“ราชาเฟอร์รี่” ทุ่ม 100 ล้านขยายท่าเรือ

“ราชาเฟอร์รี่” ทุ่มอีก 100 ล. ขยายท่าเรือดอนสักเพิ่ม พร้อมยกระดับการบริการให้ตอบรับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ทั้งเพิ่มความถี่-บรรเทาความแออัดช่วงเร่งด่วน ขยับรุกช่องทางการขายออนไลน์รับเทรนด์ตลาดที่เปลี่ยนไป คาดตัวเลขรายได้ปี”61 ขยายตัวได้ราว 10%

นายอภิชาต ชโยภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนการลงทุนสำหรับปีนี้ว่า ปีนี้บริษัทได้เตรียมขยายการลงทุนเพิ่มเติมอีกกว่า 100 ล้านบาท

สำหรับการพัฒนาปรับปรุงในส่วนของท่าเรือ 4-5 ที่ดอนสัก เพื่อยกระดับการบริการให้ตอบรับลูกค้าได้ดีขึ้น ด้วยความถี่รอบเรือที่มากขึ้น และลดความแออัดในช่วงเวลาเร่งด่วน หลังจากโครงการที่ได้พัฒนาที่สมุยเรียบร้อยแล้ว

โดยการขยายท่าเรือดอนสักเพิ่มจะทำให้ราชาเฟอร์รี่สามารถเพิ่มรอบเรือ ดอนสัก-พะรวย ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เริ่มได้รับความนิยมของต่างชาติมากขึ้น รวมถึงคาดว่าหลังท่าเรือได้รับใบอนุญาตสร้างภายในปีนี้ และแล้วเสร็จในอีก 2 ปีข้างหน้า จะช่วยเพิ่มจำนวนและรายได้ให้ราชาเฟอร์รี่อีก 10%

นอกจากนี้ เพื่อช่วยผลักดันการเติบโตให้กับราชาเฟอร์รี่ระหว่างรอการดำเนินการท่าเรือดอนสักที่ 4-5 สร้างเสร็จ บริษัทยังจะปรับตัวตามตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยการผลักดันการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ ผ่านทั้งเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียของบริษัท พร้อมกับการเปิดให้เอเย่นต์เข้ามาร่วมในระบบการจองผ่านเว็บไซต์ของราชาเฟอร์รี่ รวมถึงเปิดขายผ่านเอเย่นต์ด้านการท่องเที่ยวออนไลน์อีกหลายแห่ง ซึ่งส่งผลชัดเจนในกลุ่มรถขนส่งขนาดเล็กที่ยอดจองย้ายขึ้นไปอยู่บนออนไลน์กว่า 80% แล้ว

นายอภิชาติกล่าวต่อไปอีกว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้ขยายการให้บริการเที่ยวเรือรอบดึก 22.30 น. เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวประเภทเช่าเครื่องบินเหมาลำ ทำให้ผู้โดยสารเดินทางได้เร็วขึ้น ไม่ต้องพักค้าง อีกทั้งยังได้จับมือกับพันธมิตรเปิดบริการรถปรับอากาศเส้นทาง กทม.-เกาะพะงัน พร้อมอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารสามารถจองตั๋วและขึ้นรถได้ที่สำนักงานถนนข้าวสาร หรือโรงแรมเวโรนิก้า และยังมีบริการรถร่วมสาธารณะเพื่อรับผู้โดยสารจากเรือไปยังตัวเมืองอีกด้วย

“ในปี 2561 ที่ผ่านมา เราเน้นลงทุนไปกับการซื้อเรือและซ่อมแซมปรับปรุงเรือใหม่ เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย และการก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ร้านกาแฟ ห้องน้ำ ซึ่งใช้งบฯไปกว่า 180 ล้านบาทซึ่งคาดว่าหลังงบประมาณประจำปีเสร็จสิ้น จะทำให้รายได้ของราชาเฟอร์รี่เติบโตขึ้น ประมาณ 10% จากรายได้ 676 ล้านบาท ในปี 2560” นายอภิชาติกล่าว

นายอภิชาตยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า แม้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนในปีที่ผ่านมาจะน้อยลง แต่ในปี 2562 นี้ ตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง (FIT) จากยุโรปตะวันตก และรัสเซีย กำลังจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง รวมถึงตลาดอินเดียและ CLMV ที่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทาง คือ ช่วงเทศกาลฟูลมูน ซึ่งจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวขึ้นเกาะต่อวันกว่า 1-2 หมื่นคน ราชาเฟอร์รี่จึงให้ความสำคัญกับการมอบบริการโลจิสติกส์ครบวงจรที่เป็นจุดแข็งที่สุดของบริษัท