หลังการปิดตำนาน 49 ปี “โรงแรมดุสิตธานี” บนหัวถนนสีลม เมื่อ 5 มกราคม2562 ที่ผ่านมา เพื่อดำเนินการขึ้นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ประกอบด้วย“โรงแรม-อาคารสำนักงาน-ที่พักอาศัย-พื้นที่ค้าปลีก” ที่เป็นการร่วมลงทุนกับกลุ่มซีพีเอ็น โดยจะยังคงรักษาจุดเด่นของดุสิตธานี ของโรงแรมที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทยไว้
แต่ช่วงเวลา 4 ปีของการสร้างตำนานบทใหม่ ของดุสิตธานี เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนกับพอร์ตรายได้ของบริษัท รวมถึงการดูแลพนักงานจำนวนมากที่ไม่มีงานทำในช่วงเวลาดังกล่าว จึงนำมาซึ่งเบื้องหลังการต่อยอดขยายธุรกิจใหม่ที่เกิดขึ้นมากมายในช่วงปีที่ผ่านมา
- ขาลงยางพารา ราคาร่วงฉุดไม่อยู่ 10 วันราคาตกลงไปแล้ว 7 บาทกว่า
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
โดยเฉพาะการเข้าสู่”ธุรกิจอาหาร”แบบครบวงจร เพื่อสร้างรายได้และสร้างงานไปพร้อมกัน
ดังนั้นในปีที่ผ่านมาจึงเห็นความเคลื่อนไหวของ บมจ.ดุสิตธานี ในการเดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจอาหารอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การตั้งบริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ จำกัด และเข้าลงทุนซื้อหุ้น24.9% ในบริษัท “เอ็นอาร์ อินสแตนซ์ โปรดิวซ์” (NRIP) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกอาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงรส ซอส รวมถึงเครื่องดื่มและน้ำผลไม้
พร้อมกับร่วมทุนตั้ง”บริษัท ดุสิต กูร์เมต์ จำกัด” เพื่อดูแลการขายและการตลาดผลิตภัณฑ์อาหารทั้งตลาดในและต่างประเทศ
และปลายปี2561 ที่ผ่านมาก็ได้ตั้งบริษัท “ดุสิต ฮอสปิตัสลิตี้ เซอร์วิสเซส” เพื่อให้บริการต่างๆ เช่น รับจัดเลี้ยงนอกสถานที่ บริการรับทำความสะอาดโรงแรม ร้านอาหาร รวมถึงให้คำปรึกษาวางแผนการเปิดโรงแรม (pre-opening) โดยดึงศักยภาพและบุคลากรที่มีประสบการณ์ของดุสิตธานี มาเป็นผู้ให้บริการกับโรงแรมต่างๆ ภายใต้มาตรฐานของดุสิตธานี
นอกจาการสร้างรายได้ สร้างงานให้บุคลากรของดุสิตธานีที่รอเวลาการสร้างตำนานบทใหม่ ขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆทางธุรกิจของดุสิตธานี ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด
ล่าสุดก็ได้ขยายเข้าสู่ธุรกิจ”เคเทอริ่ง” เต็มตัว โดยเมื่อปลายเดือนมราคม2562 ดุสิตธานีได้เข้าซื้อหุ้น 51% ในบริษัท เอ็บเพอคิวร์ เคเทอริ่ง จำกัด (ECC) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอาหารและเครื่องดื่มให้กับโรงเรียนนานาชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“ศุภจี สุธรรมพันธุ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายชัดเจนที่จะสร้างการเติบโตในธุรกิจอาหาร และธุรกิจเคเทอริ่ง ซึ่งถือเป็นโอกาสทางธุรกิจใหม่ของกลุ่มดุสิต และในการเข้าลงทุนในเอ็บเพอคิวร์ ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจให้บริการอาหารและเครื่องดื่มให้กับโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย ก็เป็นอีกโอกาสสำคัญในการขยายธุรกิจด้านอาหารให้สามารถเติบโตเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ
นี่ถือเป็นเกมธุรกิจใหม่ของ”ดุสิตธานี” ที่ในอดีตทุกคนจะมีภาพจำของธุรกิจโรงแรม หรือธุรกิจอาหารก็แค่ร้านอาหารในโรงแรม และโรงเรียนสอนทำอาหาร”เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต” แต่ภาพจิ๊กซอว์ต่างๆที่กำลังเกิดขึ้น เป็นการปูทางสู่ผู้ประกอบการ”ธุรกิจอาหาร”แบบครบวงจรของดุสิตธานี