“แอคคอร์” ประกาศโหมลักเซอรี่-ไลฟ์สไตล์แบรนด์ ตั้งเป้าเปิดให้บริการ 280 แห่งทั่วเอเชีย-แปซิฟิก ส่วนตลาดไทยขยับสู่ 90 แห่งภายในปีนี้ ล่าสุดรุกสู่ตลาดแบรนด์เรสซิเดนซ์ลักเซอรี่ในอาเซียนแห่งแรกภายใต้ชื่อ “เอ็มแกลลอรี่ เรสซิเดนซ์” บนเกาะภูเก็ต
นายแพทริก บาสเซ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ และมัลดีฟส์ เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 2562-2563 ว่า แอคคอร์โฮเทลมีเป้าหมายที่จะขยายการดำเนินงานในเอเชีย-แปซิฟิกเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยวางแผนที่จะเปิดโรงแรมใหม่อีก 280 แห่ง ในจำนวนนี้เป็นโรงแรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 50 โรงแรม ส่วนในไทยนั้นอยู่ระหว่างการดำเนินงานก่อสร้าง 13 แห่ง ซึ่งจะทำให้แอคคอร์โฮเทลมีจำนวนโรงแรมเพิ่มจากปัจจุบัน 82 แห่งเป็นเกือบ 90 แห่งภายในสิ้นปีนี้
โดยแอคคอร์โฮเทลจะมุ่งเน้นการเปิดบริการแบรนด์ใหม่ ๆ ที่ในไทยยังไม่เคยมีมาก่อนใน 2 เซ็กเมนต์ คือ ลักเซอรี่แบรนด์ ได้แก่ ราฟเฟิลส์ และแฟร์มองต์ ซึ่งทั้งสองแบรนด์ยังอยู่ระหว่างการเจรจาทำสัญญาในประเทศไทย และไลฟ์สไตล์แบรนด์ ได้แก่ ทเวนตี้ไฟฟ์ฮาวน์ (25hour) และมาม่า เชลเตอร์ (mama shelter) ซึ่งทำสัญญาบางส่วนแล้ว และมีหลายโรงแรมที่น่าจะเปิดบริการบางส่วนได้ภายในสิ้นปีนี้ อาทิ ไอบิส สไตล์ รัชดา (ibis Styles Ratchada), โนโวเทล เชียงใหม่ (Novotel ChaingMai) เป็นต้น
- มอเตอร์โชว์ 2024 เริ่มแล้ว
- บัตรเครดิตซิตี้ ย้ายไป UOB บัตรประเภทไหน เปลี่ยนแปลงอย่างไร
- คำแนะนำจาก ซีอีโอ “ฮั่วเซ่งเฮง” ยุคทอง (โคตร) แพง ต้องลงทุนอย่างไร ?
นอกจากนั้นในปีนี้ แอคคอร์โฮเทลภายใต้แบรนด์เอ็มแกลเลอรี่ (M Gallery)ยังได้ร่วมกับมอนท์เอซัวร์ เปิดตัว “เอ็มแกลเลอรี่ เรสซิเดนซ์” แห่งแรกในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้ชื่อ “มอนท์เอซัวร์ เลคไซด์” (MontAzure Lakeside) โครงการเรสซิเดนซ์ระดับห้าดาวขนาด 236 ยูนิต ในห้องรูปแบบสตูดิโอ และ 1 ห้องนอน ที่เปิดให้สามารถเลือกซื้อและเชื่อมต่อห้องเข้าด้วยกันเป็นชุด พร้อมมีคลับเฮาส์และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ซึ่งเอ็มแกลเลอรี่รับหน้าที่บริหารงานและมอบสิทธิพิเศษระดับ V.I.P. ของแอคคอร์โฮเทลให้กับลูกค้า
“ปัจจุบันนักลงทุนเริ่มให้ความสำคัญและเป็นประโยชน์ของการลงทุนในรูปแบบแบรนด์เรสซิเดนซ์มากยิ่งขึ้นทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฟิลิปปินส์และเวียดนาม เนื่องจากศักยภาพที่โครงการแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ทั้งสามารถทำกำไรได้อย่างเหมาะสม ได้รับการดูแลบริหารสินทรัพย์โดยมืออาชีพ ทำให้สามารถลดอัตราการสูญเสียหรือเสื่อมสภาพของอสังหาริมทรัพย์ได้จริง” นายแพทริกกล่าว
ด้านนายเศรษฐพล บุตรโท กรรมการบริหาร โครงการมอนท์เอซัวร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เชื่อว่ามอนท์เอซัวร์ เลคไซด์ ซึ่งได้รับแคแร็กเตอร์ที่เด่นชัดจากเอ็มแกลเลอรี่ และชื่อเสียงของแอคคอร์จะสามารถดึงดูดนักลงทุนเข้ามาร่วมในโครงการที่คาดการณ์ผลตอบแทนที่ 5-7% ซึ่งอ้างอิงจากกลุ่มเป้าหมายเดิมของคอนโดมิเนียมริมทะเลใต้โครงการเดียวกันอย่าง “ทวินปาล์ม เรสซิเดนซ์ มอนท์เอซัวร์” คาดว่ากลุ่มเป้าหมายของมอนท์เอซัวร์ เลคไซด์ จะแบ่งเป็นนักลงทุนชาวไทย 40% และต่างชาติ 60% ในกลุ่มนักลงทุนเอเชีย ยุโรป และอื่น ๆ
ทั้งนี้ โครงการมอนท์เอซัวร์ เลคไซด์ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการมอนท์เอซัวร์ มิกซ์ยูส มูลค่า 15,000 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 454 ไร่ ณ หาดกมลา จังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย เรสซิเดนซ์ระดับลักเซอรี่ คอนโดมิเนียมริมทะเล รีสอร์ต 5 ดาว ไลฟ์สไตล์มอลล์ และศูนย์สุขภาพ รวมถึงร้านอาหารและบีชคลับ ซึ่งขณะนี้โครงการได้พัฒนาไปกว่า 50% ของพื้นที่แล้ว และเชื่อว่าในปี 2562 นี้ โครงการจะเปิดให้บริการได้กว่า 25-30% จากโครงการทั้งหมด ซึ่งส่วนที่เปิดให้บริการแน่นอนแล้ว ได้แก่ คาเฟ่ เดล มาร์, ร้านอาหารเอชคิว บีช เลานจ์, ทวินปาล์ม เรสซิเดนซ์ มอนท์เอซัวร์ และอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ท ซึ่งจะเปิดให้บริการปลายปี 2562 นี้