ทุน “ทิฟฟานีโชว์” ขยับครั้งใหญ่ บุกธุรกิจอาหารปั้น “ไอคอน” เมืองพัทยา

“PTS Group” กลุ่มทุนใหญ่เมืองพัทยา ผู้นำธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ “ทิฟฟานีโชว์” และโรงแรมเครือวู้ดแลนด์ในพัทยา ขยับตัวครั้งใหญ่ ด้วยการประกาศทุ่มลงทุนอีกกว่า 500 ล้านบาท รีโนเวตโรงละครทิฟฟานีครั้งใหญ่ในรอบกว่า 40 ปี พร้อมเนรมิตร้านอาหารสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก 

“ประชาชาติธุรกิจ” ได้สัมภาษณ์พิเศษ “จ๋า-อลิสา พันธุศักดิ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีเอส กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารโรงละครทิฟฟานีโชว์ โรงแรม Woodland Hotel & Resort, Woodland Suites และร้านเบเกอรี่ La Baguette, La Ferme Pattaya ถึงแนวคิดของการลงทุนในครั้งนี้

“จ๋า-อลิสา” เริ่มต้นให้สัมภาษณ์ว่า บริษัทได้ลงทุนเพิ่มอีกกว่า 500 ล้านบาท สำหรับพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่เป็น man-made attrractions หรือแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้นในเมืองพัทยา ให้มีความสวยงาม และโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ของเมืองพัทยาที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ปรับใหญ่ “ทิฟฟานีโชว์”

ประกอบด้วย 2 โครงการใหญ่ ได้แก่ 1.รีโนเวตโรงละครทิฟฟานีโชว์ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ถือเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่สุดของโรงละครทิฟฟานีโชว์ในรอบกว่า 40 ปี ให้สมบูรณ์แบบและเป็นมาตรฐานระดับโลก

โดยได้เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งในส่วนของโครงสร้าง การตกแต่ง และรูปแบบการให้บริการที่ทันสมัย รวมถึงรูปแบบของโชว์ เพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวมากขึ้น พร้อมทั้งนำระบบซอฟต์แวร์ที่ทันสมัยมาใช้ในการจำหน่ายตั๋วออนไลน์ที่รวดเร็ว เพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าทั่วโลก ทั้งนี้ คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้

“อลิสา” บอกด้วยว่า กว่า 40 ปีที่ผ่านมา ทิฟฟานีโชว์อยู่คู่กับเมืองพัทยาและได้สร้างชื่อเสียงที่ดีให้กับการท่องเที่ยวของไทยมาโดยตลอด เธอจึงอยากสร้างความภาคภูมิใจด้วยการพยายามพัฒนาให้มีความทันสมัย มีมาตรฐานเทียบชั้นโรงละครชั้นนำทั่วโลก เพื่อทำให้โรงละครทิฟฟานี่โชว์เป็นวินโดว์ของเมืองพัทยา

ที่สำคัญยังเป็นการสร้างให้แบรนด์เกิดการรับรู้ในกลุ่มนักท่องเที่ยวโดยตรงมากยิ่งขึ้น เพราะปัจจุบันลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเข้ามาท่องเที่ยวเอง จองตั๋วเองถึงกว่า 70% จากในอดีตที่ส่วนใหญ่เป็นกรุ๊ปทัวร์ถึงกว่า 80%

ทุ่ม 300 ล้านลงทุนธุรกิจอาหาร

และ 2.โครงการสร้างร้านอาหารแห่งใหม่ในพัทยา มูลค่า 300 ล้านบาท โดยดำเนินการภายใต้ชื่อ “Thai Mache” หรือไทยมาเช่ บนพื้นที่ 4,631 ตารางวา บริเวณติดกับโรงละครทิฟฟานี่โชว์

โดย Thai Mache จะเป็นเหมือน grand station ศูนย์รวมอาหารแนวสตรีตฟู้ด ซีฟู้ด และขนมไทยรองรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก และเป็นการลงทุนครั้งใหญ่สำหรับการขยายธุรกิจอาหารของกลุ่ม “PTS Group” ด้วยเช่นกัน เรียกว่าเป็นการนำเอาร้านอาหารสุดอลังการที่รวมเมนูสตรีตฟู้ดยอดนิยมของเมืองไทยมาไว้ที่นี่

ทั้งนี้ เพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกับที่สุดของประสบการณ์แห่งความสุขไปกับอาหารไทยรสชาติจัดจ้าน พร้อมตื่นตาตื่นใจไปกับความบันเทิงสุดอลังการที่ครีเอตขึ้นใหม่ทั้งหมดสำหรับลูกค้าของไทยมาเช่โดยเฉพาะ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้

ปั้น “ไอคอน” ใหม่เมืองพัทยา

“อลิสา” บอกด้วยว่า ครอบครัว “พันธุศักดิ์” อยู่ในธุรกิจโรงแรมและเอ็นเตอร์เทนเมนต์สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวในเมืองพัทยามานานกว่า 40 ปี และที่ผ่านมา “โรงละครทิฟฟานีโชว์” ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่อยู่คู่กับเมืองพัทยามายาวนานเช่นกัน

ถึงวันนี้ ทางครอบครัวจึงอยากทำให้โรงละครและร้านอาหาร Thai Mache เป็น “ไอคอน” หรือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองพัทยาที่ชัดเจน อีกทั้งยังมีความสวยงาม โดดเด่น ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวคุณภาพจากทั่วโลกตามนโยบายของรัฐบาล

“เรามีไอเดียที่จะพัฒนาและปรับปรุงโรงละครตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว และได้ใช้เวลาถึง 5 ปี ในการดำเนินงานและออกแบบกว่าจะได้รูปแบบที่ลงตัวและตรงกับความต้องการ”

และยังบอกด้วยว่า ปัจจุบันพฤติกรรมการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จากที่เคยเดินทางผ่านบริษัททัวร์ เปลี่ยนมาเป็นเดินทางด้วยตัวเองมากขึ้นอย่างชัดเจน การสร้างแบรนด์ให้แข็งแรงและเป็นมาตรฐานสากลจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก

“เมื่อสินค้ามีมาตรฐานก็จะเกิดกระแสปากต่อปาก ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะมีส่วนในการช่วยให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการได้เร็วยิ่งขึ้น”

เตรียมปักหมุดลงทุน “ภูเก็ต”

“อลิสา” ยังบอกอีกว่า เมื่อปีที่ผ่านมาทางครอบครัวพันธุศักดิ์ได้จัดกลุ่มธุรกิจในเครือข่ายใหม่ ด้วยการจัดตั้ง “PTS Holding Group” สำหรับเป็นบริษัทโฮลดิ้งคอมปะนี พร้อมทั้งจัดกลุ่มธุรกิจในเครือเป็น 3 กลุ่มหลัก เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและความยั่งยืนในการทำธุรกิจได้อย่างครบวงจร

ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจ hospitality ซึ่งประกอบด้วย Woodland Hotel & Resort, Woodland Suites กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ได้แก่ ทิฟฟานีโชว์ และพัทยาสปอร์ตบาซาร์ และกลุ่มธุรกิจอาหาร La Baguette, La Ferme Pattaya และล่าสุดคือ Thai Mache

โดยปัจจุบันทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจมีศักยภาพในการสร้างรายได้ในอัตราใกล้เคียงกัน แต่คาดว่าในอนาคตธุรกิจอาหารจะเป็นธุรกิจที่เติบโตได้อย่างรวดเร็วแน่นอน

เมื่อถามถึงแผนการลงทุนเพิ่มเติมในอนาคต “จ๋า-อลิสา” บอกว่า ก่อนหน้านี้บริษัทมีแผนที่จะขยายการลงทุนในจังหวัดภูเก็ต แต่ชะลอโครงการไป เพราะต้องโฟกัสโครงการในพัทยาก่อน โดยมองว่าโมเดลการลงทุนที่ภูเก็ตน่าจะเป็นรูปแบบคล้ายกับที่พัทยา กล่าวคือมีโรงละครทิฟฟานีโชว์ ร้านอาหาร ฯลฯ

อย่างไรก็ตาม ทั้งหลายทั้งปวงนี้คงต้องให้โครงการที่พัทยาเสร็จสมบูรณ์ก่อน จากนั้นปี 2562 ค่อยคิดเรื่องการลงทุนครั้งใหญ่ที่ภูเก็ตอีกรอบ…