ปั้นธุรกิจ”อีเวนต์บันเทิง” ดันรายได้อุตฯท่องเที่ยว

“กอบกาญจน์” หนุนอีเวนต์บันเทิงปลุกกระแส “เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ทัวริซึ่ม” เป็นโปรดักต์ใหม่ขับเคลื่อนท่องเที่ยว ชี้เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวใช้จ่ายสูง ผนึกสายการบิน โรงแรม ทำตลาดร่วมกัน ททท.ประกาศโซน-อัตราลดหย่อนภาษีในเมืองท่องเที่ยว

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ กระทรวงมีแผนจะนำเสนอและผลักดันสินค้าและบริการด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์ให้เป็นโปรดักต์ใหม่ เพื่อช่วยขับเคลื่อนธุรกิจในภาคการท่องเที่ยว หรือที่เรียกว่าเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ทัวริซึ่ม เนื่องจากประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์ในหลาย ๆ ส่วน ที่สำคัญ จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์รายใหญ่ อาทิ กลุ่มบีอีซี-เทโร พบว่าที่ผ่านมา คอนเสิร์ตหรือโชว์ใหญ่ ๆ ที่นำเข้ามาจัดในไทย มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศจำนวนหนึ่งที่ติดตามเข้ามาดูคอนเสิร์ตเป็นประจำถึงราว 50% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าไทยสามารถใช้สินค้าและบริการด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์มาช่วยขับเคลื่อนด้านการท่องเที่ยวได้

ผนึกทุกส่วนทำตลาดร่วม

ขณะนี้กระทรวงอยู่ระหว่างการวางแผนทำงานแบบบูรณาการร่วมกับองค์กรอื่น ๆ ทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน อาทิ สายการบิน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สมาคมโรงแรม ฯลฯ เพื่อทำแพ็กเกจการขายและผลักดันการตลาดร่วมกัน โดยจะจัดตารางการโชว์ให้มีต่อเนื่องตลอดทั้งปี หรือที่เรียกว่า Show Time Everyday ทั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับแนวทางการทำการตลาดการท่องเที่ยวของไทยในปีหน้าที่ได้กำหนดให้ปี 2561 เป็นปีท่องเที่ยวแห่งชาติ ซึ่งจะเริ่มทำการตลาดเชิงรุกตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้ไปจนถึงสิ้นปี 2561

ทั้งนี้จากการเก็บตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาดูคอนเสิร์ตหรือโชว์ขนาดใหญ่พบว่า โดยเฉลี่ยจะมีวันพำนักในประเทศประมาณ 3 วัน มีค่าใช้จ่ายราว 40,000 บาทต่อทริป ซึ่งสูงกว่าการใช้จ่ายต่อทริปของนักท่องเที่ยวทั่วไป

“โชว์ ดีซี” อัดพันอีเวนต์ต่อปี

สอดรับกับ นายชยดิฐ หุตานุวัชร์ ประธาน บริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด ผู้บริหาร “โชว์ ดีซี” ศูนย์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ขนาดใหญ่ ในย่านถนนพระราม 9 ที่กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ธุรกิจด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์มีศักยภาพในการผลักดันภาคธุรกิจท่องเที่ยวและดึงเงินตราต่างประเทศได้เป็นอย่างดี จึงได้วางโพซิชันนิ่งของโชว์ ดีซี ให้เป็น”เอ็นเตอร์เทนเมนต์ เดสติเนชั่น” และมุ่งจับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นหลักทั้งนี้ บริษัทพร้อมจะสนับสนุนนโยบายเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ทัวริซึ่ม ของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยถึงแผนงานต่าง ๆ ที่จะทำร่วมกันไปบางส่วนแล้ว

“เรามีแผนจะทำกิจกรรมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ประมาณ 1,000 อีเวนต์ต่อปี เพื่อให้มีกิจกรรมต่อเนื่องทุกวันตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังได้ลงทุนสร้างสถานที่ไว้สำหรับรองรับการจัดงานไว้ภายในศูนย์ถึง 12 ห้อง ทั้งส่วนกลางแจ้งและในอาคารสามารถรองรับผู้ร่วมงานได้ตั้งแต่ 300-30,000 คน”

จัดไลน์อัพโปรดักต์ดึงทัวริสต์

แหล่งข่าวในธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์รายหนึ่งกล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่าจากการหารือร่วมกับทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ขณะนั้นได้กำหนดโปรดักต์ด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์หลัก ๆ ไว้ 4 ส่วนประกอบด้วย 1.วัฒนธรรมที่เป็นงานที่จัดขึ้นตามฤดูกาล อาทิ เทศกาลสงกรานต์, ลอยกระทง 2.คอนเสิร์ต-โชว์จากต่างประเทศ 3.กิจกรรมด้านกีฬา และ 4.งานประจำปี โดยส่วนนี้จะเป็นกิจกรรมที่ทางผู้ประกอบการและหน่วยงานภาครัฐคิดสร้างสรรค์ขึ้น และสื่อสารให้ข้อมูลกับนักท่องเที่ยวต่างประเทศว่าเป็นกิจกรรมที่จัดเป็นประจำทุกปี หรือเป็นเฟสติวัลของประเทศ รวมทั้งมีแผนจะพัฒนาโซนพระราม 9 ให้เป็นแลนด์มาร์กใหม่ของประเทศต่อไป

ด้านนายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่ากิจกรรมเอ็นเตอร์เทนเมนต์จะเป็นเครื่องมือหลักในการผลักดันและสร้างประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักในตลาดโลกได้ อาทิ การเข้าร่วมประมูล มหกรรมดนตรีอีดีเอ็มระดับโลกที่กำลังได้รับความนิยม “ทูมอร์โรว์แลนด์” (Tomorrowland) มาจัดที่ไทย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจท่องเที่ยว เนื่องจากจะมีนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ ทั้งอเมริกา ยุโรป เอเชีย เดินทางมาร่วมงานนี้

ททท.แบ่งโซน-ลดหย่อนภาษี

ในฟากของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยนั้น ล่าสุด นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา ที่ประชุมแนวทางการกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านการเดินทางท่องเที่ยวเห็นชอบให้มีมาตรการกระจายรายได้ท่องเที่ยวสู่ชุมชนมากขึ้น ภายใต้โครงการ “เที่ยวทั่วไทย ไปถึงถิ่น” โดยมีระยะเวลาดำเนินการในช่วงไตรมาส 4 นี้ โดยแนวทางการดำเนินงานมี 2 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.การใช้มาตรการทางภาษี โดยนำมาหักลดหย่อน โดยกำหนด Zone การเดินทางท่องเที่ยว


และ 2.มาตรการด้านการตลาด โดยจัดโปรโมชั่นแพ็กเกจท่องเที่ยวร่วมกับสายการบิน กรมการขนส่งทางบก และนครชัยแอร์ ในพื้นที่ท่องเที่ยวเมืองรองพร้อมขอความร่วมมือให้กรมท่าอากาศยาน ให้ส่วนลดแลนดิ้งฟีกับสายการบิน เพื่อเปิดเส้นทางบินเข้าเมืองท่องเที่ยวในโซน 2 และ 3 นอกจากนี้ยังเตรียมเสนอกรมการขนส่งทางบก ในการนำมาตรการผ่อนผันกฎระเบียบเพื่อนำรถข้ามแดนเพื่อเดินทางท่องเที่ยวรวมทั้งส่งเสริมให้ภาครัฐและเอกชนช่วยกันลงไปจัดประชุมสัมมนาในพื้นที่โซน 2 และ 3 ด้วย