ฟรี VOA ส่งสัญญาณบวก ลุ้นต้นปี”62 อุตฯท่องเที่ยวพลิกฟื้น

หลังจากที่รัฐบาลไทยได้ประกาศใช้มาตรการฟรีค่าธรรมเนียม Visa on arrival หรือวีซ่า ณ ด่านตรวจคนเข้าเมืองอย่างเป็นทางการไปเมื่อ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ล่าสุดนี้มาตรการดังกล่าวเริ่มส่งผลในทิศทางที่เป็นบวกอย่างชัดเจน และเป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยว และเชื่อว่าจะช่วยดันตัวเลขนักท่องเที่ยวกลับคืนสู่ปกติได้ในช่วงมกราคมปีหน้า

“วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ข้อมูลว่า หลังจากเริ่มใช้มาตรการฟรีค่าธรรมเนียม Visa on arrival มาประมาณ 10 วัน พบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นแล้ว 20% โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวที่ได้รับผลประโยชน์โดยตรงอย่างนักท่องเที่ยวจากจีนและอินเดีย

เช่นเดียวกับ “วิชิต ประกอบโกศล” นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) ตัวแทนผู้ประกอบการไทย ที่บอกว่าเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาเป็นเดือนแรกที่เริ่มใช้มาตรการดังกล่าว แม้จะยังมีนักท่องเที่ยวเข้ามาไม่มากนัก แต่ตลาดจีนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักถือว่ามีกระแสตอบรับที่ดี รวมถึงนักท่องเที่ยวจากอินเดีย ยุโรปตะวันออก ไต้หวันเองก็ได้รับอานิสงส์การเพิ่มขึ้นจากมาตรการนี้เช่นกัน

โดยคาดว่าในธันวาคมนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่หายไปจากตลาดจะกลับเข้ามาได้ราว 20% และจะกลับเข้ามาถึงประมาณ 30% ได้ในเดือนมกราคมปีหน้า ซึ่งจะทำให้การเติบโตของนักท่องเที่ยวจีนในไทยกลับมาเป็นปกติที่จำนวนประมาณ 8-9 แสนคนต่อเดือน จากในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาจำนวนนักท่องเที่ยวจีนอยู่ที่ 6-7 แสนคนต่อเดือน ทำให้คาดว่าปีนี้ประเทศไทยจะมีนักท่องเที่ยวจีนจำนวน 10.5 ล้านคน ซึ่งเป็นไปตามเป้าแน่นอน

นอกจากนี้ ยังเชื่อมั่นว่ามาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายที่มีห้างร้านต่าง ๆ ร่วมกันจัดอย่างยิ่งใหญ่อย่าง Amazing Thailand Grand Sale ก็จะช่วยเพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว และทำให้รายได้รวมจากการท่องเที่ยวสำหรับตลาดต่างประเทศปีนี้มีมูลค่ารวมที่ 2 ล้านล้านบาทตามเป้าหมายได้เช่นกัน

“เชื่อว่าในช่วงตรุษจีนปีหน้าตัวเลขนักท่องเที่ยวจะกลับมาในจำนวนเท่าเดิมที่ 1.2 ล้านคน หรือในตัวเลขใกล้เคียง และมีโอกาสที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนในปีหน้าจะมีจำนวนอยู่ที่ 11-11.5 ล้านคน”

ขณะที่มาตรการ Double Entry Visa หรือการขอวีซ่าหนึ่งครั้งสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ 2 ครั้งนั้น “วิชิต” เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวซ้ำของนักท่องเที่ยวกลุ่มไฮเอนด์ อาทิ นักลงทุน นักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ญาติของนักเรียน นักศึกษาจีนที่มาเรียนในไทย ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 5 หมื่นคน เป็นต้น

นอกจากนั้น ยังเห็นว่ามาตรการดังกล่าวนี้ยังเอื้อประโยชน์ให้นักท่องเที่ยวที่มีวีซ่าเดินทางออกจากไทยไปในประเทศใกล้เคียงและกลับมาตามเวลาที่กำหนด จะช่วยเพิ่มนักท่องเที่ยวและทำให้การท่องเที่ยวในเมืองรองคึกคักขึ้นจากการขายคู่กับประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ระนอง-เกาะสอง (พม่า) หาดใหญ่-มาเลเซีย
สอดคล้องกับความเห็นของ “ศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ” นายกสมาคมโรงแรมไทย ที่บอกว่า หลังมาตรการฟรีค่าธรรมเนียม VOA เริ่มใช้งานและเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของไทย โดยรวมตลาดโรงแรมคึกคักขึ้น มีแนวโน้มที่จะดีกว่า 2-3 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สถานการณ์โดยรวมในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ปีหน้าจึงไม่น่ากังวลมากนัก ส่วนจะคึกคักอย่างเห็นได้ชัดเจนส่งผลให้ปีหน้าสามารถแตะตัวเลขเดิมได้หรือไม่นั้น อาจจะต้องรอลุ้นผลตอบรับในเดือนธันวาคมนี้อีกครั้ง

และนอกจากตลาดจีนที่มีกระแสตอบรับที่ค่อนข้างดีแล้วนั้น ตลาดอินเดียถือว่าอยู่ในระดับที่ดีรองลงมา และหากมาตรการ Double Entry Visa มีโอกาสประกาศใช้ต่อก็จะช่วยเพิ่มความคึกคักให้กับช่วงโลว์ซีซั่นได้อีกระดับหนึ่ง แต่อาจจะไม่ได้มากเท่ากับช่วงฟรีค่าธรรมเนียม VOA

ด้าน “ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร” รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บอกว่า จากตัวเลขจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) แสดงให้เห็นว่า นักท่องเที่ยวที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าวเพิ่มขึ้นแล้ว หนุนให้การท่องเที่ยวของไทยยังคงส่งสัญญาณบวกต่อไป ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอนในขณะนี้ ททท.จึงยังไม่มีความจำเป็นต้องปรับเป้าหมายสำหรับปี 2562 แต่อย่างใด

สำหรับในส่วนของกลุ่มกรุ๊ปทัวร์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบนั้น จากตัวเลขของสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) พบว่า หลังจากที่รัฐบาลประกาศใช้มาตรการฟรีค่าธรรมเนียม VOA ตั้งแต่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมากลุ่มกรุ๊ปทัวร์ที่ผ่านสมาคมแอตต้ายังไม่เห็นผลชัดเจนนัก เนื่องจากธรรมชาติของการทำตลาดในกลุ่มกรุ๊ปทัวร์นั้น ต้องใช้เวลากระตุ้นล่วงหน้าสักระยะ จึงไม่เห็นผลทันทีเหมือนกลุ่ม FIT เพราะที่ผ่านมาสายการบินที่ให้บริการชาร์เตอร์ไฟลต์ได้ยกเลิกเที่ยวบินไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะเริ่มค่อย ๆ เห็นผลที่ชัดเจนในเดือนธันวาคมนี้ และมองว่านักท่องเที่ยวในกลุ่มกรุ๊ปทัวร์จะมีแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน