“กอบกาญจน์” เร่งสำรวจพื้นที่ท่องเที่ยวเมืองสกลนคร หารือแผนฟื้นฟูท่องเที่ยวชุมชนหลังน้ำลด

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า วันนี้ลงพื้นที่ภาคอีสานให้กำลังใจและส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยพบกับชุมชนเข้มแข็ง พี่-น้อง ชาวท่าแร่ จ.สกลนคร ชุมชนชาวคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ชุมชนวัดกลางศรีเชียงใหม่ อยู่ริมหนองหาร จ.สกลนคร ที่โดนน้ำท่วม โดยหนองหารเป็นทะเลสาบธรรมชาติที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย รองจากบึงบอระเพ็ด รับน้ำจาก 16 ลำน้ำ เช่น ลำน้ำพุง แต่ไหลออกแม่น้ำโขงด้วยลำน้ำเดียวคือลำน้ำก่ำ

ทั้งนี้ การลงพื้นที่สกลนครครั้งนี้เพื่อสำรวจความเสียหายของแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดสกลนครรวมทั้งติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล เพื่อนำเสนอในที่ประชุม ครม.สัญจร ซึ่งจะจัดขึ้นที่ จ.นครราชสีมา ในปลายเดือนนี้

นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า สำหรับการดูแลแหล่งท่องเที่ยวที่ถูกน้ำท่วม เช่น วัดพระธาตุเชิงชุมวัดคู่บ้านคู่เมืองสกลนคร ซึ่งบริเวณรอบนอกน้ำท่วมล้อมวัด 3-4 วัน นั้น ถือว่าสภาพเสียหายไม่มากนัก แต่มีการกัดเซาะของน้ำหลายจุด จึงต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดและเร่งฟื้นฟูต่อไป

และจากการสอบถามชาวบ้านในท้องถิ่น พบว่า ชาวบ้านอยากให้หน่วยงานรัฐสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในชุมชนรอบหนองหาร ซึ่งมีสิ่งที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น 2 ท่า คือ ท่าแร่ ชุมชนชาวคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีโบสถ์วัดคริสต์สวยงาม และท่าวัด วัดกลางศรีเชียงใหม่ มีศิลาจารึกหินทรายสมัยล้านช้าง และมีใบเสมาคู่สมัยทวารวดี

นอกจากนี้ยังมี 1 ซ่ง (บ้านน้ำพุ มีน้ำพุธรรมชาติ) และ 1 ดอน (ดอนสวรรค์ เกาะกลางทะเลสาบหนองหาร เดินป่าบนเกาะนี้ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยไม้ใหญ่ เช่น ยางนา 4-5 คนโอบ) ขณะเดียวกัน กลุ่มสมาชิกหอการค้าจังหวัดยังเตรียมจัดกิจกรรมรับขวัญในเดือนกันยายน เพื่อร่วมพลังใจให้สู้กันต่อไป และชาวสกลนครยังเดินหน้าเตรียมจัดงานแห่ปราสาทผึ้งในเทศกาลออกพรรษาของชาวอีสาน โดยในเดือนตุลาคมนี้ จะจัดเป็นพิเศษเพื่อน้อมถวายแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9

นางกอบกาญจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ท่าแร่เป็นตำบลที่สวยงามอยู่ริมหนองหาร มีโบสถ์คริสต์ ตึกและบ้านโบราณหลายแห่ง เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ผู้คนน้ำใจดี มีจิตวิญญาณแห่งความภาคภูมิใจและความเป็นเจ้าบ้านที่ดี ไปเยี่ยมชุมขนวัดกลางศรีเชียงใหม่ จ.สกลนคร ซึ่งท่านเจ้าอาวาสเล่าเรื่องต้นมะขามใหญ่เก่าแก่ ใบเสมาโบราณ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอีกแห่งที่น่าเรียนรู้ วัดจึงเป็นศูนย์กลางให้ชุมชนใกล้เคียงได้พึ่งพา ครั้งนี้ได้ได้มอบถุงยังชีพแก่ครอบครัวที่ประสบอุทกภัยและให้กำลังใจในการฝ่าฟันและสู้ต่อไป

นางกอบกาญจน์ เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายมีการประชุมเขตพัฒนาการท่องเที่ยววิถีชีวิตลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งประกอบด้วย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร เลย จัดประชุม ณ จังหวัดบึงกาฬ ได้มีการหารือกันเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว และการใช้จ่ายภายในประเทศตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งขอให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดการประชุม อบรม สัมมนา ในต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น โดยขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังร่วมมือกันจัดกิจกรรมเพื่อให้เกิดกลไกเดินหน้าทางเศรษฐกิจกระจายสู่ชุมชน และจากนี้เราจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยฟื้นฟูอีสานในอีกหลายจังหวัด เพื่อฝ่าฟันเหตุอุทกภัยซึ่งเกิดขึ้นหลายพื้นที่ และเตรียมพร้อมที่จะรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมายังภาคอีสานอีกจำนวนมากจากการประกาศให้ปี 2561 เป็น “ปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน”