“นกสกู๊ต” ดิ้นแก้ทัวร์จีนวูบ เปิดไฟลต์อินเดีย-เกาหลี

ทัวริสต์จีนลด ทำนกสกู๊ตพลาดเป้า เร่งปรับตัว เพิ่มเส้นทางบินใหม่อินเดีย-เกาหลี มั่นใจมาตรการฟรีวีซ่าช่วยดึงตัวเลขกลับคืน เชื่อปลายปีตลาดโลว์คอสต์ยังเดือด

นายยอดชาย สุทธิธนกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกสกู๊ต เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานการณ์ปี 2561 มีแนวโน้มที่จำนวนผู้โดยสารต่ำกว่าเป้า 1 ล้านคน และรายได้ 1 หมื่นล้านบาทที่ตั้งไว้ และยังไม่สามารถล้างขาดทุนได้ภายในปีนี้ แม้ตัวเลขไตรมาสที่ 1-2 ที่ผ่านมาจะเป็นบวก และมีอัตราผู้โดยสารต่อเที่ยวอยู่ที่ 90% เนื่องจากนกสกู๊ตมีสัดส่วนผู้โดยสารจากจีนกว่า 80% โดยไตรมาส 3- 4 นกสกู๊ตได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง

อย่างไรก็ตาม เพื่อรับมือกับปัญหาดังกล่าว นกสกู๊ตจึงเพิ่มความหลากหลายของเส้นทางบินให้มากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากตลาดจีน อาทิ อินเดียคาดว่าเริ่มเปิดเที่ยวบิน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ได้ในเดือนธันวาคมนี้

ส่วนเที่ยวบินตรงกรุงเทพฯ-โซล ที่ยังไม่สามารถเริ่มบินได้ เนื่องจากติดปัญหารอ FAA ตรวจสอบแก้ไขมาตรฐานความปลอดภัยของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ที่กำหนดตรวจในเดือนมกราคม 2562 ที่จะถึง คาดว่าจะสามารถเริ่มบินได้ภายในไตรมาส 2 ปีหน้า 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และมีแผนจะเพิ่มความถี่ในเส้นทางบินญี่ปุ่นที่ได้เปิดไปแล้ว อาทิ นาริตะ โอซากา

เมื่อถามถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่รัฐบาลมีมาตรการ visa on arrival กับนักท่องเที่ยว 21 ประเทศ รวมทั้งจีน นายยอดชายกล่าวว่า จะส่งผลเป็นบวกแน่นอน และขณะนี้เอเย่นต์ทางฝั่งจีนที่ทำงานกับนกสกู๊ตก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวในการทำตลาดแล้ว เชื่อว่าในช่วงปลายปีไปจนถึงต้นปีหน้า การแข่งขันของตลาดโลว์คอสต์จะยังมีสูง

นายยอดชายกล่าวว่า สำหรับแผนปี 2562 นอกจากการเพิ่มเส้นทางบินและความถี่ในเส้นทางบินเดิมแล้ว นกสกู๊ตยังเตรียมรับเครื่องบินเล็กลำตัวแคบรุ่นโบอิ้ง 737 อีก 4-5 ลำ โดยจะเข้าร่วมฝูงบินภายในไตรมาส 2 โดยการส่งมอบรอบละ 1 ลำ เพื่อร่วมบินในเส้นทางระยะกลาง นอกจากนั้นก็ยังเตรียมเพิ่มเครื่องบินลำตัวกว้างอีกอย่างน้อย 2 ลำ เพื่อเติมเต็มฝูงบินอีก ทำให้รวมแล้วในปีหน้า นกสกู๊ตจะรับฝูงบินใหม่รวม 6-7 ลำ