“เคทีซี” เร่งเพิ่มพันธมิตรทั่วโลก ดึงสิทธิประโยชน์ตอบโจทย์ “นักเดินทาง”

คาดการณ์กันว่า การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวไทยจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบค่าเฉลี่ยโดยรวมของนักท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียหรือทั่วโลก ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมีผลิตภัณฑ์ในการชำระเงินที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งยังเพิ่มประโยชน์และสิทธิพิเศษที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวด้วย 

โดยเฉพาะการใช้บัตรเครดิตชำระเงินกลายเป็นที่แพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงก่อนการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเครื่องบิน โรงแรม แพ็กเกจทัวร์ เป็นต้น

ไม่เพียงเท่านี้ ส่วนใหญ่ยังนิยมใช้ระหว่างเดินทางท่องเที่ยวด้วยเพราะบัตรเครดิตต่าง ๆ มีโปรโมชั่นที่ดี แถมยังได้รับรีวอร์ดมากขึ้นหากใช้จ่ายในต่างประเทศรวมทั้งยังเพิ่มความสะดวกสบายขณะเดินทางท่องเที่ยวอีกด้วย

“พิทยา วรปัญญาสกุล” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี”หรือบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561เคทีซีมียอดรวมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในหมวดท่องเที่ยวประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยหมวดการท่องเที่ยวจัดเป็นหมวดใช้จ่ายที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 2 ของยอดรวมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตทั้งพอร์ต ซึ่งสิ่งที่ทำให้เคทีซีมีความโดดเด่นอย่างมากคือ สิทธิพิเศษที่ครอบคลุมพันธมิตรธุรกิจชั้นนำที่มีความแตกต่างและต่อเนื่อง รวมถึงการบริการข้อมูลการท่องเที่ยวสำหรับสมาชิก หรือ KTC World Travel Service ซึ่งนอกจากให้ข้อมูลด้านการเดินทางท่องเที่ยวแล้ว ยังให้บริการด้านการท่องเที่ยวที่ครบวงจร ทั้งจองตั๋วเดินทาง โรงแรม ห้องอาหาร รถเช้า รวมถึงกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวในรูปแบบต่าง ๆ

“พิทยา” บอกว่า สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนทำให้สมาชิกบัตรเคทีซีได้รับความพึงพอใจ และสร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้บริการทั้งสิ้น

สำหรับในปี 2562 นี้ “เคทีซี” จะยังคงเดินหน้าขยายจำนวนพันธมิตรในหมวดท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อสรรหาสิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่โดนใจสมาชิกมากยิ่งขึ้น และเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และบริการด้านการท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม สายการบิน ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว ฯลฯ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวที่แตกต่างของสมาชิก รวมถึงนำเสนอรูปแบบการท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น อาทิ การท่องเที่ยวที่เหมาะกับช่วงอายุ หรือไลฟ์สไตล์ความชอบที่แตกต่างกัน เช่น การท่องเที่ยวแนวศิลปะและวัฒนธรรม การท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ การท่องเที่ยวแบบคนเดียวการท่องเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน การท่องเที่ยวแบบครอบครัว เป็นต้น

นอกจากนี้ จะมุ่งทำการตลาดท่องเที่ยวกระจายไปสู่ “เมืองรอง” มากขึ้น ตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองของรัฐบาล โดยจะเน้นทำการตลาดพ่วงไปกับเมืองท่องเที่ยวหลัก ซึ่งคาดว่าจะเริ่มคิกออฟได้ในช่วงต้นปี 2562 นี้

“พิทยา” ยังบอกอีกว่า ปัจจุบันเจ้าของโปรดักต์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นสายการบิน โรงแรม หรือสินค้าท่องเที่ยวอื่น ๆ ต่างก็มองหาพาร์ตเนอร์ที่มีฐานสมาชิกจำนวนมาก ซึ่งเคทีซีก็ถือเป็นผู้ให้บริการด้านการเงินรายหนึ่งที่ผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยวให้ความสนใจและยินดีที่จะเข้าร่วมเป็นพันธมิตรด้วย ซึ่งปัจจุบันมีฐานสมาชิกอยู่ที่ประมาณ 2.3 ล้านใบ แอ็กทีฟอยู่กว่า 1.8 ล้านราย ทำให้มีพันธมิตรใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง

ด้าน “เจนจิต ลัดพลี” ผู้อำนวยการการตลาดเพื่อการท่องเที่ยวและสันทนาการ “เคทีซี” ระบุว่า ปัจจุบันสมาชิกบัตรเคทีซีนิยมวางแผนเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง และต้องการข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น เคทีซีจึงร่วมกับพันธมิตรทั้งในระดับภาครัฐ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวต่าง ๆ และองค์กรภาคธุรกิจที่มีผลิตภัณฑ์และบริการด้านการท่องเที่ยวที่หลากหลายทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้สมาชิกมากขึ้น

โดยสิ่งที่เห็นชัดเจนในขณะนี้คือ นักเดินทางท่องเที่ยวมีอายุต่ำลง และมีความสนใจเฉพาะด้านมากขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่านักท่องเที่ยวนิยมเดินทางโดยโลว์คอสต์แอร์ไลน์มากขึ้น ทำให้มีการใช้จ่ายต่อครั้งที่ลดลง แต่มีความถี่มากขึ้นปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนี้ “เจนจิต”บอกว่า นับเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับธุรกิจบัตรเครดิตเช่นกัน

ขณะที่ “ปริม ปัญญาเสรีพร” ผู้อำนวยการ ธุรกิจโรงแรม “เคทีซี” บอกว่าปีนี้เคทีซีมีพันธมิตรโรงแรมครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศกว่า 750 แห่ง เพื่อนำเสนอสิทธิพิเศษที่คุ้มค่าและหลากหลาย ทั้งรับประทานอาหาร เข้าพักรวมถึงการจัดกิจกรรมต่าง ๆ โดยมีตั้งแต่โรงแรมและรีสอร์ตระดับหรูหราไปจนถึงกลุ่มบัดเจต หรือโฮสเทลเล็ก ๆ เก๋ ๆ

ทั้งนี้ ในแผนปลายปีนี้ “เคทีซี” จะเน้นลูกค้าที่นิยมเดินทางคนเดียวและเดินทางเป็นกลุ่มมากขึ้น สำหรับลูกค้าที่เดินทางตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปหรือใช้บริการโรงแรมตั้งแต่ 3 ห้องต่อคืนขึ้นไปกับแคมเปญ “กินพักเที่ยวเปรี้ยวยกแก๊งกับบัตรเครดิตเคทีซี” รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรในท้องถิ่นเพื่อให้ลูกค้าได้พักผ่อนแบบครบวงจรอย่างคุ้มค่าที่สุดอีกด้วย

เรียกว่า เป็นการทำงานแบบโฟกัสกลุ่มสมาชิกรายเซ็กเมนต์เพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของสมาชิกให้ได้มากที่สุดนั่นเอง…