“ไมซ์ โลคอล” ชูเอกลักษณ์ถิ่น มุ่งสร้างงานระดับชาติ-ดูดงานอินเตอร์

ในงานไมซ์ สแตนดาร์ด เดย์ 2019 ที่จัดขึ้นโดย “ทีเส็บ” เพื่อกระตุ้นองค์ความรู้และสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการไมซ์ รวมถึงมอบมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย หรือ Thailand MICE Venue Standard (TMVS) มีผู้ประกอบการไมซ์โลคอลที่โดดเด่น

3 ราย จาก 3 จังหวัดเข้าร่วมงาน

“ประชาชาติธุรกิจ” ได้พูดคุยเพื่ออัพเดตความก้าวหน้าในปีที่ผ่านมา รวมถึงเป้าหมายของปีนี้ ไว้ดังนี้

“พงษ์รัตน์ เหลืองธำรงเจริญ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท สิงห์ปาร์ค เชียงราย จำกัด อธิบายว่า สิงห์ปาร์ค เชียงราย ต้องการที่จะยกระดับสิงห์ปาร์คสู่จุดหมายปลายทางระดับโลก จึงได้มุ่งเป้าที่จะสร้างการเติบโตทางธุรกิจไปพร้อมกับการกระจายความสุขสู่ชุมชนเพื่อความยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาความร่วมมือของภาคเอกชนและภาคประชาชน เพื่อพัฒนา “เชียงรายโมเดล” ให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี  ปกติแล้วงานประจำปีที่โดดเด่นที่สุดของ “สิงห์ปาร์ค” คือ งาน International Balloon Fiesta ที่ได้รับความนิยมจนมีผู้เข้าชมงานกว่า 300,000 คน และทำให้อัตราการเข้าพักโรงแรมในพื้นที่เชียงรายพุ่งเกือบถึง 100% แต่สิงห์ปาร์ค
ก็ยังมีความพยายามจะขยายฤดูกาลในการท่องเที่ยวภาคเหนือออกไปให้นานยิ่งขึ้น ด้วยการจัดงานเทศกาลฟาร์มเฟสติวัลในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงกำลังเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่นของภาคเหนือ

นอกจากนั้นยังได้มุ่งที่จะพัฒนาเทศกาลอื่น ๆ เพื่อเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวและสร้างความต่อเนื่องให้กับการท่องเที่ยวในภาคเหนือ โดยได้ริเริ่มบางเทศกาลไปบ้างแล้ว อาทิ เทศกาลเปลี่ยนโลว์ซีซั่นให้เป็นกรีนซีซั่นในช่วงหน้าฝน เพื่อเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อหน้าฝนในภาคเหนือของไทย รับนักท่องเที่ยวจากโซนตะวันออกกลางให้มาสัมผัสกับพื้นที่สีเขียวและกิจกรรมอันชุ่มฉ่ำในไทย

ขณะเดียวกันยังได้เตรียมสร้างจุดหมายปลายทางด้านกีฬาระดับโลก ด้วยบึงน้ำขนาดใหญ่กว่า 3 ล้านลูกบาศก์เมตร บนพื้นที่ 280 ไร่ ที่จะมาพร้อมโรงแรมระดับ 6 ดาว โดยเชื่อว่ามาตรฐาน TMVS ที่ได้รับ จะเป็นสิ่งการันตีว่า “สิงห์ปาร์ค เชียงราย” สามารถจัดงานระดับโลกในขนาดที่ใหญ่ขึ้น และดูแลนักเดินทางกลุ่มไมซ์ได้เป็นอย่างดี

เช่นเดียวกับ “วราภรณ์ โพธิกุดสัย” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น (KICE) ที่บอกว่า ในปี 2561 ที่ผ่านมา KICE ได้รองรับการจัดกิจกรรมไมซ์ไปกว่า 160 งาน โดยกว่า 90% เป็นกิจกรรมไมซ์ภายในประเทศ

เป้าหมายในปีนี้จึงเป็นการคงสถานะการเป็นสถานที่จัดงานไมซ์ชั้นนำของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รักษาจำนวนกิจกรรมไมซ์ในปีก่อนเอาไว้ด้วยจำนวนที่ไม่ต่ำกว่า 160 งาน และมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนกิจกรรมไมซ์ประมาณ 200 งาน ด้วยอัตราการเข้าร่วมงาน 70-80% โดยแบ่งเป้าหมายสัดส่วนเป็นงานในประเทศ 80% งานจากต่างประเทศในระดับภูมิภาค หรือนานาชาติ 20% และในระยะยาวตั้งเป้าว่าในอีก 3-4 ปี จะสามารถดึงดูดงานจากต่างชาติได้มากขึ้น และเพิ่มสัดส่วนเป็น 50%

พร้อมทั้งขยายขอบข่ายของงานไมซ์ให้ครอบคลุมหลากหลายมากยิ่งขึ้น และสร้างเครือข่ายพันธมิตรในด้านที่พักและโลจิสติกส์ที่มีคุณภาพ ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มพูดคุยทาบทามกับผู้ว่าราชการจังหวัดถึงการจัดงานคอนเวนชั่นระดับเอเชียบ้างแล้ว

ด้านผู้ประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน TMVS หน้าใหม่อย่าง “ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค” นั้น “ดร.สมพล รัชตพิมลชัย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาดให้ข้อมูลว่า ด้วยอยุธยาซิตี้พาร์คมีธุรกิจหลักเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ทำให้ที่ผ่านมาบริษัทมุ่งเป้าทำตลาดศูนย์การค้าเป็นหลักมากกว่าตลาดไมซ์

แต่ด้วยความเหมาะสมของพื้นที่ที่มีคอนเวนชั่นฮอลล์ขนาดใหญ่กว่า 2,000 ตารางเมตร ฮอลล์ขนาดกลาง 2 ห้อง และห้องประชุม 4 ห้อง รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและมาตรฐาน TMVS ด้านสถานที่จัดแสดงสินค้า ทำให้คอนเวนชั่นฮอลล์ของอยุธยาซิตี้พาร์คได้รับความนิยมและความไว้วางใจจากลูกค้าไมซ์จำนวนมากและหลากหลาย

ตั้งแต่ลูกค้ากลุ่มการประชุมสัมมนา ลูกค้ากลุ่มจัดเลี้ยงจัดงานมงคลสมรส รวมถึงลูกค้ากลุ่มการจัดแสดงสินค้าและนิทรรศการระดับโลก อย่างงาน 6Th Food & Beverage Trade Fair 2018 หรืองาน ABB Digitalization for a Sustainable Growth of Food & Beverage Industry 2018 ที่เลือกอยุธยาซิตี้พาร์คเป็นสถานที่จัดงาน

โดยล่าสุด “อยุธยาซิตี้พาร์ค” ยังได้รับการรับรองมาตรฐาน TMVS ด้านพื้นที่จัดงานพิเศษ ในบริเวณลาน Fabric Roof ชั้น 1 ที่มีขนาดพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร สามารถจุคนได้มากกว่า 10,000 คน ซึ่งในปีที่ผ่านมามีการจัดงานอีเวนต์บริเวณดังกล่าวประมาณ 60-80 งานต่อปี หรือเรียกได้ว่ามีงานทุกเดือน และทุกโอกาสพิเศษ จึงคาดว่าหลังได้รับมาตรฐานดังกล่าวจะทำให้พื้นที่นี้ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น และได้รับเลือกจากงานอีเวนต์ที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นอีกด้วย รวมถึงทางบริษัทจะนำร่องจัดกิจกรรมที่โดดเด่นชูเอกลักษณ์ของอยุธยา อาทิ เทศกาลกินกุ้งแม่น้ำ ฯลฯ ต่อไป

ซึ่งนอกจากการพัฒนาสถานที่จัดงานให้ได้มาตรฐานแล้วนั้น ยังมุ่งเป้าพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้และความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับการจัดงานในอุตสาหกรรมไมซ์มากยิ่งขึ้น เพื่อให้บุคลากรสามารถออกแบบงานไมซ์ที่แตกต่าง รองรับโจทย์ของห้างร้านองค์กรอื่น ๆ ได้มากยิ่งขึ้น


ทั้งนี้ ตั้งเป้าว่าในแต่ละปี ส่วนพื้นที่จัดกิจกรรมไมซ์จะต้องเติบโตอย่างน้อย 20% และมีงานประชุมและจัดแสดงระดับนานาชาติอย่างน้อย 5 งานต่อปี พร้อมทั้งคาดว่าในระยะ 3-5 ปีนี้ “อยุธยาซิตี้พาร์ค” จะเป็นสถานที่จัดกิจกรรมไมซ์ที่โดดเด่นที่สุดในภาคกลางตอนบน และจะขยายสัดส่วนของรายได้จากพื้นที่กิจกรรมไมซ์เพิ่มเป็น 15-20% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนที่น้อยมาก