ททท.ผนึกกำลังภาคเอกชน เร่งแก้ปัญหานักท่องเที่ยวจีนหด มุ่งทำตลาดชาร์เตอร์ไฟลต์-ออนไลน์ พร้อมเร่งสร้างมาตรการความปลอดภัย เรียกความเชื่อมั่น หวังดึงตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนทะลุ 10 ล้าน เผย 18 ตุลาฯชง รมว.ท่องเที่ยวฯ ยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- พบรอยร้าวบ่อฝังกลบกากแคดเมียมของ เบาด์ แอนด์ บียอนด์
- หุ้นไทยดิ่งหนัก ตลาดหลักทรัพย์ออก Statement ชี้แจง
นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยหลังการประชุมร่วมกับสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) สมาคมโรงแรมไทย และสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารไม่จำทาง (สสท.) เพื่อเร่งแก้ปัญหานักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเที่ยวไทยลดลง เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า ได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นนักท่องเที่ยวจีน 3 ด้าน ได้แก่ มาตรการด้านการตลาด มาตรการด้านความปลอดภัย และมาตรการด้านอำนวยความสะดวก
สำหรับมาตรการด้านการตลาดจะส่งเสริมการเข้ามาของเครื่องบินเช่าเหมาลำหรือชาร์เตอร์ไฟลต์ ด้วยโปรโมชั่น เน้นเมืองที่มีชาร์เตอร์ไฟลต์อยู่แล้ว แต่ยังไม่มาก เช่น ชิงเต่า เซียะเหมิน ฉงชิ่ง เป็นต้น รวมถึงให้ผู้ประกอบการที่มองเห็นโอกาสเข้ามาเสนอตัวร่วมโครงการสนับสนุนชาร์เตอร์ไฟลต์ ผ่าน ททท.ในประเทศจีน ควบคู่กับทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เพื่อเป็นการเรียกคืนความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวจีนและสร้างความรู้สึกที่ดี โดยจะสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย ด้วยคอนเทนต์ที่ผลิตจาก Key Opinion Leader ของจีน ซึ่งมียอดผู้ติดตามจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ได้เชิญ Key Opinion Leader จากแอปพลิเคชั่นโต่วยิน ที่มีชื่อเสียงมากในจีนเข้ามาที่ไทย 12 พ.ย.นี้ และจะแบ่งแต่ละคนไปตามภาคต่าง ๆ ของเมืองไทยตามแต่สไตล์ที่ถนัด ทั้งด้านอาหาร ด้านผจญภัย และอื่น ๆ
นอกจากนี้ ททท.ยังร่วมกับ Online Travel Agent ของจีน อาทิ Alibaba เจ้าของแพลตฟอร์ม Fliggy ที่จับตลาดเมืองรองและเมืองหลักที่ตรงกับความสนใจของนักท่องเที่ยวจีน จัดเป็นทริปเพื่อเสนอขายต่อนักท่องเที่ยว โดยจัดโปรโมชั่นวันสำคัญอย่างวันที่ 11 เดือน 11 หรือวันคนโสดที่จะลดกระหน่ำทั้งเว็บไซต์เป็นวันเปิดขายใหญ่
“จากผลการวิเคราะห์คาดว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยภายในปีนี้อย่างน้อยที่สุดน่าจะอยู่ที่ 10 ล้านคน และมีแนวโน้มว่าเมื่อถึงช่วงตรุษจีนจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาอยู่ในระดับปกติ”
นายฉัททันต์กล่าวว่า ส่วนเรื่องความปลอดภัย แบ่งเป็นทางบกและทางน้ำ โดยทางบก สสท.จะออกมาตรการความปลอดภัยที่ได้ตกลงกันอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยจะให้แอตต้าร่วมตรวจสอบและนำไปยืนยันเพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับนักท่องเที่ยวจีน ส่วนทางน้ำ ที่มีกฎหมายควบคุมอยู่แล้ว สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จะร่างมาตรการเป็นลายลักษณ์อักษร เช่น กำหนดให้นักท่องเที่ยวจะต้องได้รับการพักผ่อนก่อนลงทะเลอย่างน้อย 12 ชั่วโมง เพื่อลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากความไม่พร้อมของร่างกาย
“ครั้งนี้เท่ากับเราจะให้คำมั่นสัญญากับนักท่องเที่ยวจีนว่าจะได้รับการดูแลให้มีมาตรฐานความปลอดภัย โดยมีภาคเอกชนอย่างแอตต้าร่วมตรวจสอบดูแล ส่วนระยะเวลาที่จะได้เห็นมาตรการด้านความปลอดภัยออกมาเป็นรูปธรรมนั้น ส่วนที่เริ่มได้ก็จะเริ่มทำในทันที แต่บางส่วนอาจจะต้องรอทางภาคเอกชนไปตกลงในรายละเอียดก่อน” นายฉัททันต์กล่าว
ด้านนายวิชิต ประกอบโกศล นายกแอตต้า เปิดเผยเกี่ยวกับมาตรการด้านการอำนวยความสะดวกว่า ในวันที่ 18 ตุลาคมนี้ จะเสนอต่อรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวฯเกี่ยวกับการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน 3 ระดับได้แก่ 1.ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่า 2.ทำวีซ่า 1 ครั้งด้วยค่าธรรมเนียมปกติ แต่สามารถเดินทางเข้าประเทศกี่ครั้งก็ได้ภายในเวลาที่กำหนด 3.ทำวีซ่า 1 ครั้งเข้าประเทศได้ 2 ครั้ง หรือ double entry visa โดยคาดหวังว่าข้อใดข้อหนึ่งจะได้รับการตอบรับ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวจีนต่อไป
