หวั่น”ทัวร์จีน”ซบยาวยันปีหน้า ชงอัดมาตรการฟรีวีซ่ากระตุ้น

“แอตต้า” ผนึก สทท.ชงอัดมาตรการ “ฟรีวีซ่า” กระตุ้นนักท่องเที่ยวจีนเร่งด่วนยาว 6 เดือน เผยหลังเหตุการณ์เรือล่มภูเก็ต ทุบยอดจองทัวร์-ห้องพักร่วงระนาว ล่าสุดกระแสไข้เลือดออกระบาดซ้ำเติมอีกระลอกใหญ่ ทุบนักท่องเที่ยวจีนวูบหนักช่วงวันหยุดยาวโกลเด้นวีก-ไฮซีซั่นปลายปีนี้ หวั่นลากยาวถึงสงกรานต์”62

นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า จากการมอนิเตอร์ตลาดนักท่องเที่ยวอินบาวนด์ (ขาเข้า) ปัจจุบันสถานการณ์นักท่องเที่ยวตลาดจีนของไทยกำลังประสบปัญหาอย่างหนัก จากประเด็นเรื่องของความปลอดภัย โดยพบว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเริ่มเห็นแนวโน้มที่ลดลง และลดลงมากขึ้นในเดือนกันยายนนี้ และคาดว่าผลกระทบดังกล่าวจะยังส่งผลต่อเนื่องถึงช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่เป็นไฮซีซั่นของธุรกิจท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงเดือนตุลาคม ที่เป็นช่วงวันหยุดวันชาติจีน หรือโกลเด้นวีก

ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศจำนวนมาก และไทยก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายยอดนิยมของคนจีน แต่ถึงปัจจุบันพบว่ายอดจองการเดินทางรวมถึงจองที่พักของกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนมีสัดส่วนเพียงประมาณ 60-70% เท่านั้น

ชงรัฐอนุมัติ “ฟรีวีซ่า” 6 เดือน

นายวิชิตกล่าวว่า จากผลกระทบที่เกิดขึ้น สมาคมได้หารือกับสมาชิกและสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ถึงมาตรการการฟื้นความเชื่อมั่นตลาดนักท่องเที่ยวจีนแบบเร่งด่วน โดยมีสาระสำคัญ 3 ประเด็นหลัก ๆ โดยจะทำหนังสือดังกล่าวเสนอไปยังนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ภายในสัปดาห์นี้ ประกอบด้วย 1.ขอให้รัฐบาลพิจารณานำมาตรการเปิดฟรีวีซ่า (visa free) สำหรับนักท่องเที่ยวจีน เป็นเวลา 6 เดือน

2.เสนอให้รัฐบาลพิจารณาเรื่อง double entry visa หรือขอวีซ่า 1 ครั้งใช้สำหรับเดินทางได้ 2 ครั้ง เพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดการเดินทางซ้ำ (กรณีไม่เห็นด้วยกับมาตรการแรก) และ 3.เสนอให้รัฐบาลปรับลดค่าธรรมเนียมการลงตราวีซ่า ณ สนามบิน จาก 2,000 บาท เหลือ 1,000 บาท (เท่ากับค่าธรรมเนียมวีซ่าทั่วไป)

“ล่าสุด เพิ่งกลับจากการพาสมาชิกสมาคมไปโรดโชว์ใน 4 เมืองของจีน ได้พบปัญหาเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากปัญหาเรื่องความไม่เชื่อมั่นด้านความปลอดภัยแล้ว สื่อในจีนยังรายงานถึงกระแสการระบาดของเชื้อไข้เลือดออกในไทย ซึ่งกลายเป็นปัจจัยลบอีกตัวหนึ่งที่ทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวจีนเริ่มผวา และไม่กล้าเดินทางเข้าไทยในช่วงปลายปีนี้” นายวิชิตกล่าว

หวั่นตลาดวูบยาวถึงปีหน้า

นายวิชิตกล่าวต่อไปว่า ผู้ประกอบการอยากให้รัฐบาลลงมาช่วยเหลือและนำมาตรการด้านวีซ่าออกมาช่วยเรียกความเชื่อมั่นโดยเร่งด่วน เนื่องจากบริษัททัวร์และผู้ให้บริการชาร์เตอร์ไฟลต์ส่วนใหญ่จะวางแผนทำตลาดล่วงหน้า 3-6 เดือนหากไม่เร่งดำเนินการให้ทันช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ สถานการณ์การท่องเที่ยวอาจมีโอกาสซบหนักยาวไปถึงช่วงตรุษจีนและสงกรานต์ปีหน้าด้วย นอกจากนี้ยังพบว่า การแข่งขันของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีมากขึ้น โดยหลาย ๆ ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น, เกาหลี, ไต้หวัน, เวียดนาม, กัมพูชา รวมถึงเมียนมา ที่ล่าสุดเริ่มมีการทำตลาดอย่างเข้มข้น จากเดิมที่คู่แข่งหลักของไทยสำหรับตลาดจีนจะเป็นสิงคโปร์, มาเลเซีย และอินโดนีเซีย

ชี้ยอดจองห้องพักไฮซีซั่นไม่ขยับ

นางเบญจ มอนโกเมอรี่ ประธานฝ่ายต่างประเทศ สมาคมโรงแรมไทย (THA) กล่าวเสริมถึงภาพรวมการจองห้องพักในกลุ่มที่เป็นสมาชิกของสมาคมโรงแรมไทยว่า ช่วงเดือนกราคม-สิงหาคมที่ผ่านมา อัตราการเข้าพักโรงแรมในพื้นที่ภาคใต้ปรับตัวลดลงอย่างชัดเจน ขณะที่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกอยู่ในระดับที่ดี โดยอัตราการเข้าพักโรงแรมในพื้นที่ภาคใต้เฉลี่ยอยู่ที่ 82% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ในระดับ 85.4%

“ส่วนการจองห้องพักล่วงหน้าในช่วงโกลเด้นวีกและช่วงปลายปีนี้ ขณะนี้ถือว่ามาช้ามาก เนื่องจากบริษัททัวร์และนักท่องเที่ยวมีพฤติกรรมการจองระยะสั้นมากขึ้น ขณะที่ตลาดจีนก็ยังมีปัญหาต่อเนื่อง ทำให้ยังไม่สามารถประเมินภาพรวมการจองในช่วงเดือนตุลาคมและช่วงปลายปีนี้ได้ แต่เชื่อว่าคงยังไม่กลับมาแน่นอน” นางเบญจกล่าว

ตัวเลข “ภูเก็ต” ยังไม่ฟื้น

นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า นักท่องเที่ยวจีนยังไม่กลับมา 100% โดยในเดือนกันยายนนี้มีอัตราการจองห้องพักเฉลี่ยที่ 40-50% ถือว่ายังไม่คึกคักนัก ขณะที่เครื่องบินที่ให้บริการแบบชาร์เตอร์ไฟลต์ถูกยกเลิกไปประมาณ 10-19 เที่ยวบิน อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางด้วยตัวเองเริ่มกลับมาในระดับ 70-80% และคาดว่าในช่วงโกลเด้นวีกนี้ยอดจองนักท่องเที่ยวจะกลับมาสู่ภาวะปกติ

เช่นเดียวกับนางกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต ที่ยอมรับว่า นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์ อย่างไรก็ตาม ภูเก็ตยังมีตลาดอื่นเข้ามาทดแทน เช่น อินเดีย ออสเตรเลีย อาเซียน เป็นต้น