ททท.รุดแก้ปมกรุ๊ปทัวร์หด บินเคลียร์จีนเรียก”เชื่อมั่น”

ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

ททท.เร่งฟื้นท่องเที่ยวภูเก็ต ขนทัพ “สื่อ-บล็อกเกอร์-เซเลบ” จีน ลงพื้นที่สำรวจแหล่งท่องเที่ยวหลัก สั่งการ 5 สำนักงาน ททท.ในจีนมอนิเตอร์ต่อเนื่อง “ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการ ททท. รุดเดินทางไปจีนเรียกคืนความเชื่อมั่น พร้อมผนึกแพลตฟอร์มออนไลน์จีนขายแพ็กเกจทัวร์-เตือนภัยนักท่องเที่ยว แจงตัวเลขนักท่องเที่ยวบินเข้าภูเก็ตช่วง 5-11 ก.ค.ยังเพิ่มขึ้น 8%

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยอมรับว่า เหตุการณ์เรือล่มส่งผลกระทบต่อภาคท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต แต่จะกระทบในระยะสั้น ขณะนี้เร็วเกินไปจะระบุว่า ตัวเลขผลกระทบมีมูลค่าเท่าไหร่ หรือตัวเลขนักท่องเที่ยวยกเลิกไปมากน้อยแค่ไหน โดยที่ผ่านมาสั่งการ 5 สำนักงาน ททท.ในจีน ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว เฉิงตู และคุนหมิง ประเมินสถานการณ์ ซึ่งพบว่านักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (เอฟไอที) ซึ่งมีสัดส่วนราว 60% ยังไม่กระทบมากนัก แต่ที่ลดลงไปคือนักท่องเที่ยวที่เป็นกรุ๊ปทัวร์

ดึงสื่อไทย-สื่อจีนลงพื้นที่

ทั้งนี้ ททท.ในฐานะหน่วยงานด้านการตลาดของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย ได้กำหนดแนวทางสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต และการท่องเที่ยวทางน้ำของไทยให้ฟื้นกลับมาโดยเร็ว โดยนำคณะสื่อมวลชนไทยสายท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ เดินทางไปภูเก็ต วันที่ 17-18 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อสำรวจศูนย์ประสานงานการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวผู้ประสบภัย พร้อมสังเกตการณ์สถานที่ท่องเที่ยวหลัก ๆ ที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมของจังหวัดภูเก็ต อาทิ ย่านเมืองเก่าภูเก็ต, หาดป่าตอง, ศูนย์การค้าจังซีลอน, ท่าเทียบเรือรัษฎา, คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี, ท่าเทียบเรืออ่าวปอ, ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง เป็นต้น

และระหว่างวันที่ 18-21 กรกฎาคมนี้ ตนมีกำหนดเดินทางไปเมืองปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เพื่อพบผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยวขนาดใหญ่ หลังตลาดกรุ๊ปทัวร์ซึ่งครองสัดส่วน 40% ของนักท่องเที่ยวจีนมาไทย มีแนวโน้มชะลอการเดินทาง นอกจากจะนำเสนอสินค้าท่องเที่ยวและแจกแจงมาตรการความปลอดภัยและระบบเตือนภัยแก่นักท่องเที่ยวแล้ว ยังดูปฏิกิริยาตอบรับของตลาดด้วย เพื่อนำข้อมูลมาวางแผนกระตุ้นตลาดต่อไป

ด้านนายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวเสริมว่า จะกระตุ้นการสื่อสารตลาดนักท่องเที่ยวจีน ด้วยการจัดเฟมทริปดึงสื่อมวลชน บล็อกเกอร์ชื่อดังประมาณ 40-50 ราย รวมทั้งเซเลบริตี้จีน เดินทางมาภูเก็ตในช่วงเทศกาลกินเจ ซึ่งอยู่ใกล้ช่วง “โกลเด้นวีก” หยุดยาววันชาติจีนในเดือนตุลาคมนี้ และใช้เวทีนี้คิกออฟฟื้นความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว เหมือนกับโมเดลที่ ททท.เคยนำเซเลบริตี้ชื่อดังเดินทางมาไทยหลังเกิดเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์รวมทั้งยังมีแผนสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยว และกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนผ่านสำนักงานทั้ง 5 แห่งของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง

อัดอีเวนต์ฟื้นความเชื่อมั่น

นอกจากนี้ยังได้เตรียมแผนจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2561 โดย ททท.ได้ร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว สายการบิน จัดกิจกรรมในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย กิจกรรม Thailand Golf Travel Mart 2018 ระหว่างวันที่ 23-25 กรกฎาคม 2561, กิจกรรม “ล่องเรือไหว้พระ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์” ระหว่างวันที่ 27-29 กรกฎาคม 2561 ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา, กิจกรรม Bangkok Airways : Phuket Half Marathon วันที่ 5 สิงหาคม 2561 และโครงการมหกรรมอาหาร Phuket Tasty Fest ระหว่างวันที่ 1-2 กันยายน 2561 ณ ย่านเมืองเก่าภูเก็ต

ขณะเดียวกัน ททท.ด้านตลาดในประเทศยังได้จัดกิจกรรม “เที่ยวข้ามภาค” กระตุ้นคนไทยเดินทางมาท่องเที่ยวภูเก็ต ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน 2561 ผ่านการจัดกิจกรรม งานเทศกาลต่าง ๆ และการส่งเสริมการขายร่วมกับพันธมิตรในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตร่วมกันอีกด้วย

ผนึกท่องเที่ยวออนไลน์จีนทำตลาด

นายยุทธศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันในตลาดนักท่องเที่ยวจีนมีการขายแพ็กเกจทัวร์มาไทยในราคาประมาณ 3,000 หยวน (ราว 1.5 หมื่นบาท) พำนักระยะเวลา 5 วัน 4 คืน ราคาพอ ๆ กับเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการปรับราคาสูงขึ้นกว่าเมื่อก่อนซึ่งขายในราคา 999 หยวน (ราว 5 พันบาท)

ทั้งนี้ ททท.มีแผนคัดเลือกแพ็กเกจทัวร์คุณภาพให้เข้าไปขายในแพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์ของจีนมากขึ้น โดยร่วมมือกับแพลตฟอร์ม Wechat เพื่อสื่อสารข้อมูลจำเป็นแก่นักท่องเที่ยวจีนผ่านฟังก์ชั่น City Experience โดยจะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับภูเก็ตเป็นการนำร่อง

@ นักท่องเที่ยวบินเข้าภูเก็ตเพิ่ม 8%

ผู้ว่าการ ททท.กล่าวว่า สำหรับคาดการณ์ผลกระทบที่สมาคมโรงแรมไทยระบุว่า มีการยกเลิกห้องพักในภูเก็ตมากกว่า 7,000 ห้องพัก แบ่งเป็นเดือนกรกฎาคม 5,000 ห้องพัก และเดือนสิงหาคม 2,000 ห้องพักนั้น ทาง ททท.มองว่าเป็นสัดส่วนที่ไม่มากเมื่อเทียบกับจำนวนห้องพักทั้งหมดในภูเก็ต ซึ่งมีมากกว่า 92,145 ห้อง จากจำนวนโรงแรม 1,789 แห่งทั่วภูเก็ต

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลการเข้าเมืองผ่านสนามบินของไทยในช่วงวันที่ 5-11 กรกฎาคมที่ผ่านมา นับตั้งแต่วันเกิดเหตุเรือล่มที่ภูเก็ต พบว่ามีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้น 8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวจีนมาไทยแล้วอาจเปลี่ยนจุดหมายท่องเที่ยว หรือปรับโปรแกรมเที่ยวไม่ลงเรือในช่วงที่ยังกังวลอยู่ก็เป็นได้

ภูเก็ตเร่งจัดทำมาตรการป้องกัน

ด้านนายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำมาตรการเสนอรัฐบาล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยการท่องเที่ยวทางเรือ มาตรการแรก คือ จัดระเบียบการลงเรือ ทั้งเรื่องการตรวจสอบจำนวนผู้โดยสาร หน้าตาผู้โดยสาร การให้นักท่องเที่ยวสวมสายรัดข้อมือ (wrist band) เพื่อติดตามตำแหน่งนักท่องเที่ยว และการสาธิตความปลอดภัย เพื่อยกระดับความปลอดภัยให้เหมือนกับตอนขึ้นเครื่องบิน

มาตรการที่ 2 คือ จัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลที่อ่าวฉลอง มีเจ้าหน้าที่ให้บริการ 24 ชั่วโมง มีเรือประจำการรอ 3 ลำ พร้อมเชื่อมโครงข่ายสื่อสารเข้ากับเรือประมงและเรือท่องเที่ยวตามเกาะแก่งต่าง ๆ เพื่อเข้าถึงตำแหน่งเรือที่อาจประสบปัญหา และอีกศูนย์หนึ่งที่จะตั้ง คือ ศูนย์เฝ้าระวังและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล บริเวณเกาะยาว จังหวัดพังงา จะดูแลครอบคลุม 3 จังหวัดอันดามัน ได้แก่ พังงา ภูเก็ต และกระบี่ เบื้องต้นจะของบประมาณ 427 ล้านบาท