หงษ์ทองเอ็นเตอร์ไพร์ส ขยายฐานธุรกิจ-ลดความเสี่ยงระยะยาว

หลังจากสัดส่วนนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง (FIT) มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กระทั่งครองสัดส่วนในตลาดการท่องเที่ยวมากกว่าครึ่ง ส่งผลให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในภาคส่วนต่าง ๆ ของไทยต้องปรับตัวรับแนวโน้มที่เกิดขึ้นกันอย่างชัดเจน

“ประชาชาติธุรกิจ” ได้สัมภาษณ์ “จิระเดช ห้วยหงษ์ทอง” กรรมการผู้จัดการ บริษัท หงษ์ทองเอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด ผู้ให้บริการเช่ารถบัสนำเที่ยวรายใหญ่ของไทยถึงแนวทางและทิศทางการปรับตัวของธุรกิจไว้ดังนี้

“จิระเดช” บอกว่า ในช่วงที่ผ่านมาเทรนด์การท่องเที่ยวเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมีนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง (FIT) มีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนแซงจำนวนของนักท่องเที่ยวกลุ่มกรุ๊ปทัวร์ไปเรียบร้อยแล้ว จากในอดีตที่เคยอยู่ในสัดส่วน 50 : 50 ปัจจุบันมาเป็น 60 : 40

“แม้ว่านักท่องเที่ยวกลุ่มกรุ๊ปทัวร์จะมีสัดส่วนที่น้อยกว่า และมีแนวโน้มครองสัดส่วนที่น้อยลงเรื่อย ๆ แต่จากตัวเลขการท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มกรุ๊ปทัวร์ก็ไม่ได้ลดปริมาณลงแต่อย่างใด และผู้ประกอบการรถโดยสารนำเที่ยวเองก็ยังสามารถประกอบกิจการรถโดยสารนำเที่ยวซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับนักท่องเที่ยวกลุ่มกรุ๊ปทัวร์ได้อยู่เช่นเดิม”

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการบาลานซ์ความเสี่ยงทางธุรกิจของกลุ่มหงษ์ทองเอ็นเตอร์ไพร์ส “จิระเดช” จึงเริ่มหันมาทำตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่ม FIT มากขึ้น ผ่านการเพิ่มประเภทรถโดยสารนำเที่ยวให้มีขนาดที่หลากหลาย สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่แตกต่าง

โดยล่าสุดได้ใช้ระยะเวลาเตรียมพร้อมถึง 8 เดือน เพื่อคลอดโปรเจ็กต์สำคัญที่มีการลงทุนสูงอย่างสยามฮอป

“จิระเดช” บอกว่า แนวคิดของ “สยามฮอป” นั้นมีที่มาจากโมเดล “big bus” รถนำเที่ยวของฝั่งยุโรป ที่วิ่งให้บริการนักท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญรอบเมือง โดย “หงษ์ทองเอ็นเตอร์ไพร์ส” ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบของโมเดลบางส่วนเพื่อให้เหมาะกับประเทศไทย

โดยทุ่มงบฯลงทุนกว่า 400 ล้านบาท จัดซื้อรถโดยสารนำเที่ยว 45 คันมา Hop-on Hop-off ทั่วสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของกรุงเทพฯ พร้อมติดระบบจีพีเอสและสร้างแอปพลิเคชั่นเฉพาะเพื่อเป็นคู่มือในการแสดงที่ตั้งของรถโดยสาร ให้ข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว ระยะทางและเวลาในการเดินทาง

ทั้งนี้ บริการของ “สยามฮอป” จะครอบคลุมเส้นทางท่องเที่ยวทั้งหมด 4 เส้นทาง ซึ่งจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 มกราคม 2562 นี้ อาทิ เส้นทาง heritage ซึ่งประกอบด้วย พระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว วัดไตรมิตร วัดโพธิ์ วัดสุทัศน์ วัดราชนัดดาวัดเบญจมบพิตร ฯลฯ เส้นทาง CBD ซึ่งประกอบด้วย ถนนสีลม เจริญกรุง เอเชียทีค ตึกคิง เพาเวอร์ มหานคร ฯลฯ

เส้นทาง entertainment บนถนนรัชดาภิเษกที่จะพานักท่องเที่ยวสัมผัสกับชีวิตกลางคืนของกรุงเทพฯ ซึ่งประกอบด้วย แซ็กโซโฟนผับ ตลาดนัดรถไฟรัชดา ตลาดนัดจตุจักร ฯลฯ

เส้นทาง shopping ซึ่งจะประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้าเอ็มบีเค เซ็นทรัลเวิลด์ เอ็มโพเรียม เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และเทอร์มินอล 21 ซึ่งทุกเส้นทางมีจุดเชื่อมต่อกับเส้นทางอื่น ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเปลี่ยนเส้นทางได้ตามต้องการ เป็นต้น

โดยมีบัตร 3 ประเภท ได้แก่ บัตรวันเดียว ผู้ใหญ่ราคา 799 บาท เด็กราคา 400 บาท บัตรสองวัน ผู้ใหญ่ราคา 1,300 บาท เด็กราคา 700 บาท และบัตรสามวัน ผู้ใหญ่ราคา 1,700 บาทเด็กราคา 900 บาท

นอกจากนั้นยังได้เริ่มค้นหาแหล่งท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่อยู่ในความสนใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาทิ ชุมชนเก่าแก่ กลุ่มหัตถศิลป์ พื้นที่ทางศิลปะ ร้านอาหารท้องถิ่น ร้านอาหารมิชลิน เพื่อนำมาเพิ่มเติมในแผนที่ท่องเที่ยวของแอปพลิเคชั่นสยามฮอปต่อไป

“จิระเดช” ยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมา “สยามฮอป” เริ่มทำตลาดแล้วผ่านทางเอเย่นต์จากทั้งในและนอกประเทศ รวมถึงมีการประสานความร่วมมือกับผู้ให้บริการด้านกิจกรรมท่องเที่ยวบนออนไลน์ (online travel agency หรือ OTA) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวกลุ่ม FIT เพื่อนำสยามฮอปไปทำความรู้จักกับลูกค้าทั่วโลก โดยเริ่มเปิดตัวแล้วในบาง OTA ก่อนจะเปิดตัวในทุกเจ้าอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้

ไม่เพียงเท่านี้ “จิระเดช” ยังมองด้วยว่า ในยุคที่ตลาดเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนี้ ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวจะต้องมองการปรับตัวทั้งในระยะสั้นและระยะยาวให้รอบคอบ โดยเฉพาะการเตรียมการรองรับการมาของรถไฟความเร็วสูงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า รวมถึงปรากฏการณ์ของสายการบินต้นทุนต่ำที่เริ่มปักหมุดในเมืองรอง

พร้อมทั้งทิ้งท้ายว่า สำหรับกลุ่ม “หงษ์ทองเอ็นเตอร์ไพร์ส” นั้นกำลังจับตาดูสถานการณ์เหล่านี้มาอย่างต่อเนื่อง และได้เริ่มขยายสาขาไปตามจังหวัดอื่น ๆ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้เริ่มขยับตัวไปบ้างแล้ว เช่น ขอนแก่น อู่ตะเภา ฯลฯ หรือให้บริการระยะสั้นจากสนามบินและสถานีรถไฟที่เป็นเกตเวย์ต่าง ๆ ต่อไป

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat 

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!