เอ็กซ์พีเดียเร่งขยายดีมานด์ ดึงทัวริสต์ทั่วโลกสู่เมืองรอง

แฟ้มภาพ
“เอ็กซ์พีเดียฯ” เตรียมบุก “เมืองรอง” ขยายซัพพลายรับนักท่องเที่ยว เผยเมืองหลักใกล้อิ่มตัว เซ็นเอ็มโอยูดึงนักท่องเที่ยวสู่เมืองรอง ปูพื้นฐานด้านดิจิทัลให้ผู้ประกอบการ พร้อมชูจุดแข็งด้านเทคโนโลยี พัฒนานวัตกรรมตอบโจทย์พาร์ตเนอร์-ลูกค้า รับอุตฯท่องเที่ยว-โอทีเอโตต่อเนื่อง

นางสาวพิมพ์ปวีณ์ นพกิจกำจร ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการตลาด เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป เปิดเผยว่า ในปี 2561 อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกโตต่อเนื่อง6% คิดเป็นมูลค่ากว่า 50 ล้านล้านบาท ส่งอานิสงส์ให้เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ปเติบโตได้ดีในระดับ 2 หลักเช่นกัน ในปี 2562 นี้เอ็กซ์พีเดียฯจึงได้เตรียมขยายฐานซัพพลายในไทยออกไปสู่ “เมืองรอง” อย่างเต็มที่ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ยังเติบโต หลังจากซัพพลายในเมืองหลักของไทยเริ่มอิ่มตัว พร้อมทั้งช่วยกระจายรายได้ทางการท่องเที่ยวออกไปสู่พื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศด้วย

นางสาวพิมพ์ปวีณ์กล่าวว่า ในช่วงเวลา 10 ปีที่เอ็กซ์พีเดียฯทำธุรกิจในประเทศไทย มีการเติบโตกว่า 24 เท่า ทำให้บริษัทมีศักยภาพในตลาดเพียงพอที่จะช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวของไทย จึงได้เซ็นบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยเอ็กซ์พีเดียฯจะใช้ประโยชน์จากจำนวนหน้าเว็บไซต์กว่า 200 เว็บไซต์ 35 ภาษา 75 ประเทศทั่วโลกในการดึงนักท่องเที่ยวเข้าสู่เมืองรอง ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพด้านดิจิทัล พร้อมทั้งแบ่งปันข้อมูลทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการในเมืองรอง และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการปรับนโยบายทำธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ปัจจุบันเอ็กซ์พีเดีย ไทยแลนด์ มีจำนวนพาร์ตเนอร์โรงแรมและที่พักในไทยกว่า 21,000 แห่ง แบ่งเป็นในเมืองหลักที่ได้รับความนิยมสูงอย่างกรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา สมุย หัวหิน ประมาณ 50% และเป็นที่พักในเมืองรองอีก 50%

ส่วนตลาดจีนนั้นเอ็กซ์พีเดียฯไม่มีหน้าเว็บไซต์ในพื้นที่ แต่ยอดจองจากพาร์ตเนอร์ถือว่าอยู่ในอันดับต้น ๆ เช่นกันและในช่วงตรุษจีนที่จะถึงนี้จากตัวเลขของพาร์ตเนอร์เอ็กซ์พีเดียฯในจีน แสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวจีนยังกลับมาอย่างเหนียวแน่น ขณะนี้โรงแรมส่วนใหญ่มียอดจองเกือบเต็มแล้ว

อย่างไรก็ตาม นอกจากเรื่องการขยายซัพพลายแล้ว ยังมองเห็นเทรนด์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งนวัตกรรมที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และการดึงดูดความสนใจของลูกค้าบนโลกออนไลน์ที่ร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เอ็กซ์พีเดียฯจึงมุ่งพัฒนานวัตกรรมเพื่อพาร์ตเนอร์และลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

โดยที่ผ่านมาเอ็กซ์พีเดียฯได้ปรับกรอบการทำงานในการพัฒนานวัตกรรมให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยศึกษารูปแบบการทำงานของพาร์ตเนอร์ในพื้นที่จริง ผลิตงานต้นแบบสำหรับการทดลองใช้ก่อนและนำกลับมาพัฒนาอีกครั้ง หลังจากพบว่าต้นแบบมีประโยชน์ต่อพาร์ตเนอร์และลูกค้าจริง

โดยนวัตกรรมในกรอบการทำงานดังกล่าวที่ประสบความสำเร็จและเริ่มใช้จริงแล้ว ได้แก่ “my list” ระบบเก็บรายการที่ลูกค้าชื่นชอบไว้ในลิสต์พร้อมข้อมูลอัพเดต และ “real time feedback” ระบบรับความคิดเห็นของลูกค้าที่กำลังเข้าพักทันทีหลังเช็กอิน เพื่อช่วยให้โรงแรมรับรู้ฟีดแบ็กของลูกค้าในทันที เพื่อลดคอมเมนต์ด้านไม่ดีหลังจบโปรแกรมของลูกค้า นอกจากนั้น ยังได้พัฒนาโปรแกรมโต้ตอบอัตโนมัติ (chat bot) ทั้งในเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียอื่น ๆ อีกด้วย