“เซ็นเทล” ลงทุน 3 ปีกว่าหมื่นล. เปิดรร.ใหม่-รีโนเวตของเก่าอัพค่าห้องพัก

“เซ็นเทล” กางแผนลงทุน 3 ปีธุรกิจโรงแรม เผยทุ่มงบฯกว่า 1.25 หมื่นล้าน ทั้งเปิดโรงแรมใหม่ในไทย-ดูไบ-มัลดีฟส์ พร้อมไล่รีโนเวตโรงแรมเก่า “เซ็นทาราฯ เซ็นทรัลเวิลด์-เซ็นทารา แกรนด์ สมุย” หวังยกระดับภาพลักษณ์-ขึ้นราคาห้องพัก คาดอีก 2 ปีมีห้องพักใหม่เพิ่มอีก 2.5 หมื่นห้อง หนุนการแข่งขันสูง เร่งเครื่องเปิดตลาดต่างประเทศมากขึ้น

นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือเซ็นเทล เปิดเผยถึงแผนการลงทุนในธุรกิจโรงแรมว่า บริษัทวางกรอบเงินลงทุนในธุรกิจโรงแรมในช่วง 3 ปีนับจากนี้ หรือตั้งแต่ปี 2561-2563 ไว้รวม 1.25 หมื่นล้านบาท โดยเงินจำนวนนี้จะนำไปลงทุนในโรงแรมใหม่ของบริษัทเองทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมถึงรีโนเวตโรงแรมเก่าที่เปิดให้บริการมานานแล้ว

จ่อเปิด รร.ใหม่ทั้งใน ปท.-ตปท.

โดยในส่วนการลงทุนโรงแรมใหม่ที่บริษัทลงทุนเองนั้น ในช่วง 3 ปีนี้มีแผนเปิดให้บริการอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย โรงแรมโคซี่ พัทยา มีแผนเปิดให้บริการปี 2562, โรงแรมเซ็นทารา ดูไบ ขนาด 601 ห้อง เป็นโครงการใหญ่ที่บริษัทไปร่วมลงทุนถือหุ้นในสัดส่วน 40% คาดว่าจะเปิดให้บริการปี 2563 โรงแรมเซ็นทารา มัลดีฟส์ จำนวน 2 แห่ง มีขนาดห้องพักรวมกัน 300 ห้องพัก ซึ่งบริษัทได้ถือสิทธิ์การเช่าลากูน (เกาะที่อยู่ใต้น้ำ) ระยะยาว 50 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างขออนุมัติรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) คาดว่าเปิดให้บริการปี 2563 และโรงแรมโคซี่ เชียงใหม่ ขนาด 130 ห้องพัก ปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกแบบและทำสัญญาเช่า ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2563

เทงบฯไล่รีโนเวตโรงแรมเก่า

นอกจากนี้ บริษัทฯยังเตรียมปรับปรุงและพัฒนาโรงแรมเก่าในประเทศไทย รวมกว่า 1,500-1,600 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นปรับปรุงโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ใช้งบฯ ราว 500-600 ล้านบาท ถือเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ เนื่องจากเปิดให้บริการมานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยวางเป้าหมายยกระดับภาพลักษณ์โรงแรม พร้อมทั้งขยับราคาขายห้องพักได้สูงขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 10% จากปัจจุบันขายที่ระดับ 4,000 กว่าบาทต่อห้องต่อคืน โดยคาดว่าไม่น่าส่งผลกระทบต่อรายได้ของโรงแรมมากนัก โดยจะเร่งปรับปรุงในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น) และทยอยทำเป็นชั้น ๆ ไปและปรับปรุงโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ สมุย คาดใช้งบฯลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 1,000 ล้านบาท นับเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่เช่นกัน ทั้งนี้ เพื่อยกระดับสู่ลักเซอรี่แบรนด์ สามารถขายราคาห้องพักได้สูงกว่า 7,000 บาทต่อห้องต่อคืน จากปัจจุบันขายราว 6,700 บาทต่อห้องต่อคืน

นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาเพิ่มเติมว่าจะดำเนินการปรับปรุงโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ หัวหิน ครั้งใหญ่ในปี 2563 หลังจากรีโนเวตโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ สมุย แล้วเสร็จเลยหรือไม่

คาด ต.ค.นี้ “จีน” ไหลกลับ

นายรณชิตกล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจโรงแรมในช่วงครึ่งหลังปีนี้ด้วยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 อาจอ่อนตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากยังอยู่ในช่วงโลว์ซีซั่นต่อเนื่องจากไตรมาส 2 โดยหลังจากเกิดอุบัติเหตุเรือล่มที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่าบริษัทได้รับผลกระทบเล็กน้อย มีลูกค้านักท่องเที่ยวจีนเลื่อนและยกเลิกการเข้าพักไม่มาก

ขณะที่ภาพรวมทุกตลาดในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาลดลงไม่ถึง 1% ทั้งนี้ คาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาเป็นปกติในเดือนตุลาคม ซึ่งตรงกับโกลเด้นวีกช่วงหยุดยาววันชาติจีน และเข้าสู่ไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นพอดี

6 เดือนแรกธุรกิจ รร.โต 6.3%

สำหรับผลประกอบการในรอบ 6 เดือนแรกของปีนี้พบว่า ภาพรวมกำไรสุทธิของบริษัทจากทั้งธุรกิจโรงแรมและอาหารอยู่ที่ 1,254.8 ล้านบาท เติบโต 10.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สูงกว่าอัตราการเติบโตของรายได้ ซึ่งบริษัทมีรายได้ 6 เดือนแรกที่ 10,932 ล้านบาท เติบโต 7.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรายได้ของธุรกิจโรงแรมอยู่ที่ 5,088 ล้านบาท เติบโต 6.3%

ด้านนายกันย์ ศรีสมพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบริหารสินทรัพย์ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา กล่าวเสริมว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ท่องเที่ยวไทยเติบโตดี โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาถึง 19.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 12.5% ส่วนใหญ่ที่เพิ่มขึ้นเป็นชาวเอเชีย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน และการที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยเติบโต ได้ดึงดูดให้นักลงทุนสร้างที่พักเพื่อรองรับดีมานด์นักท่องเที่ยวเข้ามาในไทย

2 ปีห้องพักเพิ่ม 2.5 หมื่นห้อง

“จากการรวบรวมข้อมูลวิจัยตลาดของสำนักต่าง ๆ พบว่าในปีนี้ไปจนถึง 2 ปีข้างหน้า ไทยจะมีห้องพักทั้งโรงแรมและคอนโดมิเนียมเข้ามาในตลาดเพิ่มเติมรวมกันถึง 25,000 ห้องพัก ซึ่งคาดว่าจะทำให้การแข่งขันรุนแรงขึ้นไปอีก” นายกันย์กล่าว


ทั้งนี้ มองว่าทิศทางธุรกิจโรงแรมของบริษัทในช่วง 3-4 ปีนี้ จะเปิดให้บริการในต่างประเทศมากขึ้น จากปัจจุบันมีโรงแรมทั้งแบบลงทุนเองและรับบริหาร รวมทั้งหมด 38 แห่งในไทยและต่างประเทศ คิดเป็นจำนวนห้องพัก 7,293 ห้อง โดยมีแผนขยายโรงแรมใหม่เพิ่มอีก 22 แห่งทั้งในและต่างประเทศ คิดเป็นจำนวนห้องพัก 4,923 ห้อง ส่งผลให้ในปี 2564 บริษัทจะมีโรงแรมในพอร์ตโฟลิโอรวม 60 แห่ง คิดเป็น 12,216 ห้องพัก