ธุรกิจท่องเที่ยว

“ททท.” บูมตลาดอาเซียน ชดเชยรายได้ “ยุโรป-อเมริกา” ทรงตัว

แม้ว่าในปี 2561 ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจีนจะเป็นกลุ่มที่มีมากที่สุดด้วยจำนวน 10.53 ล้านคน ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 7.44% และเป็นตลาดที่สร้างรายได้ให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่มูลค่า 5.8 แสนล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 11.52% คิดเป็นมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 1 เช่นกัน

แต่ตลาดที่น่าจับตามองและมีทิศทางการขยายตัวที่สูง และมีจำนวนนักท่องเที่ยวไม่แพ้ตลาดจีน คือ ตลาดอาเซียน (9 ประเทศ) มีจำนวนนักท่องเที่ยวรวมที่ 10.28 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10.31% สร้างรายได้คิดเป็นมูลค่ารวม 3.31 แสนล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 11.01%

ขณะที่ตลาดในโซนยุโรปจำนวนนักท่องเที่ยวขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตรา 3.86% รายได้รวมเพิ่มขึ้น 8.20% อเมริกาจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 3.82% รายได้รวมเพิ่มขึ้น 10.27%

เร่งบูมตลาดอาเซียน

“ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ” รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดอาเซียนเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการขยายตัวที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น ๆ โดยในปีที่ผ่านมาประเทศในภูมิภาคอาเซียนมีจำนวนนักท่องเที่ยวรวมกว่า 10 ล้านบาทใกล้เคียงกับตลาดจีน

โจทย์สำคัญสำหรับตลาดอาเซียน คือ เพิ่มค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริปให้มีปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากหากเทียบกับตลาดจีนแล้วตลาดอาเซียนยังสร้างรายได้คิดเป็นมูลค่าที่ต่ำกว่าอยู่พอสมควรทีเดียว

ดังนั้น นอกจากแผนการกระตุ้นตลาดในลักษณะ B2B แล้ว ในปีนี้ ททท.ยังเน้นทำตลาดในรูปแบบ B2C เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มนักเดินทางท่องเที่ยวโดยตรงอีกทางหนึ่งด้วย พร้อมทั้งนำเสนอกิจกรรมทางการท่องเที่ยวใหม่ ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น

“ธเนศวร์” บอกด้วยว่า ข้อดีของตลาดอาเซียน คือ เป็นตลาดระยะใกล้ นักท่องเที่ยวเดินทางได้ง่ายและสามารถเดินทางได้ในปริมาณที่ถี่ขึ้น ที่สำคัญเราสามารถทำการตลาดในรูปแบบที่เข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวโดยตรงได้ด้วย

เช่น จัดงานแทรเวลแฟร์โดยเชิญชวนเอกชนท่องเที่ยวไปร่วมออกงานแฟร์ร่วมกับทาง ททท.ด้วย ซึ่งผ่านมาได้จัดไปแล้วที่กรุงฮานอย เวียดนาม และล่าสุดคือที่เมืองย่างกุ้ง เมียนมา และต่อไปคาดว่าจะเป็นที่กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย และประเทศอื่น ๆ ตามลำดับ

คาดรายได้ยุโรป-อเมริกาทรงตัว

“ธเนศวร์” บอกด้วยว่า แนวโน้มหนึ่งเริ่มเห็นค่อนข้างชัดในปีนี้ คือ ตลาดระยะไกล ทั้งยุโรป อเมริกา น่าจะอยู่ในภาวะทรงตัว หรือเติบโตได้ในอัตราที่ราว 3-6% เนื่องจากกลุ่มประเทศในโซนดังกล่าวต้องเผชิญกับภาวะความท้าทายเรื่องเบร็กซิต รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองในหลาย ๆ ประเทศ

“เป้าหมายเราในภาพรวมนั้น เราต้องกระตุ้นการเติบโตในทุกตลาดอยู่แล้ว แต่ตลาดที่ต้องเร่งให้มากขึ้นคือตลาดระยะใกล้ โดยเฉพาะในประเทศกลุ่มอาเซียน เพื่อสร้างรายได้มาชดเชยภูมิภาคที่มีแนวโน้มทรงตัว หรือขยายตัวไม่สูงมากนัก ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทั้งในเชิงของจำนวนนักท่องเที่ยว และรายได้รวมของปีนี้ที่วางไว้ที่ 3.4 ล้านล้านบาทได้”

ดึงกลุ่มเดินทางครั้งแรก สอดรับกับ “กุลปราโมทย์ วรรณะเลิศ”ผู้อำนวยการกองตลาดอาเซียน เอเชียใต้ และเอเชีย-แปซิฟิกใต้ ททท.ที่บอกว่า ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวกลุ่มอาเซียนส่วนใหญ่ยังรู้จักเมืองไทยแค่กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ เป็นหลัก ในปีนี้ ททท.จึงพยายามส่งเสริมเมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ ให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเขาใหญ่ (นครราชสีมา) หัวหิน (ประจวบคีรีขันธ์) ฯลฯ

ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายที่จะโฟกัส คือ คนรุ่นใหม่วัยหนุ่มสาวที่ทำงานแล้ว และกลุ่มครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวหน้าใหม่ (first visit) เนื่องจากนักท่องเที่ยวอาเซียนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเดินทางซ้ำ หรือ revisit สูงถึงกว่า 80%

“กุลปราโมทย์” ยังบอกด้วยว่า สำหรับตลาดอาเซียนนั้น มาเลเซียถือเป็นตลาดที่มาแรงและอยู่ในแนวโน้มที่ดีมาก โดยในปี 2561 ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวมาเลเซียเดินทางเข้ามาถึงกว่า 4 ล้านคน

ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึงราว 17.26% สร้างรายได้ 1.14 แสนล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 20.42%

นอกจากนี้ ในภูมิภาคอาเซียนยังมีอีกหลายตลาดที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเกิน 1 ล้านคน ได้แก่ สปป.ลาว จำนวนนักท่องเที่ยว 1.75 ล้านคน สร้างรายได้ 5.3 หมื่นล้านบาท สิงคโปร์จำนวนนักท่องเที่ยว 1.06 ล้านคน สร้างรายได้ 4.3 หมื่นล้านบาท และเวียดนามจำนวนนักท่องเที่ยว 1.02 ล้านคน สร้างรายได้ 3 หมื่นล้านบาท ขณะที่กัมพูชาก็มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าใกล้หลัก 1 ล้านคนแล้วเช่นกัน

เจรจา “แอร์ไลน์” เพิ่มเที่ยวบิน

“ธเนศวร์” ยังระบุด้วยว่า นอกจากแผนการส่งเสริมการท่องเที่ยวแล้ว ในด้านการขนส่งและอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวทาง ททท.ก็ให้ความสำคัญเช่นกัน โดยได้พยายามเจรจากับสายการบินต่าง ๆ ให้เพิ่มความถี่เที่ยวบินในเส้นทางบินเดิมและเปิดเส้นทางบินใหม่ ๆ เพิ่มอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ จากเมืองหลักของประเทศในอาเซียนสู่เมืองหลักของไทย และจากเมืองหลักของอาเซียนสู่เมืองรองของไทย และจากเมืองรองประเทศในอาเซียนสู่เมืองรองของไทย

พร้อมย้ำว่า ททท.เองพร้อมสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวในเดสติเนชั่นต่าง ๆ ที่สายการบินมีแผนเพิ่มเส้นทางบิน เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวได้สะดวก อีกทั้งยังช่วยกระจายนักท่องเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ด้วย