“น้ำท่วม” ทุบมู้ดญี่ปุ่นเที่ยวไทย คนไทยไม่หวั่น-คาดแห่เที่ยวปีนี้ทะลุ 1 ล้านคน
นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่และรุนแรงที่สุดของประเทศญี่ปุ่นในรอบ 36 ปี จนทำให้มียอดผู้เสียชีวิตจำนวนมากนั้น คาดว่าตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาไทยในช่วงนี้อาจชะลอการเดินทาง เนื่องจากอารมณ์การเดินทางของคนญี่ปุ่นลดน้อยลง เพราะกังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก
ในส่วนของนักท่องเที่ยวคนไทยนั้นนายธนพล ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เมื่อมองผลกระทบด้านการเดินทางท่องเที่ยวแล้ว ทางสมาคมคาดว่ามีส่วนทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยชะลอการเดินทางไปญี่ปุ่นในช่วงระยะสั้นเช่นกัน
น้ำท่วมญี่ปุ่นกระทบสั้น
ทั้งนี้ เนื่องจากคนไทยค่อนข้างกังวลกับสถานการณ์ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (เอฟไอที) เนื่องจากแถบโอซากา เกียวโต และอีกหลาย ๆ จังหวัดในภาคตะวันตกเฉียงใต้
ของญี่ปุ่น เป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางด้วยตัวเอง
ขณะที่ตลาดกลุ่มเดินทางเป็นหมู่คณะ (กรุ๊ปทัวร์) เนื่องจากช่วงนี้ตรงกับช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น) จึงไม่ค่อยได้รับความนิยมจากตลาดกรุ๊ปทัวร์นัก อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่าทางการญี่ปุ่นจะสามารถแก้ไขปัญหาได้เป็นอย่างดี และฟื้นสถานการณ์ให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว
ไทยเที่ยวญี่ปุ่นทะลุ 1 ล้านคน
“สมาคมทีทีเอเอคาดการณ์ว่าภาพรวมของตลาดคนไทยเที่ยวญี่ปุ่นในปีนี้ จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวมากกว่า 1 ล้านคน แม้จะมีเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ แต่เชื่อว่าจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้นที่คนไทยกลัว เนื่องจากในภาพรวมแล้วยังมีปัจจัยหนุนหลาย ๆ อย่าง”
นายธนพลกล่าวและว่า ญี่ปุ่นยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของคนไทยที่ต้องการไปเที่ยวต่างประเทศ มีแพ็กเกจท่องเที่ยวเสนอขายในราคาถูกมาก ประกอบกับสายการบินต่าง ๆ ทั้งพรีเมี่ยมและต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) ต่างเพิ่มเที่ยวบินเส้นทางไทยไปญี่ปุ่นมากขึ้น
จัดงานแฟร์กระตุ้นเที่ยวปลายปี
นอกจากนี้ สมาคมยังเตรียมจัดงานคอนซูเมอร์แฟร์ด้านท่องเที่ยว “เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก” ครั้งที่ 23 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคมนี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ คาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดการซื้อขายสินค้าและบริการด้านท่องเที่ยวทั้งตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศและเที่ยวต่างประเทศ
โดยคาดว่าในช่วงไฮซีซั่นปลายปีนี้จะเห็นอัตราการเติบโตที่ดีของตลาดคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยดีขึ้น โดยส่วนใหญ่จะนิยมไปเที่ยวช่วงสั้น ๆ 3-5 คืน ในจุดหมายระยะใกล้ เช่น ญี่ปุ่น ซึ่งตรงกับช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีและฤดูหนาว
ชี้คนไทยเที่ยวนอกโตโด่ง
ด้านนายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า จากผลสำรวจเกี่ยวกับแผนการท่องเที่ยวระดับโลกของวีซ่า (Visa Global Travel Intentions Study) ระบุว่าสถิติคนไทยท่องเที่ยวไปยังต่างประเทศเติบโตนำประเทศอื่น ๆ ด้วยจำนวนแผนการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเพิ่มเป็น 3.9 ทริปภายในปี 2562
อย่างไรก็ตาม ผลวิจัยยังชี้ให้เห็นว่าจำนวนวันในแต่ละทริปลดน้อยลง ปัจจุบันจำนวนวันเฉลี่ยต่อทริปทั่วโลกอยู่ที่ 8 คืนต่อทริป ซึ่งลดลงจาก 10 คืนในปี 2556 โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยวางแผนจะเที่ยวเพียง 5 คืนต่อทริป ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก
“ญี่ปุ่น” 1 ในใจคนไทย
สำหรับจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เมื่อดูจากผลสำรวจพบว่าเมื่อปี 2558 ญี่ปุ่นได้รับความนิยมสูงสุด 64% ตามด้วย ฮ่องกง 37%, สิงคโปร์ 29%, เกาหลีใต้ 21% และจีน 16% โดย 4 ประเทศแรกยังคงเป็นจุดหมายปลายทางหลักในปี 2562 แต่เมื่อโฟกัสเพิ่มเติมพบว่า ญี่ปุ่นแม้จะยังครองอันดับ 1 ของจุดหมายที่คนไทยให้ความนิยมสูงสุด แต่เมื่อดูสัดส่วนแล้วลดลงเหลือ 34% สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มความอิ่มตัว, ฮ่องกง 8%, สิงคโปร์ 7% และเกาหลีใต้ 7%
นอกจากนี้ คนไทยยังสนใจไปเที่ยวในจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ มากขึ้น เช่น มัลดีฟส์ นิวซีแลนด์ ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น
คาดปีนี้ญี่ปุ่นเที่ยวไทยโต 8%
ก่อนหน้านี้ นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานโตเกียว และนางสาวสรัสวดี อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานโอซากา ร่วมกันเปิดเผยในงานทิศทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวของ ททท. เมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่า จากสถิติพบว่าปี 2560 มีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นไปต่างประเทศมากถึง 17.88 ล้านคน เติบโต 4.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน
โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาไทย 1.54 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.28% มากเป็นอันดับ 5 รองจากนักท่องเที่ยวจีน มาเลเซีย เกาหลีใต้ และลาว ขณะที่ปี 2562 คาดรายได้ตลาดญี่ปุ่นเที่ยวไทยจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 8% และขยายตัวเพิ่มขึ้น 5% โดย ททท.จะมุ่งทำตลาดเพิ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางเป็นครั้งแรก กลุ่มผู้หญิง และกลุ่มคนรุ่นใหม่
สำหรับแคแร็กเตอร์ของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น ยังคงนิยมท่องเที่ยวตามอาร์ตแกลเลอรี่ พิพิธภัณฑ์ และสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นมรดกโลก รวมถึงชื่นชอบกิจกรรมท่องเที่ยวที่เปิดโอกาสให้ได้
เวิร์กช็อปและได้ชิมอาหารท้องถิ่น ขณะที่ภาพรวมของพฤติกรรมการท่องเที่ยวของชาวญี่ปุ่นมีการเปลี่ยนไป โดยนิยมค้นหาประสบการณ์จากการท่องเที่ยว และเดินทางด้วยตัวคนเดียวมากขึ้น
นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังนิยมการจองสินค้าท่องเที่ยวทั้งโรงแรมและตั๋วเครื่องบินจากสมาร์ทโฟนมากกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ขณะที่เทรนด์ของเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน (แชริ่งอีโคโนมี) เช่น การจองห้องพักผ่านแอร์บีแอนด์บี (Airbnb) เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เช่นเดียวกับบริการของสายการบินโลว์คอสต์ที่นิยมจองคู่กับโรงแรมระดับ 4-5 ดาว เป็นต้น
