“สมคิด” สั่งก.ท่องเที่ยว-ททท.ตั้งหน่วยงานดูแลทัวร์จีน

“สมคิด” สั่งกระทรวงการท่องเที่ยวฯ-ททท.เร่งจัดตั้งหน่วยงานพิเศษดูแลนักท่องเที่ยวจีน ส่วนเรื่องยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าให้ดูว่าจำเป็นหรือไม่ ด้านรายงานในที่ประชุม ททช.คาดแนวโน้มสถานการณ์ท่องเที่ยวเดือน ก.ค.-ธ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวจีนหดตัวกว่า 6.69 แสนคน สูญรายได้กว่า 3.7 หมื่นล้านบาท

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ททช.) เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ได้สั่งการให้นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เร่งหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งหน่วยงานพิเศษขึ้นมา เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวจีนที่มาเยือนไทย เนื่องจากจีนเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มากทั้งในเชิงจำนวนและการจับจ่ายด้านท่องเที่ยว

ดังนั้นประเทศไทยควรต้องมีบริการที่ดีและพิเศษ เข้าถึงทุกที่และทุกแห่งที่นักท่องเที่ยวไปเพื่อสร้างความพึงพอใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของข้อมูลข่าวสาร การบริการ รวมถึงความปลอดภัยด้วย

“นักท่องเที่ยวจีนมาไทยปีละกว่า 10 ล้านคน อย่างน้อยนักท่องเที่ยวเดินทางไปถึงจุดไหน ควรจะมีการสื่อสารข้อมูลข่าวสารไปถึงเขาผ่านแอปพลิเคชั่น ส่วนกรณีที่เกิดปัญหา ต้องทำให้นักท่องเที่ยวรู้ว่าสามารถแจ้งเหตุตรงไปที่ใคร จึงให้ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯและผู้ว่าการ ททท.ไปหารือกันว่าสามารถทำอะไรเพิ่มได้อีก อย่างเช่น เรื่องการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ให้ไปดูตามความเหมาะสม ว่ามีความจำเป็นหรือไม่ อย่างไร เพื่อให้นักท่องเที่ยวจีนรู้สึกว่าเราเต็มที่ในการดูแล”

นายสมคิดกล่าวด้วยว่า แม้สถานการณ์การท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีแรกนี้จะออกมาดีมากเป็นพิเศษ แต่ในช่วงครึ่งปีหลังเหตุการณ์เรือล่มที่ภูเก็ตอาจทำให้ชะลอตัวเป็นการชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังดูแลสถานการณ์ให้กลับมาปกติ สิ่งแรกที่ให้ความสำคัญคือการจัดระเบียบให้ถูกต้อง โดยทาง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เป็นตัวหลักในการตรวจสอบเรือ อู่ต่อเรือ ร่วมกับนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมเจ้าท่า รวมถึงสิ่งผิดกฎหมายทั้งหลาย ซึ่งไม่เพียงเฉพาะที่ภูเก็ตเท่านั้น แต่ต้องดูทุกส่วนที่เกี่ยวข้องให้เกิดความปลอดภัย

“ส่วนเรื่องนักท่องเที่ยวจีนมาไทยจะลดลงไหม ตอนนี้เห็นแค่สัญญาณเริ่มต้น สิ่งที่เราต้องทำคือทำอย่างเต็มที่ เยียวยาอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ เราจะต้องเตรียมมาตรการต่างๆ และสร้างความมั่นใจให้เสร็จก่อนการประชุมของคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้าการลงทุนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน (JC เศรษฐกิจไทย-จีน) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 23-24 สิงหาคมนี้”

ด้านรายงานจากที่ประชุม ททช.ระบุว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยวเยือนไทยในช่วงเดือนกรกฎาคม-ธันวาคม ปี 2561 เมื่อเปรียบเทียบระหว่างแนวโน้มปัจจุบันเปรียบเทียบกับแนวโน้มปกติ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยว 5.15 ล้านคน หรือลดลง 6.69 แสนคน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้คาดแนวโน้มอยู่ที่ 2.93 แสนล้านบาท หรือลดลง 3.7 หมื่นล้านบาท

เมื่อโฟกัสช่วงเดือนกรกฎาคมปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนมาไทย 9.33 แสนคน ลดลง 0.45% ทำรายได้ 4.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.08% โดยปัจจัยส่วนหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนชะลอตัวและยกเลิกการเดินทางมาจากอุบัติเหตุเรือล่ม ที่ส่งผลให้เกิดความไม่เชื่อมั่นต่อมาตรฐานด้านความปลอดภัยและการท่องเที่ยวทางน้ำของไทย รวมถึงมีกระแสความไม่พอใจต่อเหตุการณ์นี้ในโลกโซเชียล นอกจากนี้นักท่องเที่ยวจีนยังเพิ่มระดับความระมัดระวังต่อพยากรณ์อากาศมากขึ้น โดยเฉพาะคลื่นลมในทะเล รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ อย่างการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวที่เดินทางสู่เกาหลีใต้ ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตจีนได้ประกาศเตือนกิจกรรมทางน้ำและสภาพอากาศในประเทศไทย

ขณะที่สถานการณ์ท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดในเดือนกรกฎาคมนี้ คาดว่าจะมีชาวต่างชาติเที่ยวไทย 3.19 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.62% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว และมีรายได้จากนักท่องเที่ยว 1.65 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.69% หลังจากในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 19.48 ล้านคน เพิ่มขึ้น 12.46% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สร้างรายได้ท่องเที่ยว 1.01 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.88% และเมื่อดูชาติที่มีการขยายตัวของจำนวนและรายได้สูงที่สุดคือจีน

ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวจีนมีการเติบโตด้านจำนวนประมาณ 26% ทุกเดือน ยกเว้นเดือนกรกฎาคมที่ติดลบเล็กน้อย แต่ถือว่าดีกว่าที่คาดไว้ ขณะที่ทางนายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เคยประเมินไว้ว่า นักท่องเที่ยวจีนตลาดเดินทางเป็นหมู่คณะ (กรุ๊ปทัวร์) อาจลดลงประมาณ 20-30% ในช่วงระยะสั้น


ทั้งนี้ ทางนายสมคิด รองนายกฯได้สั่งการให้ ททท.ตั้งหน่วยงานดูแลนักท่องเที่ยวจีน ทั้งเรื่องการให้บริการและอำนวยความสะดวก โดยก่อนหน้านี้ ททท.ได้ร่วมมือกับบริษัท Tencent เจ้าของแพลตฟอร์ม Wechat ในการให้ข้อมูลสื่อสารถึงนักท่องเที่ยวจีนโดยตรงอยู่แล้ว