“ท่องเที่ยวไทย” โตต่อเนื่อง “โรงแรม-แอร์ไลน์” แข่งเดือด-กำไรร่วง

สภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ยังมีการขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน ที่เริ่มมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นในหลายภูมิภาค รวมถึงการขยายตัวต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยวต่างชาติโต 4%

โดยพบว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยในไตรมาส 2 ยังขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาสแรก โดยมีอัตราการเติบโตทุกเดือน (เม.ย.-มิ.ย.) และเดือนมิถุนายนเป็นเดือนที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเติบโตสูงที่ 11% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า และมียอดนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยรวมจำนวน 8.1 ล้านคน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า และเป็นสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สูงที่สุดในไตรมาส 2 ทำให้ภาพรวมการท่องเที่ยวไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 นี้ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 17.3 ล้านคน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 4% ขณะที่การท่องเที่ยวภายในประเทศนั้นขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยที่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศรวม 72.4 ล้านคน/ครั้ง

โรงแรมเร่งขยายสาขา

รายงานข่าวจากบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ในไตรมาส 2 ปีนี้บริษัทมีรายได้รวม 13,355 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากโรงแรมและบริการที่เกี่ยวข้อง 6,613 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 8% และมีกำไรสุทธิ 2,661 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19%

หากดูเฉพาะตัวเลขครึ่งปีแรก พบว่า มีรายได้รวม 28,734 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยรายได้จากโรงแรมและบริการที่เกี่ยวข้อง 15,002 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% และมีกำไรสุทธิ 5,905 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%

และหากโฟกัสเฉพาะในส่วนของธุรกิจโรงแรมพบว่า สิ้นไตรมาส 2 ที่ผ่านมา กลุ่มไมเนอร์ฯ มีโรงแรมที่ลงทุนเองจำนวน 69 แห่ง และส่วนรับจ้างบริหารอีก 86 แห่งอยู่ใน 24 ประเทศ มีกำไรสุทธิ 3,637 ล้านบาท ลดลง 30%

ขณะที่ในส่วนของบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นั้น รายงานข่าวระบุว่า ภาพรวมการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของธุรกิจโรงแรม ยังคงมีทิศทางการเติบโตที่ดีและสอดรับกับภาพรวมของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย

โดยในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา มีรายได้รวมจากการดำเนินงาน 1,345 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% โดยมีการเติบโตทั้งจากรายได้จากธุรกิจโรงแรม ซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัท และรายได้ค่าเช่าและค่าบริการ โดยมีกำไรสุทธิรวมที่ 57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 239%

สำหรับช่วง 6 เดือนแรกของปี 2560 “ดิ เอราวัณ กรุ๊ป” มีรายได้รวมจากการดำเนินงาน 2,965 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยรายได้จากธุรกิจโรงแรมเพิ่มขึ้น 7% และรายได้ค่าเช่าและค่าบริการเพิ่มขึ้น 4%และมีกำไรสุทธิ 265 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

“แอร์เอเชีย” กำไรลด

ในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2560 นี้ สายการบิน “ไทยแอร์เอเชีย” มีจำนวนผู้โดยสารรวมอยู่ที่ 4.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สูงกว่าปริมาณที่นั่งที่เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปีนี้ของ บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 170.6 ล้านบาท ลดลง 60% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น ถือหุ้น 55% ใน บจ.ไทยแอร์เอเชีย)

ทั้งนี้ มีสาเหตุหลักมาจากต้นทุนน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น และการปรับอัตราจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินสำหรับเส้นทางบินในประเทศเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม ขณะที่ราคาค่าโดยสารเฉลี่ยลดลงจากไตรมาส 2 ปี 2559 ราว 5% จากการแข่งขัน

โดยในไตรมาส 2 นี้ บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น มีรายได้ 8,335.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ/กำไรเบ็ดเสร็จรวมสำหรับงวดในส่วนที่เป็นของผู้เป็นเจ้าของบริษัทใหญ่ 170.6 ล้านบาท ลดลง 60% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ในช่วงครึ่งปีแรกมีรายได้ 17,485.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ/กำไรเบ็ดเสร็จรวมส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 741.0 ล้านบาท ลดลง 48% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

บินไทย-นกแอร์ยังขาดทุนอ่วม

ฟากพี่ใหญ่อย่างสายการบินไทยนั้นรายงานข่าวระบุว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 2 ของปี 2560 ขาดทุนจากการดำเนินงานลดลงจากปีก่อน 13.5% มีรายได้รวมทั้งสิ้น 45,182 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.6%

โดยสาเหตุหลักมาจากรายได้ค่าโดยสารและน้ำหนักส่วนเกินเพิ่มขึ้นจากปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้นถึง 21.9% อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 2 นี้การบินไทยยังคงขาดทุนสุทธิที่ 5,208 ล้านบาท ลดลง 78.7%

สำหรับตัวเลข 6 เดือนแรกพบว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้รวม 94,985 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.9% ขาดทุนสุทธิ 2,039 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 165.9%

ขณะที่สายการบินนกแอร์นั้น จากข้อมูลที่บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ระบุว่า ไตรมาส 2 ปีนี้บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 4,669.87 ล้านบาท มีผลขาดทุนเบ็ดเสร็จรวม 748.97 ล้านบาท แบ่งเป็นผลขาดทุนของบริษัทใหญ่ 649.69 ล้านบาท และจากส่วนที่เป็นของส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม 99.28 ล้านบาท ส่งผลให้ตัวเลขขาดทุนรวมในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 909 ล้านบาท

โดยผลขาดทุนของบริษัทใหญ่ มาจากต้นทุนการดำเนินงานที่สูงกว่ารายได้ค่าโดยสารและรายได้จากการให้บริการ โดยสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันอากาศยาน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดบริษัทสายการบินนกแอร์มีมติอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2560 เพื่อพิจารณาอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 114 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 1,406,250,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 1,292,249,882 บาท โดยการตัดหุ้นที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายของบริษัทจำนวน 114,000,118 หุ้น

จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกนี้ นับเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจสายการบินของไทย…