“เกาะสมุย” เนื้อหอม ทุนเมืองกรุง-ตระกูลดัง ดาหน้าลงทุน “โรงแรม-รีสอร์ต” รับท่องเที่ยวโต “จิราธิวัฒน์”ผุดรีสอร์ตหรู Staff House “แพลทินัม” เปิดโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส บ่อผุดฯ ชน “ไฮแอท รีเจนซี่” ของ”พูลวรลักษณ์”นารายณ์โฮเต็ลส่งโรงแรมราคาประหยัด “หลับดี สมุย”แย่งแชร์ สมาคมโรงแรมไทยฯหวั่นห้องพักโอเวอร์ซัพพลาย สงครามราคาเดือด ชี้ท่องเที่ยวโตต่อเนื่อง
เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ชาวต่างประเทศนิยมเดินทางมาเที่ยวแห่งหนึ่งก็ว่าได้ สำหรับ “เกาะสมุย” และแม้จะมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด ด้วยขนาดพื้นที่เพียงประมาณ 250 ตารางกิโลเมตร แต่มีโรงแรมเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่ไม่ต่ำกว่า 600 แห่ง หรือคิดเป็นจำนวนห้องพักรวมกันมากกว่า 23,000 ห้อง ล่าสุด เกาะสมุยยังมีการลงทุนใหม่ ๆ ทั้งโรงแรมและรีสอร์ตเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
ทุนใหญ่บุกลงทุนเพิ่ม
รายงานข่าวจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้นอกจากภูเก็ตจะเป็นจังหวัดที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในอันดับต้น ๆ ของประเทศแล้ว ล่าสุดจากการสำรวจยังพบว่าอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็เป็นพื้นที่อีกแห่งหนึ่งที่มีการลงทุนหนาแน่น โดยช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-กรกฎาคม) มีโครงการโรงแรม-รีสอร์ต ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ได้รับความเห็นชอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ ประมาณ 11 โครงการ โดยในจำนวนนี้เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในอำเภอเกาะสมุยอำเภอเดียวถึง 9 โครงการ และมีห้องรวมกันประมาณ 800-900 ห้อง
นอกจากนี้หากพิจารณาลงไปในรายละเอียดจะพบว่า การลงทุนในเกาะสมุยดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากส่วนกลาง อาทิ โครงการฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส บ่อผุดฯ โรงแรมขนาด 329 ห้อง ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เดอะ แพลทินัม สมุย จำกัด ในเครือบริษัท เดอะแพทินัม กรุ๊ป ของนายสุรชัย โชติจุฬางกูร เจ้าของโครงการค้าปลีกค้าส่ง เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ โครงการ Staff House อาคารอยู่อาศัยรวม ขนาด 78 ห้อง โดยบริษัท สมุย แหลม สำโรง จำกัด บริษัทในเครือบริษัท วาเคชั่น คลับ จำกัด ของกลุ่มตระกูลจิราธิวัฒน์ ที่ร่วมทุนกับบริษัท ทรานส์บิซิเนส
โครงการโรงแรมหลับดี สมุย โรงแรมราคาประหยัด ขนาด 127 ห้อง ของบริษัท คอมมอนแอเรีย สมุย จำกัด บริษัทในเครือ บริษัท นารายณ์โฮเต็ล เจ้าของโรงแรมนารายณ์ โครงการ โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ เกาะสมุย โรงแรมขนาด 140 ห้อง ของบริษัท สมุย วิพรรธน์ จำกัด ธุรกิจในเครือของกลุ่มตระกูลพูลวรลักษณ์ เจ้าของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และโรงหนัง ที่บริหารโดยนางพิมพ์นิภา พูลวรลักษณ์ และนายวุฒิลักษณ์ พูลวรลักษณ์ โครงการฮอไรซอน สมุย บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา โรงแรมขนาด 88 ห้อง ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ฮอไรซอน สมุย บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา ของกลุ่มตระกูลสิงห์สัจจกุล และ โครงการโรงแรมอวานี สมุย จำนวน 11 ห้อง ของบริษัท สมุย วิลเลจ จำกัด ในเครือบริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล
รายงานข่าวระบุว่า ส่วนอีก 3 โครงการที่จะลงทุนบนเกาะสมุย ประกอบด้วยโครงการชาโต เดอ ละไม อาคารอยู่อาศัยรวมให้เช่า 30 ห้อง โดยนางสาวกุสุมา เอี่ยมปิยะ โครงการสมุย วอเตอร์ เวิล์ด (ไม่ทราบจำนวนห้อง) ของบริษัท วีไอพี ดีเวลลอปเปอร์ เกาะสมุย จำกัด และโรงแรมพรานา รีสอร์ท นันดานา (ส่วนขยาย) ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท คิว ไลฟ์สไตล์ (ไทยแลนด์) จำกัด
“ส่วนอีก 2 โครงการที่เหลือเป็นโครงการที่ลงทุนในอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี เป็นโครงการไอคอน โฮเทล โรงแรมขนาด 211 ห้อง และอำเภอเกาะพะงันอีก 1 โครงการ คือ Style Resort โรงแรม 18 ห้อง” รายงานข่าวระบุ
ห้องพักโอเวอร์ซัพพลาย
นายเรืองนาม ใจกว้าง นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ฝั่งตะวันออก เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันการลงทุนโรงแรมในเกาะสมุยมีเชนขนาดใหญ่เข้ามามากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นระดับ 5 ดาว และมีแบรนด์ใหญ่เข้ามาเกือบ 10 ราย เช่น ไฮแอท, เชอราตัน, ริตซ์-คาร์ลตัน, ฮอลิเดย์ อินน์, คอนราด และโฟร์ซีซั่น เป็นต้น และมีทั้งที่เป็นนักลงทุนท้องถิ่น นักลงทุนจากกรุงเทพฯ นักทุนจากต่างประเทศด้วย เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ และจีน ซึ่งแนวโน้มมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
“ปัจจุบันโรงแรมบนเกาะสมุยนั้นถือว่าเริ่มโอเวอร์ซัพพลาย โดยขณะนี้มีห้องพักรวมประมาณ 30,000 ห้อง ทำให้มีการแข่งขันเรื่องราคาค่อนข้างสูง ราคาห้องพักลดลงมาก ตอนนี้ราคาห้องเฉลี่ยอยู่ที่ 3,000-4,000 บาท/คืน จากเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ราคาห้องอยู่ที่ 5,000-6,000 บาท/คืน และมีบัดเจ็ตโฮเต็ลที่มีราคา 1,000-2,000 บาท/คืน มาแข่งมากขึ้น”
นักท่องเที่ยวทะลุ 3 ล้าน
นางนงเยาว์ จิรันดร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเกาะสมุย เปิดเผยว่า ปีนี้คาดตัวเลขนักท่องเที่ยวโตขึ้นอย่างน้อย 10% หรือทะลุ 3 ล้านคน ส่วนใหญ่ 90% เป็นต่างชาติ ได้แก่ เยอรมัน อังกฤษ ออสเตรเลีย จีน อิสราเอล สเปน และตลาดใหม่อย่างยูเครนและเช็ก และคนไทย 10% จากปี 2560 ที่เกาะสมุยมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 2.7 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มี 2.3 ล้านคน แม้ขณะนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่น แต่นักท่องเที่ยวก็ยังคงเยอะ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่นายธีระชัย ศรีโพธิ์ชัย ประธานหอการค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ตอนนี้สุราษฎร์ธานีเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวอย่างมาก โดยเฉพาะเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า แต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวมากขึ้น โดย 80-90% เป็นชาวต่างชาติ ได้แก่ จีน รัสเซีย สแกนดิเนเวีย และชาวไทย 10-20% นอกจากนี้จากนโยบายของจังหวัดที่ต้องการจะพัฒนาการท่องเที่ยวให้มีความหลากหลาย ทั้งการท่องเที่ยวชุมชน เชิงวัฒนธรรม รวมถึงพัฒนาแอปพลิเคชั่นนำเสนอแหล่งท่องเที่ยว อาหาร คาดว่าอนาคตกลุ่มนักท่องเที่ยวแบ็กแพ็กจะเพิ่มมากขึ้น อาจส่งผลให้เกิดโฮมสเตย์เยอะขึ้น
ขยายถนน-ประปา รับอนาคต
ว่าที่ร้อยตรีกิตติภพ รอดดอน นายอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ปีนี้มีการยื่นขออนุญาตก่อสร้างโรงแรมหลายโครงการ ส่วนมากเป็นเชนขนาดใหญ่ที่ลงทุนในลักษณะเป็นวิลล่า ส่วนผู้ประกอบการที่เป็นทุนท้องถิ่น โรงแรมขนาดเล็ก ก็เริ่มมีการปรับตัวด้วยการดึงเชนเข้ามาบริหาร เพื่อสร้างความรู้จักและความเชื่อถือ
อย่างไรก็ตาม เพื่อรองรับการเติบโตของเกาะสมุยในอนาคต ขณะนี้กรมทางหลวงอยู่ระหว่างการปรับปรุงถนน ขยายช่องทางจราจร ฝังท่อระบายน้ำ และจากการที่เมืองขยายตัวมากขึ้น มีโรงแรมและที่พักใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาก ขณะนี้จังหวัดได้ร่วมกับการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ทำการต่อท่อน้ำจากเขื่อนรัชชประภาผ่านอำเภอขนอมเข้ามาที่เกาะสมุย คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปีนี้