แม้ว่าประเทศไทยกำลังเดินหน้าสู่การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 24 มีนาคมนี้ แต่ดูเหมือนว่าหลายฝ่ายยังคงลุ้นกันสุดฤทธิ์ว่า หลังจากเลือกตั้งแล้วสถานการณ์ในภาพรวมของไทยจะเป็นอย่างไร
เช่นเดียวกับคนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยที่ไม่มีใครกล้าที่จะคาดเดาหรือฟันธงอนาคตของประเทศ และนโยบายด้านการท่องเที่ยวของประเทศหลังเลือกตั้งได้ โดยบางส่วนยังหวั่นใจว่าจะเกิดความวุ่นวายและเกิดนโยบายที่ไม่ต่อเนื่อง ขณะนี้อีกบางส่วนก็ภาวนาให้ทุกอย่างสงบ ราบรื่น ทุกฝ่ายสามารถจับมือกันตั้งรัฐบาลได้ และพร้อมนำพาประเทศเดินไปข้างหน้า
วอนทุกฝ่ายจับมือเดินหน้า
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- ราคาทองวันนี้ (29 มี.ค. 67) พุ่งกระฉูด 600 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 39,050 บาท
- ยื่นภาษีปี 2567 หมดเขตเมื่อไหร่ ยื่นไม่ทันต้องทำอย่างไร
“ศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ” นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) มองว่า ในกรณีที่สถานการณ์หลังการเลือกตั้งเป็นปกติ พรรคการเมืองสามารถจับมือกัน
จัดตั้งรัฐบาลร่วมกันได้โดยไร้ปัญหาเชื่อว่าภาพรวมการท่องเที่ยวไทยจะยังคงดำเนินไปตามปกติรวมถึงจะทำให้ภาพรวมประเทศมีความมั่นคง และได้รับความไว้วางใจจากนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น แต่หากสถานการณ์กลับตาลปัตรและมีความวุ่นวายเกิดขึ้นย่อมจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน
“ส่วนตัวเชื่อว่าประเทศไทยมีบทเรียนจากอดีตที่เห็นแล้วว่าสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจอย่างรุนแรงขนาดไหน จึงหวังว่าจะไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้นอีกและเชื่อว่าทุกฝ่ายจะช่วยกัน เพื่อสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ดีขึ้นต่อไป”
มั่นใจไม่กระทบกลุ่ม “ไมซ์”
ด้าน “จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา” ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (ทีเส็บ) กล่าวว่าถ้าหากไม่มีการเหตุการณ์ความไม่สงบ การเลือกตั้งทั่วไปที่เลื่อนออกไปอยู่ในเดือนมีนาคม จะไม่กระทบต่อตลาดนักเดินทางต่างชาติไมซ์แต่อย่างใด เนื่องจากนักเดินทางไมซ์ส่วนมากมักโฟกัสไปที่สภาวะเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลโดยตรงต่อเศรษฐกิจแต่ละประเทศมากกว่า
สอดคล้องกับ “บุญทวี จันทสุวรรณ” นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจการจัดอินเซนทีฟจากฝั่งยุโรปและอเมริกา สาขาประเทศไทย (SITE) ที่มองว่า ส่วนตัวไม่มีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์หลังเลือกตั้งแต่อย่างใด เชื่อว่าถ้าหากไม่เกิดความวุ่นวายทางการเมืองที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความปลอดภัย นักท่องเที่ยวกลุ่มอินเซนทีฟก็จะยังคงเดินทางตามปกติ
“ส่วนตัวผมให้ความสำคัญกับการส่งต่อนโยบายระหว่างรัฐบาลปัจจุบันกับรัฐบาลหลังการเลือกตั้งมากกว่า เนื่องจากธุรกิจในกลุ่มไมซ์และอินเซนทีฟยังคงใหม่ในประเทศไทย จำเป็นที่จะต้องได้รับการสนับสนุนนโยบายที่ต่อเนื่อง ถ้าขาดช่วงไปก็อาจเท่ากับต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง”
แนะดึงเชื่อมั่นยุโรป-อเมริกา
เช่นเดียวกับ “โชติช่วง ศูรางกูร” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท N.S. Travel & Tour จำกัด ผู้บริหารหนุ่มสาวทัวร์ อธิบายว่า ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์จากภูมิภาคยุโรปและอเมริกาเหนือมีการเติบโตที่ต่ำ ปัจจัยสำคัญเกี่ยวข้องกับความเชื่อมั่นทางการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งภูมิภาคดังกล่าวมักจะจัดประเทศที่ไม่ได้ปกครองในระบอบประชาธิปไตยเต็มระบบเป็นประเทศที่อยู่ในกลุ่มสุ่มเสี่ยง
ปัจจัยดังกล่าวนี้ทำให้บริษัทประกันการเดินทางไม่รับรองการเดินทาง ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวกลุ่มกรุ๊ปทัวร์จากทั้งสองภูมิภาค และส่งผลกระทบในทางที่ไม่ค่อยดีนักกับผู้ประกอบการทัวร์ที่ทำตลาดภูมิภาคดังกล่าวด้วย
ดังนั้น จึงเชื่อว่าหลังจากประเทศไทยมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น พร้อมทั้งได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในปีนี้ จะช่วยให้นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรปและอเมริกาเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มกรุ๊ปทัวร์ที่อั้นมานานกลับเข้ามาท่องเที่ยวในไทยอย่างล้นหลาม พร้อมส่งอานิสงส์ให้ตลาดการท่องเที่ยวไทยคึกคักขึ้นและช่วยผู้ประกอบการทัวร์อีกแรงหนึ่ง