทางน้ำ เปิดเผยว่า เรือฟินิกซ์ที่ประสบเหตุล่มที่ภูเก็ต จดทะเบียนตามขั้นตอนถูกต้อง แต่ภูเก็ตเป็นพื้นที่ท่องเที่ยว มีเรืออยู่จำนวนมาก บางครั้งอาจฝ่าฝืนบ้าง แต่กรมจะเพิ่มความเข้มข้นเรื่องการเอาผิดด้านกฎหมายและตรวจมาตรฐานเรือมากขึ้น เช่น ตรวจตราด้านความปลอดภัยของท่าเรือ การโดยสาร การฝึกอบรมพนักงานในเรือ รวมถึงไกด์ และเตรียมจะขอจัดสรรงบประมาณ 100 ล้านบาท ติดตั้งระบบติดตามเรือและระบบควบคุมเรือให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ จากปัจจุบันจะมีเฉพาะแหลมฉบังและศรีราชา

นอกจากนี้ จะบังคับให้เรือทุกลำมีเสื้อชูชีพที่ได้มาตรฐาน ที่กรมเจ้าท่ารับรองตามมาตรฐานสากล โดยได้ออกประกาศตั้งแต่ต้นปี 2560 แต่ผู้ประกอบการยังไม่ปฏิบัติตาม อย่างไรก็ตาม สิ้นปีนี้ต้องมีเสื้อชูชีพที่มีมาตรฐานทั้งหมด


ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 10 ก.ค.ว่า ได้ติดตามกรณีเรือรับส่งนักท่องเที่ยวล่มอย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความช่วยเหลือเยียวยา และรัฐบาลจะจัดสรรงบฯ 300 ล้านบาท ให้กรมเจ้าท่าติดตั้งระบบติดตามเรือ ส่วนการเยียวยาผู้เสียชีวิตและผู้เสียหาย ได้อนุมัติเงินจากกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวต่างชาติช่วยเหลือแล้ว