“อัคริณโฮเทล” บุกต่างประเทศ ดันแบรนด์ “อคีรา” ยึดทั่วเซาท์อีสต์เอเชีย

“อัคริณ โฮเทล กรุ๊ป” เร่งขยายเครือข่ายโรงแรมในเครือ ดัน “อคีรา” แบรนด์โรงแรมบูติคลักเซอรี่สัญชาติไทยบุกตลาดต่างประเทศ ประเดิมเปิดตลาดที่มาเลเซีย-เวียดนาม-อินโดนีเซีย ตั้งเป้าภายในปี”65 มีโรงแรมกระจายอยู่ทั่วภูมิภาคเซาท์อีสต์เอเชีย พร้อมเปิดตัวคอนเซ็ปต์ใหม่เลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งเป็นแบรนด์แรกของโลก 

นางอัญชลิกา กิจคณากร ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บรัษัท อัคริณ โฮเทล กรุ๊ป จำกัด ผู้ลงทุนและรับบริหารโรงแรมและรีสอร์ตในรูปแบบบูติคลักเซอรี่ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บริษัทมีแผนขยายเครือข่ายโรงแรมในเครืออย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบการลงทุนเอง และรับบริหารภายใต้ 2 แบรนด์หลัก คือ แบรนด์อลีนตา (Aleenta) ซึ่งเป็นแบรนด์รีสอร์ตระดับ 5 ดาว และแบรนด์อคีรา (Akyra) แบรนด์โรงแรมสไตล์บูติคลักเซอรี่

ตั้งเป้าปี”65 ไม่ต่ำกว่า 12 แห่ง 

นางอัญชลิกากล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทได้เปิดให้บริการโรงแรมทั้ง 2 แบรนด์ไปแล้วรวม 6 แห่ง คือ แบรนด์อคีรา 4 แห่ง ได้แก่ 1.อคีรา แมเนอร์ เชียงใหม่ โรงแรมสไตล์บูติคระดับ 5 ดาว ขนาด 30 ห้อง ตั้งอยู่ในย่านนิมมานเหมินท์ 2.อคีรา บีช คลับ ภูเก็ต รีสอร์ตและบีชคลับริมทะเลที่เงียบสงบ เป็นส่วนตัวจำนวน 58 ห้อง ตั้งอยู่บนหาดนาใต้ ตำบลโคกกลอย จังหวัดพังงา 3.อคีรา ทองหล่อ กรุงเทพฯ จำนวน 148 ห้อง และ 4.อคีรา ทัส สุขุมวิท กรุงเทพฯ โรงแรมขนาด 50 ห้อง เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 20 และแบรนด์อลีนตา 2 แห่ง ได้แก่ อลีนตา ภูเก็ต ขนาด 69 ห้องพัก และอลีนตา หัวหิน-ปราณบุรี จำนวน 23 ห้องพัก

นอกจากนี้ยังมีแผนจะเพิ่มอีก 3 แห่ง (ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง) แบ่งเป็นแบรนด์ “อคีรา” จำนวน 2 แห่ง และอลีนตา จำนวน 1 แห่ง คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในปี 2562 จำนวน 1 แห่ง และภายในปี 2563 อีก 2 แห่ง อาทิ โครงการในประเทศมาเลเซีย, เวียดนาม และโครงการในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ กรุงเทพฯ เป็นต้น ซึ่งเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ที่จะขยายเครือข่ายโรงแรมใหม่ประมาณ 1-2 แห่งต่อปี

กระจายทั่วเซาท์อีสต์เอเชีย

“เราตั้งเป้าว่าภายในปี 2565 หรืออีก 4 ปีข้างหน้า อัคริณ โฮเทล กรุ๊ป จะมีโรงแรมในเครือข่ายทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 12 แห่ง ตั้งอยู่ในทำเลที่แตกต่างกัน ที่สำคัญ เรากำลังก้าวออกไปสู่ตลาดต่างประเทศด้วย โดยโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา คือ มาเลเซีย ไฮด์แลนด์, โครงการในเมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม รวมถึงเมืองท่องเที่ยวหลัก ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เมืองบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย, เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม, กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เป็นต้น โดยจะใช้แบรนด์อคีราเป็นหลัก” นางอัญชลิกากล่าว

และว่า จากแผนการรุกดังกล่าวนี้จะทำให้แบรนด์อคีรา ซึ่งเป็นแบรนด์โรงแรมบูติคของไทย กระจายตัวอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคตอันใกล้นี้

ชูนวัตกรรมดึงนักเดินทางยุคใหม่

นางอัญชลิกากล่าวด้วยว่า ในฐานะที่บริษัทเป็นผู้บริหารโรงแรมที่มีความโดดเด่นในเซ็กเมนต์บูติคโฮเทล ขณะนี้บริษัทได้วางแนวทางให้โรงแรมในเครือข่ายก้าวสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน (sustainability) ที่ตระหนักและใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม โดยอคีรา ทัส สุขุมวิท กรุงเทพฯ เป็นโรงแรมแห่งแรกในภูมิภาคเอเชีย ที่เปิดตัวโดยไม่ใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งภายในห้องพัก ร้านอาหาร และบาร์ ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าหมายให้โรงแรมในเครือทั้งหมดเลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งได้ 100% ภายในกลางปี 2562 นี้

“อคีราเป็นโรงแรมแนวคิดใหม่ที่จะสร้างรายได้ โอกาส และนวัตกรรมใหม่ จึงเหมาะอย่างยิ่งที่แบรนด์นี้กำลังจะขยายตัวไปยังต่างประเทศ และก้าวเข้าสู่จุดหมายปลายทางใหม่ ซึ่งมั่นใจว่าความมุ่งมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของเรา ซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากนักเดินทางสมัยใหม่ทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะทำให้แบรนด์อคีรา ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาที่พักที่ทันสมัย มีสไตล์ และมีแนวคิดเกี่ยวกับความยั่งยืน และทำให้เป็นจุดหมายปลายทางเพื่อการท่องเที่ยวและการพักผ่อนที่มีความหมายมากยิ่งขึ้น”

ปั้นธุรกิจ “อาหาร” เสริมพอร์ต

นอกจากในส่วนของธุรกิจโรงแรมแล้ว นางอัญชลิกากล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯได้หันมาเพิ่มโฟกัสธุรกิจในส่วนของร้านอาหาร ภายใต้ชื่อ Rise (ไรซ์) พูลบาร์บนชั้นดาดฟ้า และห้องอาหาร Siam Soul Cafe (สยามโซลคาเฟ่) โดยปัจจุบันได้เปิดให้บริการไปแล้ว ที่โรงแรมอคีรา ทัส สุขุมวิท กรุงเทพฯ และอคีรา แมเนอร์ เชียงใหม่ สำหรับเป็นแหล่งแฮงเอาต์ใหม่สำหรับผู้เข้าพักและนักท่องเที่ยวในพื้นที่ด้วย

นางอัญชลิกากล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ส่วนตัวยังเชื่อมั่นว่าธุรกิจโรงแรมในเซ็กเมนต์ที่เป็นบูติคโฮเทลนั้นยังมีโอกาส และมีช่องว่างในการเติบโตได้อีกมากแม้การแข่งขันของธุรกิจโรงแรมโดยรวมจะสูง เนื่องจากแนวโน้มนักท่องเที่ยวเริ่มมองหาโรงแรมที่พักที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเองเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่ากลุ่มอัคริณ โฮเทล จะยังสามารถเติบโตเฉลี่ยในระดับ 5-10% ต่อปีได้อย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ปี