“สมคิด”อัดแพ็กเกจฟื้นท่องเที่ยว ฟรีวีซ่าVOAพ่วงลดภาษีอัญมณี

“สมคิด” เร่งแพ็กเกจกระตุ้นท่องเที่ยวปลายปี สั่ง ตม.เจรจาคลังเคาะฟรีค่าธรรมเนียม Visa On Arrival พ่วงมาตรการคลังเว้นภาษีอัญมณี หวังดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาทันช่วงปลายปีนี้ ผู้ว่าการ ททท.พร้อมผลักดันเต็มที่ควบคู่เดินหน้าแผนระยะสั้นปลุกตลาดต่อเนื่อง

จากที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยกำลังเผชิญความท้าทายจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้เสนอและขอให้ภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นตลาดเพื่อเรียกความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวจีนให้กลับมาสู่ภาวะปกติ ผ่านทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ใน 2 แนวทางหลัก ประกอบด้วย

1.ยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือ visa on arrival เป็นระยะเวลา 2 เดือน (2,000 บาท) และ 2.มาตรการ double entry visa และลดค่าธรรมเนียม visa on arrival 50% หรือเหลือ 1,000 บาท เป็นระยะเวลา 6 เดือนนั้น

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากที่ได้นัดหารือกับนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เมื่อ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา เกี่ยวกับความคืบหน้ามาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่จะออกมาในช่วงปลายปีนี้

โดยได้กำชับกับผู้ว่าการ ททท.ว่าต้องการให้มีมาตรการออกมาเป็นแพ็กเกจที่ชัดเจนในช่วงปลายปี เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่การท่องเที่ยวของประเทศต่าง ๆ จะทำมาตรการเพื่อแข่งกันดึงดูดนักท่องเที่ยว เราจึงต้องทำออกมาเป็นแพ็กเกจที่ชัดเจนและดึงดูดให้นักท่องเที่ยวประเทศต่าง ๆ เข้ามาเที่ยวประเทศไทย ซึ่งมาตรการเหล่านี้สามารถทำควบคู่ไปกับการสร้างความยั่งยืนให้กับการท่องเที่ยว จึงให้ผู้ว่าการ ททท.ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ทั้งนี้ มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่จะออกมานั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รายงานมาแล้ว แต่อยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดทำรายละเอียด ซึ่งประกอบไปด้วย มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือ visa on arrival ซึ่งกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และกระทรวงการคลังก็ต้องไปหารือในรายละเอียดร่วมกันว่าจะลดค่าธรรมเนียม หรือฟรีค่าธรรมเนียมในระยะเวลาเท่าไหร่

แต่ก็ได้ให้แนวคิดว่าช่วงเวลาที่ควรให้ฟรีค่าธรรมเนียมควรครอบคลุมตั้งแต่ช่วงกลางเดือน พ.ย.ถึงสิ้นปีนี้ เนื่องจากระยะเวลาประมาณหนึ่งเดือนครึ่งที่จะใช้มาตรการนี้จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในไทยได้ โดยหากจะมีการให้ฟรีค่าธรรมเนียมทั้งนักท่องเที่ยวจีนและนักท่องเที่ยวชาติอื่น ๆ ด้วย

ในส่วนของกระทรวงการคลังก็ได้มีการรายงานมาตรการที่สามารถทำได้ เช่น มาตรการลดหย่อนภาษีสินค้าบางรายการที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้ามาจับจ่ายใช้สอย เช่น การลดภาษีสินค้าอัญมณี ซึ่งมาตรการนี้ก็จะรวมมาไว้ในแพ็กเกจ และจะมีการหารือกับผู้ประกอบการร้านค้ารายอื่น ๆ ที่จะเข้าร่วมในมาตรการนี้ด้วย
นอกจากนี้ ได้หารือกับนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานกรรมการ (บอร์ด) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับการทำเส้นทางการบินเชื่อมโยงระหว่างเมืองหลักและเมืองรอง โดยอาจทำในรูปแบบโปรโมชั่นร่วมกับตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศของการบินไทย พ่วงการเดินทางไปสู่เมืองรอง หรือทำในรูปแบบที่แชร์ค่าใช้จ่ายกับภาคธุรกิจในพื้นที่เมืองรอง

ซึ่งได้ประโยชน์จากค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ของนักท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ร้านอาหาร ซึ่งการใช้จ่ายในรูปแบบนี้จะสร้างให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในพื้นที่เมืองรองได้มาก และเป็นการช่วยเหลือเศรษฐกิจท้องถิ่น (local economy) ได้โดยตรง

“เรื่องของการท่องเที่ยวถือว่าต้องดูแลใกล้ชิดเพราะเศรษฐกิจโลกยังผันผวนมีความไม่แน่นอนสูง ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวทั้งปีอาจลดลงก็ต้องเตรียมการในช่วงปลายปี ทำเป็นแคมเปญใหญ่ เสนอออกมาเป็นแพ็กเกจ โดยให้เป็นแนวคิดหน่วยงานที่รับผิดชอบไปทำ และเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเร็วที่สุด” นายสมคิดกล่าว

ด้านนายยุทธศักดิ์ ศุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การหารือครั้งล่าสุดนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะใช้มาตรการตามที่ภาคเอกชนนำเสนอมาหรือไม่ โดย ดร.สมคิด (รองนายกรัฐมนตรี) ให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกลับมาหารือร่วมกันอีกครั้ง โดยเฉพาะกับทาง ตม.ที่ต้องดูแลเรื่องมาตรการด้านความปลอดภัย

ทั้งนี้ ททท.พร้อมที่จะผลักดันและดำเนินการทุกอย่างเพื่อให้มีมาตรการออกมากระตุ้นตลาดให้ได้เร็วที่สุด เพื่อให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนสามารถวางแผนการทำการตลาดได้ทันในปลายปีนี้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ ททท.ก็ยังคงเร่งทำการตลาดตามแผนที่วางไว้ และเร่งทำแผนระยะสั้นตามที่เป็นข่าวไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาฐานตลาดไม่ให้หายไปมากกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้

ขณะที่แหล่งข่าวในธุรกิจท่องเที่ยวรายหนึ่งกล่าวว่า สำหรับเอกชนท่องเที่ยวอยากให้รัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้นออกมาใช้ให้เร็วที่สุด เพื่อให้ทันกับการทำการตลาดในช่วงปลายปีนี้

ไม่ว่าจะเป็นมาตรการฟรีค่าธรรมเนียม visa on arrival หรือ double entry visa หรือการช่วยอุดหนุน (subsidise) บางส่วนให้กับสายการบินชาร์เตอร์ไฟลต์จากจีน ฯลฯ เพราะยิ่งยืดเยื้อจะทำให้สถานการณ์ท่องเที่ยวของไทยเสียหายเพิ่มมากขึ้น