จากหตุการณ์เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม เครื่องบินของสายการบินไทยทีจี 971 เส้นทางซูริก-กรุงเทพฯ มีปัญหาล่าช้ากว่า 2 ชั่วโมง มีปัญหาเรื่องที่นั่งเพราะนักบินที่จะโดยสาร (Deadhead pilot) ยืนยันจะนั่งชั้นเฟิร์สต์คลาส ทั้งที่เที่ยวบินนั้นสำรองที่นั่งชั้นเฟิร์สต์คลาสเต็มสำหรับผู้โดยสารเต็มแล้ว สุดท้ายมี 2 สามี-ภรรยาคู่หนึ่งยอมสละที่นั่งให้ จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกันอย่างกว้างขวาง ทำให้นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม นายสุเมธกล่าวว่า มีความตั้งใจว่าผลสอบข้อเท็จจริงแล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์หลังจากลงนามคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงไปแล้วเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ซึ่งในการสอบสวนเชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น นักบิน พนักงานบนเครื่องบิน พนักงานภาคพื้นซูริก นายสถานี รวมถึงเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์มาให้ข้อมูล โดยในการสอบสวนนั้นจจะดูถึงเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น ระบบความปลอดภัยเกี่ยวกับการบินในเรื่องการพักผ่อนของนักบิน รวมถึงต้องพิจารณาว่าหากการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมาย และสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นสร้างความเสียหาย หรือผลกระทบหรือไม่ เช่นผลกระทบต่อผู้โดยสาร ผลกระทบกับบริษัท แม้บางเรื่องเป็นไปตามกฎหมาย แต่ผิดจริยธรรม และแสดงถึงความไม่เป็นมืออาชีพ ต้องมาดูว่าจะจัดการหรือดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
“เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นที่สนใจของสังคม และกระทบต่อภาพลักษณ์การบินไทย ดังนั้นผลการสอบต้องเร็ว ซึ่งในการสอบสวนต้องให้ความยุติธรรมกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง คงไม่ใช่หาแค่ว่าใครผิด ใครถูก เท่านั้น ต้องพิจารณาผลกระทบที่เกิดขึ้นด้วย และต้องดูถึงการปฏิบัติตนของผู้ที่เกี่ยวข้องว่ามีการปฏิบัติตนเหมาะสมกับความเป็นมืออาชีพ คำนึงถึงความสำคัญของบริษัทมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตัวหรือไม่ เพราะหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เที่ยวบินล่าช้า กระทบต่อผู้โดยสารกว่า 300 คน ทำให้ภาพลักษณ์การบินไทยเสียหาย” นายสุเมธกล่าว
