อพท.ต่อยอด”CBT Thailand” ตอบโจทย์ความยั่งยืน-ชุมชน

ทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษอย่างยั่งยืน (อพท.)
อพท. เร่งต่อยอด “CBT Thailand” เป็นต้นแบบท่องเที่ยวยั่งยืน พร้อมสร้างขัดความสามารถการแข่งขันให้ชุมชน ตั้งเป้าปีนี้ยกระดับท่องเที่ยวอีก 40 ชุมชนทั่วประเทศ ล่าสุดเตรียมพร้อมโยกหน่วยงานไปสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษอย่างยั่งยืน (อพท.) เปิดเผยว่า อพท.ได้วางแผนพันธกิจสำหรับ 4 ปีข้างหน้า (2562-2565) โดยให้ความสำคัญกับพันธกิจในการสร้าง “CBT Thailand” แบรนด์ที่จะเป็น “ต้นแบบการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” ตามเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (GSTC) และเกณฑ์การท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืน (CBT Thailand) พร้อมยกระดับความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวให้กับชุมชน เพื่อให้ชุมชนมีความพร้อมที่จะเข้าสู่ตลาดการท่องเที่ยว และได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวระดับสากล โดยตั้งเป้าปีนี้ 40 ชุมชนทั่วประเทศ โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ในปี 2562 จะพัฒนาและสร้างโลโก้ของ CBT Thailand ระยะที่ 2 ภายในปี 2563-2564 จะเดินหน้าสร้างแบรนด์ย่อยและสื่อสารผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย พัฒนาฐานข้อมูลบนออนไลน์แพลตฟอร์ม และระยะที่ 3 ปี 2565-2566 ขยายการรับรู้ออกไปให้กว้างขึ้น และต่อยอดสู่การเสนอสินค้าวิถีชุมชนผ่าน CBT Festival

นอกจากนี้ การพัฒนาการบริหารจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนให้ผ่านมาตรฐาน CBT Thailand ซึ่งเป็นข้อที่ 2
ของพันธกิจนั้น อพท.ยังมีพันธกิจอีก 3 เรื่อง ได้แก่ 1.การพัฒนาพื้นที่ต้นแบบเพื่อสร้างการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนตามเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก จำนวน 6 แห่งได้แก่ ชุมชนนาเกลือ ชุมชนเกาะหมาก ชุมชนเมืองเก่า ชุมชนเชียงคาน ชุมชนในเวียง และชุมชนอู่ทอง รวมถึงการจัดทำพื้นที่พัฒนาพิเศษอื่น ๆ อาทิ แผนพัฒนาที่ดินพิเศษพระนครศรีอยุธยา Thailand Riviera เส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงสี่เหลี่ยมวัฒนธรรมล้านช้าง เส้นทางมรดกโลกด้านวัฒนธรรม เส้นทางการท่องเที่ยวเชื่อมโยงอีอีซี ฯลฯ

2.ส่งเสริมการท่องเที่ยวสร้างสรรค์ภายใต้แนวคิดเมืองสร้างสรรค์ (Creativity City) นำร่อง 3 แห่งในพื้นที่พิเศษอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย-ศรีสัชนาลัย-กำแพงเพชร พื้นที่เมืองเก่าน่าน และพื้นที่พิเศษเมืองโบราณอู่ทอง

และ 3.บูรณาการร่วมกับทุกภาคีเพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการบริหารจัดการการท่องเที่ยว เสริมสร้างและกระจายรายได้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งวางเป้าไว้ว่าในปี 2562 จะดันรายได้รวม 14 ชุมชนพิเศษเดิมและเพิ่ม 8 ชุมชนใหม่ให้เพิ่มขึ้น 20% และเพิ่มความอยู่ดีมีสุขให้ถึง 85%

นายทวีพงษ์ยังได้กล่าวถึงเป้าหมายและความท้าทายตลอดวาระการทำงานในอีก 4 ปีข้างหน้าว่า จะมุ่งสร้างต้นแบบทางการท่องเที่ยวทั้งในมิติของความยั่งยืนและมิติของชุมชน เพื่อให้สามารถนำชุมชนต้นแบบไปขยายผลต่อไปทั่วประเทศได้ และอีกความท้าทายคือ การย้ายสังกัดไปอยู่กับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ แต่เชื่อว่าจะส่งผลในทางบวก และทำให้รูปแบบการทำงานของ อพท.ชัดเจนมากยิ่งขึ้น


“เมื่อ อพท.ไปอยู่ในสังกัด กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะเป็นการเติม valuechain ของการท่องเที่ยวได้มากยิ่งขึ้นโดย อพท.จะยังคงทำหน้าที่สร้างและพัฒนาชุมชนต้นแบบด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนให้มีมาตรฐานเพื่อส่งต่อไปให้กระทรวงและ ททท.ทำการตลาดต่อไป” นายทวีพงษ์กล่าว