JNTO โหมโปรโมต “เที่ยวญี่ปุ่น” รับโอลิมปิก 2020 ดูดทัวริสต์ 20 ล้านคน

“JNTO” ชี้แนวโน้มคนไทยเที่ยวญี่ปุ่นโตพุ่ง เผยแอร์ไลน์แห่เพิ่มเส้นทางบินตรง-เพิ่มความถี่ เร่งอัดโปรโมตรับโอลิมปิก 2020 เต็มที่ พร้อมเตรียมโหมพื้นที่ท่องเที่ยวโซนตะวันออกเฉียงเหนือ “โทโฮคุ” ดูดนักท่องเที่ยว ตั้งเป้าปีนี้กวาดนักท่องเที่ยวไทยกว่า 1.2 ล้านคน คาดอีก 10 ปีญี่ปุ่นมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทะลุ 60 ล้านคน

นายเอโกะ โอะนุมะ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น สำนักงานกรุงเทพฯ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวในญี่ปุ่นช่วงต้นปีที่ผ่านมา (เดือนมกราคม-มีนาคม) มีจำนวนนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปท่องเที่ยวในญี่ปุ่นกว่า 347,800 คน เติบโตเพิ่มขึ้น 23.9% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขการเติบโตที่ดี เนื่องจากเติบโตสูงกว่าการเติบโตเฉลี่ยที่ 14.7% ในปี 2561 ที่ผ่านมา

แอร์ไลน์บินตรง-เพิ่มไฟลต์หนุน

ทั้งนี้ มองว่าสาเหตุที่ทำให้ตลาดไทยเติบโตต่อเนื่องในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา และยังคาดว่าจะส่งผลให้ตลาดไทยเติบโตได้ดีต่อไปในปี 2562 นี้มาจากปัจจัยสำคัญ คือ การเพิ่มขึ้นของเส้นทางบินและเที่ยวบินตรงระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ตั้งแต่ประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน 2561 ที่ทำให้จำนวนที่นั่งรวมเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดมาตั้งแต่พฤษภาคมปีก่อนและความนิยมของคนไทยที่มีต่อการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นที่ดีและต่อเนื่อง

“จากการตอบแบบสอบถามรวมทุกสัญชาติพบว่า ไทยเป็นเพียงชาติเดียวที่ต้องการข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวญี่ปุ่นมากเป็นอันดับ 1 จากหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงวงการท่องเที่ยวญี่ปุ่นทั้งภาครัฐและเอกชนก็ให้ความสำคัญกับการทำตลาดท่องเที่ยวอาเซียนรวมถึงไทยเป็นอย่างมาก และเราก็ทุ่มเทอย่างเต็มกำลังในการเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวไทยไปญี่ปุ่นเช่นกัน”

ดึงคนไทยปีนี้กว่า 1.2 ล้านคน

นายเอโกะ กล่าวต่อไปว่า สำหรับเป้าหมายของ JNTO ในปีนี้นั้นเป็นตัวเลขที่อ้างอิงจากเป้าหมายของรัฐบาลญี่ปุ่นที่ต้องการให้ภายในปี 2563 หรือปีที่ญี่ปุ่นรับหน้าที่เจ้าภาพโอลิมปิก 2020 จะต้องมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นทะลุ 40 ล้านคน จากปีที่ผ่านมามีจำนวน 31 ล้านคน ทำให้เมื่อแบ่งจำนวนนักท่องเที่ยวเป้าหมายออกมาเป็นแต่ละชาติแล้ว ในปี 2562 นี้ JNTO สำนักงานกรุงเทพฯ จะต้องสร้างการเติบโตให้ได้อย่างน้อย 13.3% หรือคิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวไทยประมาณ 1,283,000 คน

อย่างไรก็ตาม จากภาพรวมในปี 2561 ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ ฮ่องกง ไต้หวัน และอีกหลายประเทศที่เดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่นมากเป็นอันดับต้น ๆ มีการชะลอตัวหรือลดจำนวนลง ทำให้ประเทศที่มีอัตราการเติบโตสูงหลายประเทศรวมถึงไทยจะต้องเพิ่มเป้าหมายขึ้นไปจาก 13.3% ด้วย

โหมโปรโมต “โทโฮคุ” เสริมทัพ

นายเอโกะยังกล่าวถึงแผนทางการตลาดด้วยว่า ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา JNTO ได้แบ่งกลุ่มเป้าหมายในไทยออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มกรุงเทพฯและปริมณฑลเที่ยวซ้ำ (Bangkok and perimeter repeater) ซึ่งมีสัดส่วนมากที่สุดที่ 66% กลุ่มกรุงเทพฯใหม่ (Bangkok new) และกลุ่มต่างจังหวัด (province) ซึ่งด้วยนโยบายใหม่ของญี่ปุ่นกำหนดให้ทุกแผนที่ทำอยู่จะต้องทำต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 3 ปี ทำให้ JNTO จะยังคงใช้การแบ่งกลุ่มเป้าหมายนี้ไปจนถึงปี 2564

นอกจากนั้น ยังได้เตรียมนำเสนอภูมิภาคใหม่สำหรับกลุ่มกรุงเทพฯและปริมณฑลเที่ยวซ้ำ โดยเลือกนำเสนอ “โทโฮคุ” หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศที่ประกอบไปด้วย 6 จังหวัด อาทิ อาโอโมริ, อิวาเตะ, อากิตะ, ฟูกูชิมา และยามากาตะ ซึ่งสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และมีทิวทัศน์ธรรมชาติ วัฒนธรรม และอาหารที่หาได้ยากจากที่อื่น ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำหลายแห่ง อาทิ ปรากฏการณ์น้ำแข็งซาโอะ หรือไอซ์มอนสเตอร์ เทศกาลเซนไดทานาบาตะ สำหรับชมซากุระเบ่งบานเต็มสวน ปราสาทสึรุกะในเมืองซามูไร รวมถึงบ่อน้ำพุร้อนมากมาย

โดยจะแบ่งการทำการตลาดเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรก จะจัดงานให้ข้อมูลด้านการท่องเที่ยว (Travel Information Event) ในวันที่ 24-25 สิงหาคม 2562 เพื่อโปรโมตภูมิภาคโทโฮคุโดยเฉพาะ นำเสนอเอกลักษณ์ทั้งทางด้านการท่องเที่ยววัฒนธรรม และอาหารถิ่น ให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถสัมผัสประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับของจริง ส่วนที่สองคือ การใช้ผู้มีชื่อเสียง (influencer) และการโฆษณาในการโปรโมตเช่นเดียวกับที่แดน วรเวช และแพทตี้ อังศุมาลิน ได้ร่วมเดินทางไปที่ญี่ปุ่นมาแล้วในปีที่ผ่านมา

เดินหน้าอัดการตลาดทุกรูปแบบ

นอกจากนี้ ยังคงจัด “งานเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง” เช่นเดียวกับปีก่อน ๆ เพื่อนำเสนอการท่องเที่ยวญี่ปุ่นในมุมมองต่าง ๆ ซึ่งจะมีองค์กรท่องเที่ยวท้องถิ่นและองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นเข้าร่วมงาน พร้อมกับสายการบิน รวมทั้งผู้ประกอบการทัวร์ไทยที่จะมาเสนอขายทัวร์ให้กับผู้เข้าร่วมงาน ระหว่าง 8-10 พฤศจิกายนนี้ ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน

ขณะเดียวกัน ในปีหน้านี้ยังมีแผนเข้าร่วมงาน Thai International Travel Fair 2019 และการโรดโชว์ตามหัวเมืองต่าง ๆกับทางสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) เพื่อทำตลาดต่างจังหวัด โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาจังหวัดที่จะร่วมเดินทางไป ซึ่งขณะนี้ JNTO มองว่าเชียงใหม่หรือภูเก็ตอาจจะเหมาะสมกับการทำตลาดท่องเที่ยวญี่ปุ่น

คาดปี”73 นทท.พุ่ง 60 ล้านคน

“แม้ตลาดท่องเที่ยวระยะใกล้จำนวนชั่วโมงบินน้อย อย่างไทย-ญี่ปุ่นจะมีคู่แข่งขันอย่างเกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง แต่เราจะยังคงมุ่งเสนอสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ แตกต่าง และสามารถหาได้ที่ญี่ปุ่นเท่านั้น จึงไม่มีความกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันในตลาดแต่อย่างใด”


นอกจากปี 2563 ที่ญี่ปุ่นได้ตั้งเป้านักท่องเที่ยวไว้ที่ 40 ล้านคนแล้วรัฐบาลญี่ปุ่นยังได้ตั้งเป้าที่จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 60 ล้านคน ภายในปี 2573 หรือ 2030 อีกด้วย โดยจะมุ่งกระจายการท่องเที่ยวออกไปให้ทั่วทั้งประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความแออัดของนักท่องเที่ยวในเมืองหลัก